ผู้การตำรวจปัตตานี ร้อง กมธ.กฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร หลังพบชื่อถูกโยกไปเป็น ผบก.กมค.ภ.9 เจ้าตัวเชื่อโดนย้ายเหตุไปแย้งข้อกฎหมายในคดีความมั่นคง ขัดความต้องการผู้บังคับบัญชา กับอีกประเด็นคือการไม่สนองนโยบายการดำเนินการกรณี “เยาวชนเปอร์มูดอนับหมื่น รวมตัวแต่งชุดมลายู” ขณะที่โผย้ายนอกฤดู ผุดชื่อ อดีตผู้การนราฯ ที่ถูกกล่าวหาพัวพันแก๊งยา ไปเป็น ผบก.กมค.ภ.1 ด้วย
จากกรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายนอกวาระในระดับผู้บังคับการ ถึงระดับผู้บัญชาการ (โผนายพล) ในช่วงที่ผ่านมา และมีรายชื่อแต่งตั้งปรับย้ายหลุดออกมาเป็นข่าวนั้น ปรากฏว่า มีชื่อของ พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ( ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ) ได้ถูกปรับย้ายไปอยู่ในตำแหน่งผู้บังคับการกฎหมายและคดี ภาค 9 ( ผบก.กมค.ภ.9 ) ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า มีความผิดในเรื่องใด เนื่องจาก พล.ต.ต.นรินทร์ ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มาโดยตลอด และไม่เคยมีปัญหาในพื้นที่แต่อย่างใด
แหล่งข่าวใกล้ชิด พล.ต.ต.นรินทร์ เผยถึงสาเหตุของคำสั่งย้ายที่เกิดขึ้นว่า น่าจะเกิดจากเรื่องการโต้แย้งแนวทางกระบวนการยุติธรรมกับผู้บังคับบัญชาที่เข้ามาควบคุมคดีความมั่นคง และมีการรายงานว่าไม่สนองนโยบาย จากกรณีเรื่องการจัดกิจกรรมชุมนุมที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 4 พ.ค.65 (เยาวชนชายแดนใต้ (เปอร์มูดอ) นัดรวมตัวกันครั้งใหญ่นับหมื่นคน โดยแต่งกายด้วยชุดมลายู มีการถ่ายภาพและทำกิจกรรมจนหลายฝ่ายแสดงความกังวล) ซึ่งในเรื่องนี้ทางคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องไปประชุมชี้แจง และมีการรายงานว่า การชี้แจงของผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ไม่เป็นไปตามนโยบาย
อีกเรื่องคือ การเข้าควบคุมคดีความมั่นคงของผู้บังคับบัญชา ทำให้การสอบสวนไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้ ซึ่งในคดีความมั่นคงดังกล่าว ทาง พล.ต.ต.นรินทร์ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน ได้สั่งคดีไม่เป็นไปตามที่ผู้บังคับบัญชาที่มาควบคุมคดีนี้ต้องการ เพราะหากพิจารณาไม่รอบคอบ สั่งคดีไม่มีมาตรฐานตามกฎหมาย อาจจะถูกฟ้องกลับจากผู้ต้องหาในคดีก็เป็นได้ อีกทั้งในคดีนี้พนักงานอัยการได้สั่งคดีในแนวทางเดียวกันกับ พล.ต.ต.นรินทร์ ด้วย ทำให้เจ้าตัวมั่นใจในแนวทางการทำงาน แต่ก็อาจทำให้ผู้บังคับบัญชาไม่พอใจ
แหล่งข่าวใกล้ชิดกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี บอกอีกว่า ทราบว่า พล.ต.ต.นรินทร์ ได้ยื่นเรื่องร้องขอความเป็นธรรมต่อคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ตรวจสอบในเรื่องการใช้อำนาจในการสั่งคดี โดยเฉพาะคดีนโยบาย ว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ และได้ยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่อคณะกรรมาธิการการทหาร กรณีการประชุมชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการทหารเมื่อวันที่ 15 ก.ย.65 ในเรื่องการจัดชุมนุมที่สายบุรีว่า พล.ต.ต.นรินทร์ ได้ชี้แจงเป็นไปตามหลักกฎหมายหรือไม่ และมีเรื่องใดที่ทำให้เกิดความเสียหายตามมา
ทั้งนี้ การพิจารณาปรับย้าย พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ จากตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานีนั้น นอกจากจะเกิดข้อสงสัยว่า ถูกปรับย้ายจากสาเหตุใดแล้ว ปรากฏว่านายตำรวจที่ย้ายมาแทนตามข่าว ก็เพิ่งถูกโยกย้ายไปรับตำแหน่งผู้บังคับการกฎหมายและคดี ภาค 9 ( ผบก.กมค.ภ.9 ) ได้เพียง 3 เดือน เนื่องจากเกิดกรณีตำรวจลักลอบขายรถของกลางที่ สภ.สะท้อน อ.นาทวี จ.สงขลา ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบนายตำรวจคนดังกล่าวด้วย
@@ เชื่อถูกย้ายปมแย้งข้อกฎหมายคดีความมั่นคงกับผู้บังคับบัญชา
ด้าน พล.ต.ต.นรินทร์ เปิดเผยกับ “ทีมข่าวอิศรา” ว่า เชื่อว่าการถูกพิจารณาปรับย้ายครั้งนี้ เกิดจากสาเหตุการโต้แย้งข้อกฎหมายกับผู้บังคับบัญชาในคดีความมั่นคงคดีหนึ่ง ซึ่งมองว่า การโต้แย้งข้อกฎหมายเป็นเรื่องที่ดีที่ผู้บังคับบัญชาควรนำมาพิจารณา เพื่อการดำเนินคดีจะได้รัดกุมยิ่งขึ้น การบริหารจัดการพื้นที่มีผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด รวมทั้งภาคองค์กรเอกชนอื่นๆ ที่เราจะต้องรับฟังและบริหารความรู้สึกต่างๆ ให้เกิดสมดุล ตำรวจไม่ได้ยิ่งใหญ่มีอำนาจเบ็ดเสร็จที่จะจัดการได้ทุกเรื่อง
“ดังนั้นหากมองว่า การโต้แย้งเรื่องกฎหมายเป็นเรื่องขัดนโยบายของผู้บังคับบัญชา โดยจะต้องรับฟังผู้บังคับบัญชาเพียงอย่างเดียวนั้น ผมมองว่าเป็นกระบวนการยุติธรรมในชั้นตำรวจที่พิการ โดยเฉพาะพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้เป็นพื้นที่ละเอียดอ่อน ต้องดำเนินคดีอย่างรอบคอบ มีพยานหลักฐานที่เชื่อได้ การใช้กฎหมายก็เป็นวิธีหนึ่งในการแก้ปัญหา แต่จะต้องดำเนินการให้ถูกต้อง ยึดหลักการกฎหมาย สามารถชี้แจงต่อประชาชนได้ และเป็นไปตามแนวทางเดียวกันกับอัยการและศาล โดยคดีนี้จะได้ทำการติดตามตรวจสอบต่อไป" ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี กล่าว
สำหรับประวัติการรับราชการของ พล.ต.ต.นรินทร์ มีเส้นทางการรับราชการอยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส) มาโดยตลอด เริ่มตั้งแต่ปี 2532 ในตำแหน่ง รองสารวัตรสืบสวน สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส จนมาถึงล่าสุดในปี 2564 ตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี จนถึงปัจจุบัน
@@ อดีตผู้การนราฯ โดนร้องพัวพันแก๊งยา ถูกย้ายมาเป็น ผบก.กมค.ภ.1
สำหรับการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับผู้บังคับการ (ผบก.) ถึงผู้บัญชาการ (ผบช.) นอกวาระประจำปี ทดแทนตำแหน่งว่างจากการเข้าโครงการสับเปลี่ยนกำลังพล หรือ เออร์ลี่ รีไทร์ และการแต่งตั้งในตำแหน่งที่ถูกกำหนดขึ้นมาใหม่ ซึ่งพิจารณากันไปเมื่อเดือน ธ.ค.2565 แต่ยังไม่มีการนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ และยังไม่ได้มีการประกาศลงราชกิจจานุเบกษา แต่มีรายชื่อหลุดออกมาเป็นข่าวก่อน มีการปรับย้ายในภาพรวม ดังนี้
ระดับ ผบช. 4 ราย รอง ผบช.หมุนเวียน 3 ราย ผบก.เลื่อนเป็น รอง ผบช. 12 ราย ผบก.หมุนเวียน 16 ราย รอง ผบก.เลื่อนเป็น ผบก. 19 ราย รวม 54 ราย ส่วนใหญ่เป็นการแต่งตั้งทดแทนตำแหน่งว่าง ยกเว้นกรณีที่มีการสับเปลี่ยนตามที่ผบช.แต่ละหน่วยร้องขอ
โดยนายพลตำรวจในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ที่มีชื่อโยกย้ายนอกวาระประจำปี มีดังนี้
พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ภ.9 ไปเป็น รอง ผบช.น
พล.ต.ต.อรุษ แสงจันทร์ ผบก.ภ.จว.สตูล มาเป็น รอง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.
พล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ ผบก.ศฝร.สตม. ไปเป็น ผบก.ภ.จว.สตูล
พล.ต.ต.แวสาแม สาและ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ที่ถูกร้องเรียนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งค้ายาเสพติดและอาวุธสงคราม จนถูกย้ายขาดไปประจำ ศปก.ตร. ให้ไปเป็น ผบก.กมค.ภ.1
พ.ต.อ.อนิรุธ อิ่มอาบ รองผบก.สส.บช.ภ.9 ไปเป็น ผบก.ภ.จว.นราธิวาส
พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ไปเป็น ผบก.กมค.ภ.9
พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.กมค.ภ.9 ไปเป็น ผบก.ภ.จว.ปัตตานี