โค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องบอกว่าดุเดือดสุดๆ
ไม่ใช่แค่พรรคการเมืองต่อสู้กันหลายพรรค แต่ยังมีอดีตข้าราชการระดับสูง กระโดดมาร่วมวง ด้วยการแฉบางพรรคการเมืองว่าหาเสียงมีเป้าหมายแบ่งแยกดินแดน ถ้าได้เข้าสภา เป็นรัฐบาล จะนำไปสู่การแยกดินแดนแน่ๆ
แม้หลายคนจะมองแง่ดีกว่า การออกมาส่งข้อความทางสื่อสังคมออนไลน์ของ “อดีตบิ๊กข้าราชการ” รายนี้ เป็นการแสดงความเป็นห่วงพื้นที่ปลายด้ามขวาน แต่ปรากฏว่าเรื่องนี้กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในพื้นที่ เพราะอดีตข้าราชการคนนี้ เป็นอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ รับราชการในจังหวัดชายแดนภาคใต้มาหลายสิบปี ปัจจุบันเกษียณแล้ว และยังมีตำแหน่งแห่งหนใหญ่โต
หลายคนข้องใจว่า อดีตข้าราชการรายนี้มีเจตนาแฝงอะไรหรือไม่ ที่อ้างว่ามีบางพรรคการเมืองหาเสียงแยกพุทธ มุสลิม และต้องการแบ่งแยกดินแดน ส่งผลให้ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยสร้างกระแสตอบโต้ในสื่อสังคมออนไลน์ โดยมองว่าเป็นวิธี “แยกคนแล้วปกครอง”
ซาฮารี เจ๊ะหลง นักกิจกรรมอิสระที่ทำงานในประเด็นปัญหาชายแดนใต้ มองว่า เป็นวาทกรรมที่สร้างความหวาดกลัว ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะนำมาพูดในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งกำลังมีบรรยากาศประชาธิปไตย สาเหตุอาจจะเป็นเพราะคนพูดไม่ต้องการให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ
“ผมมองว่ามันล้าหลัง ล้าสมัยแล้ว การโจมตีเรื่องการเมืองว่าเป็นพวกที่จะแบ่งแยกดินแดน มันไม่น่าจะมีแล้วยุคสมัยนี้ โดยเฉพาะเป็นคำพูดของอดีตข้าราชการ เพราะผู้ปกครองที่ดีจะต้องไม่แบ่งแยกผู้ที่ถูกปกครอง การแบ่งแยกคนพื้นที่ คนนั้นมุสลิม คนนี้พุทธ คนนั้นเป็นแบบนี้ คนนี้มีความคิดแบบนั้น มันไม่ใช่แล้ว เพราะที่นี่เป็นพื้นที่แห่งความหลากหลาย เราก็ต้องยอมรับทุกฝ่ายที่มีความคิดต่างถึงจะอยู่ร่วมกันได้” นักกิจกรรมชายแดนใต้ ระบุ
ขณะที่ มนตรี ดอเลาะ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลมะกรูด อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ มองว่า การโจมตีลักษณะนี้เป็นความพยายามช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมือง โดยไม่สนใจผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมา ถือว่าขาดความรับผิดชอบ
“อย่าลืมว่าการเมืองทำอะไรก็ได้ให้เขาเลือกเรา ช่วงนี้เป็นช่วงหาเสียของงผู้สมัคร ถ้าไปพื้นที่ไหน ผมจะเปรียบเทียบให้ฟังว่า ถ้าสมมุติไปถึงชาวบ้านบอกให้ขึ้นมะพร้าวให้หน่อย ผู้สมัครทุกคนก็ขึ้นเพื่อจะเอาคะแนนเสียง เพราะฉะนั้นอะไรก็ได้ เขาไม่มองผลกระทบในอนาคตว่าจะมีผลกระทบอย่างไร ขอให้ได้เสียงมาก่อน”
มนตรี บอกว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการวางแผนและเลือกใช้วิธีการแบบนี้ หวังผลต่อการเลือกตั้ง
“เขาจะดูว่าพื้นที่นี้ จุดอ่อนตรงไหน สมมติมีจุดอ่อนในเรื่องของไทยพุทธ ไทยมุสลิม เขาก็เอาจุดนี้ไปขยาย อีกพื้นที่ถ้ามีจุดอ่อนในเรื่องของราคายาง ราคาน้ำมัน เขาก็จะเอาอีกจุดไปขยาย แต่ไม่คิดถึงผลกระทบในอนาคต”
“เรื่องของนโยบายต่างๆ ก็เหมือนกัน ที่จะแจกเงิน 10,000 บาทบ้าง 30,000 บาทบ้าง จริงๆ แล้วสุดท้ายทำไม่ได้ เพราะประเทศไม่มีเงินแล้ว ประเทศไทยติดหนี้ พอได้เข้าเป็นรัฐบาล ทำนโยบายลดแลกแจกแถมก็ทำไม่ได้หรอก ผมมั่นใจแบบนั้น”
ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 ปัตตานี บอกด้วยว่า ตอนนี้ในหลายๆ พื้นที่ พี่น้องพุทธกับมุสลิมก็กลมเกลียวกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะใน อ.โคกโพธิ์
“ผมเป็นมุสลิม ผมเคยเป็นนายกเทศบาลมะกรูดมา 14 ปี ไทยพุทธ 70% มุสลิมแค่ 30% ก็เป็นมาตลอด เป็นมาจนไม่มีคู่แข่งโดยส่วนใหญ่พี่น้องไทยพุทธจะให้การสนับสนุน จริงๆ พี่น้องมุสลิมก็สนับสนุน แต่พี่น้องไทยพุทธจะเยอะกว่า ฉะนั้นการหยิบประเด็นแบ่งแยกศาสนามาหาเสียง สุดท้ายมันก็จะสร้างความแตกแยก เท่าที่ฟังมาตอนนี้ไม่มีใครเห็นด้วยที่ไปพูดว่าบางพรรคจะแยกดินแดน” มนตรี กล่าว