จะเรียกว่า “เด้งฟ้าผ่า” ก็คงไม่ผิด สำหรับ พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร ซึ่งวันนี้ต้องบอกว่าเป็นอดีตเลขาธิการ ศอ.บต. หรือ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปเรียบร้อยแล้ว
ศอ.บต.เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาของ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นหน่วยงานตามกฎหมาย ศอ.บต. หรือเรียกชื่อเต็มๆ ว่า พระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 ซึ่งยกร่างและบังคับใช้ช่วงปลายรัฐบาลประชาธิปัตย์ ยุค นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี
และมี รมช.มหาดไทย ที่รับผิดชอบปัญหาชายแดนใต้เป็นการเฉพาะ ชื่อ นายถาวร เสนเนียม วันนี้เป็นประธานพรรคไทยภักดี
ศอ.บต.นับเป็นหน่วยงานหลักใน “ภารกิจดับไฟใต้” โดยรับผิดชอบงานพัฒนา ทำงานควบคู่กับ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. ที่รับผิดชอบภารกิจความมั่นคง
ทั้งสองหน่วยงานงบประมาณล้นไม่ขาดมือ จึงเป็นที่หมายปองของข้าราชการน้อยใหญ่ ทั้งมีสีและไม่มีสี
ฉะนั้นสาเหตุการย้ายด่วน พล.ร.ต.สมเกียรติ จึงมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างสนใจใคร่รู้ และคาดเดากันไปต่างๆ นานา
เพราะแม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะอ้างว่าเป็นเพราะ พล.ร.ต.สมเกียรติ ใกล้ครบวาระ 4 ปี (รับตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 62) จึงเตรียมหาบุคคลที่เหมาะสมมารับตำแหน่งแทน แต่หากนับวันรับตำแหน่งของ พล.ร.ต.สมเกียรติ 22 ม.ค.62 วันนี้ต้องบอกว่าครบ 4 ปีไปแล้ว
แต่ที่ต้องขีดเส้นใต้เป็นหมายเหตุเอาไว้ คือคำสัมภาษณ์ของนายกฯประยุทธ์ ที่ยอมรับว่า มีประเด็นร้องเรียน พล.ร.ต.สมเกียรติ ในโซเชียลมีเดีย แม้จะบอกว่าต้องตรวจสอบต่อไป แต่ถ้าดูสไตล์การย้าย “บิ๊กข้าราชการ” เข้ากรุสำนักนายกฯที่ผ่านๆ มาของ นายกฯประยุทธ์ ต้องบอกว่างานนี้ไม่มีสอบสวนอะไรต่อค่อนข้างแน่
ฉะนั้นประเด็นที่น่าขุดค้นก็คือ มีความขัดแย้งอะไร และมีเรื่องเรียนอะไรในโซเชียลฯ
แหล่งข่าวในพื้นที่ จ.ยะลา ซึ่งเป็นจังหวัดฐานที่มั่นของ ศอ.บต. บอกกับ “ทีมข่าวอิศรา” ว่า เรื่องหนึ่งที่มีเค้าลางนำไปสู่การโยกย้าย เกิดขึ้นหลังจากการแข่งขันวิ่งเทรล Amazean Jungle Thailand by UTMB 2023 ที่ อ.เบตง จ.ยะลา ระหว่างวันที่ 17-19 ก.พ.66 ที่ผ่านมา โดยมี นายสิรภพ ดวงสอดศรี ที่ปรึกษา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน และมี พล.ร.ต.สมเกียรติ, ดร.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา, นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ ร่วมกันปล่อยตัวนักวิ่งจากจุดสตาร์ท ณ อุโมงค์มงคลฤทธิ์ เบตง นั้น
ปรากฏว่าเมื่อปล่อยนักวิ่งเสร็จ ช่วงหลังเที่ยงวันเดียวกัน ทุกสำนักข่าว และโลกโซเชียลฯได้นำเสนอกิจกรรมวิ่งเทรล โดยมีเนื้อหาข่าวเกี่ยวกับกิจกรรมที่สวยหรู โดยมีคำพูดของ พล.ร.ต.สมเกียรติ ในฐานะเลขาธิการ ศอ.บต. และ ดร.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความแตกต่างของการจัดวิ่งเทรลปี 2565 และ 2566 ว่า “ปีที่แล้วจัดขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมให้ได้การรับรองจาก UTMB ให้เป็นสนามระดับโลก จัดวิ่งเทรลระยะไกลที่สุดคือ 100 กิโลเมตร แต่ปีนี้เพิ่มระยะเต็มพิกัดคือ 160 กิโลเมตร มีผู้เข้าร่วมวิ่ง 1,614 คน ไม่รวมวิ่ง Fun Run สำหรับการวิ่งข้ามประเทศไทย-มาเลเซีย ได้ดำเนินการขออนุมัติ 7 ปี โดยปีนี้เป็นปีแรก ซึ่งมีปัญหาติดขัดเล็กน้อย คาดว่าปี 2567 จะสามารถวิ่งข้ามประเทศได้อย่างแน่นอน”
ทุกสำนักข่าวนำเสนอข่าวออกมาแนวนี้หมด โดยไม่มีคำพูดของประธานเปิดงานเลย ทำให้มีกระแสว่าผู้ใหญ่ในพรรคภูมิใจไทย ซึ่งรับผิดชอบกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขณะที่นายสิรภพ ก็เป็นผู้อำนวยการพรรค ไม่ค่อยพอใจกับข่าวที่ออกมา เมื่อตรวจสอบก็พบว่า สื่อมวลชนทุกสำนักได้รับข่าวมาจากกองประชาสัมพันธ์ ศอ.บต. เป็นผู้เขียน ผลิต และแจกจ่ายให้สื่อมวลชนในพื้นที่
ขณะเดียวกันก็เป็นที่รู้กันดีว่า พรรคภูมิใจไทยขณะนี้เนื้อหอมขนาดไหน เพราะทั้ง “พรรคลุงตู่” (รวมไทยสร้างชาติ) และ “พรรคลุงป้อม” (พลังประชารัฐ) หากต้องการเป็นรัฐบาล ต้องจับมือกับภูมิใจไทย
ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะใช้โอกาสนี้เปลี่ยนตัว พล.ร.ต.สมเกียรติ โดยการเสนอของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ “บิ๊กป้อม” ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแล ศอ.บต. และเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ กพต.ด้วย
โดยจังหวะก้าวของผู้ยิ่งใหญ่ที่กำกับดูแล ศอ.บต.ไม่ใช่ธรรมดา เพราะนอกจากจะ “เด้ง” เพื่อเอาใจพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว ยังเตรียมเปิดทาง “คนของตัวเอง” คือ นายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการ ศอ.บต. หรือ “ดร.เจ๋ง” ขึ้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ศอ.บต.แทนด้วย
ขณะเดียวกันก็มีข่าวอีกกระแสหนึ่งระบุว่า พล.ร.ต.สมเกียรติ อาจเลือกใกล้ชิดกับบางขั้วอำนาจมากเกินไป โดยเฉพาะในศึกชิงเสียงกันเองระหว่าง “พี่น้อง 2ป.” ทำให้ “ป.น้องเล็ก” ไม่พอใจ และไฟเขียวย้ายเลขาธิการ ศอ.บต. เพื่อไม่ให้ช่วย “พี่ใหญ่” ในศึกเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น
อีกด้านหนึ่งมีข่าวจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนใต้ว่า มีข่าวเปลี่ยนตัวเลขาธิการ ศอ.บต.ก่อนหน้านี้ราวๆ 6 เดือน โดย พล.ร.ต.สมเกียรติ ก็รู้ตัวว่าสถานะไม่มั่นคง เพราะผู้ใหญ่ไม่พอใจผลงาน โดยเฉพาะเรื่องการขับเคลื่อนนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จ.สงขลา และโครงการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่
ส่วนการทำงานใน ศอ.บต.ก็ไม่ค่อยได้รับความร่วมมือข้าราชการระดับรองๆ ลงมา เพราะคนที่เป็นรองก็อยากขึ้นเป็นเลขาธิการแทน
มีรายงานว่า ตำแหน่งเลขาธิการ ศอ.บต. เป็นข้าราชการระดับ 11 เทียบเท่าปลัดกระทรวง ทำให้มีคนหมายปองมาก และหนึ่งในผู้ที่ได้รับการคาดหมายว่าจะขึ้นเป็นเลขาธิการ ศอ.บต.คนใหม่ ก็คือ นายชนธัญ แสงพุ่ม หรือ “ดร.เจ๋ง” นั่นเอง
แต่ปัญหาของ “ดร.เจ๋ง” คืออายุยังน้อย และผ่านงานบริหารมาไม่มากพอ ที่ผ่านมาจึงมีความพยายามผลักดันให้ “ดร.เจ๋ง” ไปเป็นปลัดกระทรวงขนาดเล็กกระทรวงหนึ่ง เพื่อสร้างโปรไฟล์ก่อนกลับมารับตำแหน่งเลขาธิการ ศอ.บต. แต่ไม่สำเร็จ
ล่าสุดมีการคาดการณ์กันในพื้นที่ว่า อาจมีการตั้ง “ดร.เจ๋ง” เป็นเลขาธิการ ศอ.บต. ควบตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ซึ่งมีข่าวว่าจะย้ายรอบนี้ เพราะหากเป็นผู้ว่าฯด้วย ก็จะดูไม่น่าเกลียดที่จะทำหน้าที่เลขาธิการ ศอ.บต. ซึ่งดูแล 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้
และที่สำคัญการตั้ง “ดร.เจ๋ง” จะส่งผลต่อการเมืองและการเลือกตั้งในพื้นที่อย่างแน่นอน เพราะอะไร...คนในพื้นที่ทราบกันดี