ต้องบอกว่า “งานเข้า” ทั้งๆ ที่กำลังมีข่าวดี ได้รับเชิญเป็นแกนนำ “ว่าที่พรรคร่วมรัฐบาลก้าวไกล” ก็คือ กัณวีร์ สืบแสง ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคเป็นธรรม
กัณวีร์ โดนขุดคุ้ยจากบางฝ่ายว่าเคยให้สัมภาษณ์ทำนองว่า เป็นหลานปู่ของ นายแพทย์เจริญ สืบแสง หรือ “ขุนเจริญวรเวช” อดีตแพทย์ประจำจังหวัดปัตตานี อดีตสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี ซึ่งเคยเป็นนักการเมืองท้องถิ่น รวมถึงเป็นอดีต ส.ส.ปัตตานี 3 สมัย ช่วงก่อนและหลังปี พ.ศ.2500
“ขุนเจริญวรเวช” หรือ “หมอเจริญ สืบแสง” เข้าร่วมกับขบวนการสันติภาพ ในช่วงที่การเมืองสับสนวุ่นวาย ไม่มีความแน่นอน และถูกจับในฐานะ “ขบถสันติภาพ” ติดคุกนานหลายปี ก่อนได้รับการนิรโทษกรรมเมื่อปี พ.ศ.2500
มีข้อมูลทางประวัติศาสตร์บางแหล่งระบุว่า “ขุนเจริญวรเวช” เป็นเพื่อนกับ “หะยีสุหลง” ผู้นำจิตวิญญาณของพี่น้องมลายูมุสลิมปัตตานี
ฉะนั้นการที่ กัณวีร์ ให้สัมภาษณ์อ้างถึง “คุณปู่” ทำนองว่ามีประวัติพื้นเพเป็น “ชาวปาตานี” แม้ไม่ได้เอ่ยชื่อ “หมอเจริญ” หรือ “ขุนเจริญวรเวช” แบบตรงๆ แต่ก็ทำให้ตีความได้ว่าเป็นหลานปู่ของ “ขุนเจริญวรเวช” ซึ่งมีความสัมพันธ์เป็นเพื่อนกับหะยีสุหลง
ขณะที่ “พรรคเป็นธรรม” โดย กัณวีร์ ก็มีนโยบายเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยสนับสนุนแนวคิด “ปาตานี” ซึ่งเป็นแนวคิดเดียวกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ เรียกร้องให้ถอนทหาร และยกเลิกกฎหมายพิเศษ
ทำให้มีการมองว่าการให้สัมภาษณ์แบบนี้ส่งผลต่อคะแนนนิยมของกัณวีร์และพรรคเป็นธรรมหรือไม่ เข้าข่ายทำให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยม ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งด้วยหรือเปล่า (มาตรา 73(5) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฯ)
ขณะที่ครอบครัว ลูกหลานของหมอเจริญ ก็ออกมาปฏิเสธว่ากัณวีร์ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตระกูลสืบแสงที่สืบเชื้อสายมาจาก “ขุนเจริญวรเวช”
เพราะเมื่อตรวจสอบประวัติที่แท้จริง พบว่าคุณปู่ของกัณวีร์ คือ นายมั่น สืบแสง ซึ่งไม่ใช่พี่น้องร่วมตระกูลหมอเจริญ หรือขุนเจริญวรเวช และน่าจะไม่ใช่คนจังหวัดปัตตานี เนื่องจากเป็นชื่อสกุลที่ตั้งขึ้นเอง และพ้องกับสกุล “สืบแสง” ของหมอเจริญเท่านั้น
@@ เจ้าตัวออกโรงแจงไม่เคยอ้าง - ขออภัยหากไม่สบายใจ
ล่าสุด กัณวีร์ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กปฏิเสธเรื่องนี้แล้ว...
“ผมขอยืนยันว่า ผมไม่เคยบอกว่าเป็นหลานโดยตรงของ นพ.เจริญ สืบแสง ผมบอกเสมอว่า ปู่ของผมชื่อ นายมั่น สืบแสง ผมเป็นเพียงรุ่นหลานที่เห็นว่า นพ.เจริญ สืบแสง รุ่นปู่ เป็นบุคคลที่น่ายกย่องในคุณงามความดี เป็นต้นแบบของการสร้างสันติภาพในประเทศไทย ผมในฐานะรุ่นหลาน ได้ไปทำงานสันติภาพโลกมาหลายประเทศ จึงเคารพนับถือในอุดมการณ์ของ นพ.เจริญ สืบแสง ในฐานะที่นามสกุลสืบแสง จึงคิดว่าเป็นเรื่องดีที่จะใช้ประสบการณ์ทำงานของผมมาสร้างสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ สันติภาพปาตานี
ผมต้องขออภัยหากมีสิ่งใดทำให้ไม่สบายใจ ผมยืนยันว่า ไม่เคยนำชื่อของ นพ.เจริญ สืบแสง ไปหาประโยชน์ทางการเมือง มีแต่จะยกย่องในฐานะนักสันติภาพเท่านั้น และในการหาเสียงผมได้มุ่งเน้นเรื่องนโบบายของพรรคเป็นธรรม เป็นหลัก จึงขอชี้แจงเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดครับ”
@@ ย้อนข้อมูลเคยอ้างสืบเชื้อสายคนจีนปัตตานี รุ่นปู่เป็นกบฏสันติภาพ
“ทีมข่าวอิศรา” สืบค้นย้อนหลังการสัมภาษณ์ของกัณวีร์ พบว่ามีการไปพูดในรายการตอบโจทย์ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เมื่อวันที่ 25 เม.ย.66 ซึ่งอยู่ในช่วงที่มีการหาเสียงเลือกตั้ง
กัณวีร์ ให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งว่า “เป็นธรรม เป็นพรรคการเมืองเล็กๆ ของประเทศนี้ แต่เราปักหมุดว่าจะเป็นพรรคการเมืองที่ยิ่งใหญ่ของชาวปาตานี ทำงานโดยชาวปาตานี และก็ทำงานเพื่อลูกหลานพี่น้องชาวปาตานี ผมเองถึงแม้ชื่อหรือนามสกุลจะแตกต่าง มองไม่เห็นว่าผมอยู่ภาคใต้อย่างไร จริงๆ ประวัติของผมครอบครัวก็มาจากพื้นที่ปาตานีนั้นเอง หลายๆ คนก็บอกว่าเป็น “จีนอ” (คนจีนในภาษามลายู) ก็คือรุ่นของคุณปู่ที่เคยอยู่ในปัตตานี และก็ทำงานในพื้นที่ เพราะฉะนั้นตัวผมเอง รุ่นปู่โดนเรื่องกบฏสันติภาพ ตัวผมเองเดินทางสายสันติภาพมาค่อนข้างจะยาวนาน ผมจะมาสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้น ผมจะทำสันติภาพเป็นสันติภาพที่กินได้ ในพื้นที่ปาตานีให้ได้”
เป็นที่น่าสังเกตว่า คำให้สัมภาษณ์ดังกล่าว กัณวีร์ บอกว่า ครอบครัวเป็นคนจีนมาจากพื้นที่ปัตตานี และ รุ่นคุณปู่เคยอยู่ในปัตตานี โดนเรื่องกบฏสันติภาพ
จากการตรวจสอบบันทึกประวัติศาสตร์พบว่า คนในตระกูลสืบแสงที่โดนเรื่องกบฏสันติภาพ คือ นพ.เจริญ สืบแสง
ขณะที่ประวัติของ นพ.เจริญ สืบแสง มีพี่น้องที่เป็นผู้ชาย 6 คน คือ นายจรูญ สืบแสง, นายสิงห์ สืบแสง, นพ.จรัส สืบแสง, นพ.สวัสดิ์ สืบแสง, นพ.มงคล สืบแสง, นพ.วิเชียร สืบแสง โดยไม่มี นายมั่น สืบแสง ที่เป็นปู่ของ กัณวีร์ สืบแสง แต่อย่างใด
@@ พูดให้เข้าใจพลาด หรือนักข่าวเข้าใจผิด?
เฟซบุ๊ก THE MOTIVE เคยเขียนเรื่องของกัณวีร์เอาไว้ ตอนหนึ่งระบุว่า คุณปู่ของกัณวีร์ ชื่อว่า นายมั่น สืบแสง เป็นญาติรุ่นเดียวกันกับ นพ.เจริญ สืบแสง และนายจรูญ สืบแสง ซึ่งดั้งเดิมพวกเขาเป็นคนจีนที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดปัตตานี แต่หลังจากถูกเล่นงานโดยรัฐบาลในสมัยนั้น พวกเขาจึงอพยพหนีไปอาศัยอยู่ที่กรุงเทพมหานคร และมีลูกมีหลานในกรุงเทพมหานครจวบจนถึงปัจจุบัน หนึ่งในนั้น คือ กัณวีร์ สืบแสง
ในรายการสุมหัวคิด ช่อง VOICE TV เมื่อวันที่ 28 ก.พ.66 กัณวีร์กล่าวถึงเรื่องครอบครัวตอนหนึ่งว่า “นามสกุลนี้มาจากใต้ มาจากปัตตานี รุ่นคุณปู่หลายปีแล้ว บ้านผมไม่มีที่ปัตตานี ตอนนี้ย้ายกันมาหมดเลย คนนามสกุลสืบแสงจะไม่อยู่ในพื้นที่แล้ว เพราะว่าเราก็มีปัญหาสมัยโบราณ ตอนนั้นมีทั้งกบฏสันติภาพ คุณปู่ผมก็โดนจับเรื่องกบฏสันติภาพที่ต่อต้านเกี่ยวกับการส่งทหารไปรบที่เกาหลี ก็โดนจับพอดี หะยีสุหลงกับ นพ.เจริญ เป็นเพื่อนกัน เผอิญ นพ.เจริญ โดนจับเข้าคุกไปก่อน โดนกบฏสันติภาพ หะยีสุหลงก็ถูกอุ้มหาย พวกนี้คือสู้เพื่อสันติภาพที่เกิดขึ้น”
@@ ลูกหลานหมอเจริญ ชี้แค่นามสกุลซ้ำ ไม่ได้เป็นญาติ
ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ Tangkwar Suebsaeng ซึ่งระบุว่าเป็นลูกหลาน นพ.เจริญ คนหนึ่ง โพสต์อธิบายว่า “เราเป็นหลาน นพ.มงคล ค่ะ ที่เป็นพี่น้องกับ นพ.เจริญ เรายินดีหากคุณกัณวีร์ต้องการที่จะช่วยพัฒนาประเทศค่ะ แต่หนึ่งในพื้นฐานของการพัฒนาประเทศคือการให้ข้อมูลจริงและชัดเจนแก่ประชาชนให้รับทราบโดยที่ไม่บิดเบือนค่ะ
ขออนุญาตชี้แจงเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดต่อๆ ไปนะคะ เพราะยังเห็นสื่อบางสำนักให้ข้อมูลโดยที่ไม่ศึกษาข้อเท็จจริงอยู่ค่ะ (ผิดจรรยาบรรณสื่อนะคะ) และมีหลายคนที่แชร์ข้อมูลที่ผิดๆ นี้อยู่
“นายมั่น” กับ “นพ.เจริญ” ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดค่ะ ไม่ได้เป็นญาติกันค่ะ แค่นามสกุลเหมือนกันเฉยๆ ในสมัยก่อน การจดทะเบียนนามสกุลสามารถซ้ำกันได้ค่ะ ที่มาของนามสกุล นพ.เจริญ มาจากการจดทะเบียนนามสกุลของบิดาในสมัยรัชกาลที่ 6 ค่ะ ซึ่งทางครอบครัวเรามีหนังสือที่เป็นหลักฐานทางชีวประวัติอยู่ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
@@ รู้จัก “นพ.เจริญ สืบแสง” อดีต ส.ส.ปัตตานี 3 สมัย
จากการสืบค้นข้อมูลในอินเทอร์เน็ต พบประวัติของ นพ.เจริญ สืบแสง เกิดเมื่อวันที่ 11 พ.ย.2445 ที่ อ.เมือง จ.ปัตตานี เป็นบุตรคนที่ 2 ของ ขุนวรเวชวิชกิจ (ซุ้ย สืบแสง) กับ นางอุ่น สืบแสง ซึ่งบิดาได้เดินทางไปเป็นแพทย์ที่มณฑลปัตตานี ตั้งแต่ พ.ศ.2443 มีพี่น้องทั้งหมด 9 คน
สำเร็จแพทยศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อ พ.ศ.2466 และเข้ารับราชการในกรมสาธาณสุข พ.ศ.2468 ได้รับการบรรจุเป็นแพทย์หลวงประจำจังหวัด ต่อมา พ.ศ.2473 ได้ย้ายไปรับตำแหน่งสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส และในปีเดียวกันนี้เองก็ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น "ขุนเจริญวรเวช" ใน พ.ศ. 2477 ต้องย้ายไปประจำกรมสาธารณสุข และได้ย้ายกลับปัตตานี
เริ่มเข้าสู่วงการการเมืองในปี พ.ศ.2479 โดยได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลเมืองปัตตานี และใน พ.ศ.2483-2489 ได้รับเลือกตั้งให้เป็นนายกเทศมนตรีเมืองปัตตานี หลังจากนั้นได้ลงสมัครรับเลือกตั้งและได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดปัตตานี ครั้งแรกเมื่อ ม.ค.2489 ซึ่งการเมืองในช่วงนั้นมีการปฏิวัติรัฐประหารและยุบสภากันบ่อยๆ และมีการเลือกตั้งใหม่ถึง 4 ครั้งในช่วงระยะเวลาเพียง 3 ปีกว่า จากวันที่ 6 ม.ค.2489 – 23 มี.ค.2492 ซึ่ง “ขุนเจริญวรเวช” ก็ได้รับการเลือกตั้ง (สมัยที่ 2)
ในปี พ.ศ.2492 “ขุนเจริญวรเวช” ได้เข้าร่วมกับคณะบุคคลก่อตั้งขบวนการสันติภาพ โดยได้รับเลือกให้เป็นประธานคณะกรรมการฯ และถูกจับในฐานะ "ขบถสันติภาพ" ด้วยข้อหามีการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ ถูกคุมขังนานถึง 4 ปี ได้รับการนิรโทษกรรม เมื่อ พ.ศ.2500
เมื่อพ้นโทษแล้วได้ลงสมัครและได้รับการเลือกตั้ง ส.ส.ปัตตานี (สมัยที่ 3) เมื่อเดือน ธ.ค.2500 แต่ก็มีการยุบสภาอีกเมื่อวันที่ 29 ต.ค.2501 คราวนี้ “ขุนเจริญวรเวช” ถูกคณะปฏิวัติจับกุมอีกในข้อหาเดียวกัน ถูกคุมขังอีก 5 ปี จนได้รับอิสรภาพใน พ.ศ.2506 และได้ลงสมัครเป็นสมาชิกสภาเทศบาลเมืองปัตตานี และได้ดำรงตำแหน่งประธานสภาเทศบาลเมืองปัตตานีติดต่อกันตั้งแต่ พ.ศ.2506 จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตในปี พ.ศ.2512
“ขุนเจริญวรเวช” ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2512 ด้วยโรคมะเร็งในช่องจมูก ชาวปัตตานีได้ตั้งชื่อถนนทางเข้ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ว่า "ถนนเจริญประดิษฐ์" เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงคุณงามความดีที่ “ขุนเจริญวรเวช” มีต่อจังหวัดปัตตานี
อนึ่ง ประวัติ นพ.เจริญ สืบแสง อ้างอิงจาก https://web.archive.org/web/20160429180844/http://www.kananurak.com/mcontents/marticle.php?headtitle=mcontents&id=74134