น้ำท่วมตลาดมูโนะเริ่มลดระดับแล้ว แต่ยังมีเหตุระทึก เรือกู้ภัยถูกกระแสน้ำพัดล่ม โชคดีเจ้าหน้าที่ปลอดภัย ด้านส่วนราชการและภาคเอกชนลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขณะที่เทศบาลนครหาดใหญ่เจอฝนถล่มหนักอีกระลอก ถนนหลายสายน้ำท่วมสูง ต้องประกาศธงเหลืองขนย้ายสิ่งของ ส่วนการรถไฟฯ งดเดินรถ - เปลี่ยนเส้นทาง เหตุน้ำท่วมรางชำรุด
วันพุธที่ 21 ธ.ค.65 สถานการณ์น้ำท่วมที่ตลาดมูโนะ หมู่ 1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ที่เป็นผลพวงมาจากพนังกั้นน้ำพัง และน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนและร้านค้าของประชาชนนั้น ล่าสุดระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว จึงมีการตรวจสอบบริเวณบ้านเรือนของประชาชนด้านขวามือของตลาดมูโนะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการชลประทานมูโนะ พบว่า มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนกว่า 30 ครัวเรือน โดยเฉพาะถนนสองฟากฝั่งเลียบประตูระบายน้ำโครงการชลประทานมูโนะ ถูกกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากจากแม่น้ำโก-ลก กัดเซาะขาดเป็นระยะทางฝั่งละประมาณ 100 เมตร มวลน้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนจนเสียหายทั้งหลัง จำนวน 5 หลัง และเสียหายบางส่วนอีกกว่า 10 หลัง
เจ้าหน้าที่โครงการชลประทานมูโนะ ได้นำรถแบ็กโฮยกและเคลื่อนย้ายหินกระชุจำนวนหนึ่งที่เรียงในตะแกรงลวดเหล็ก นำไปเรียงไว้ที่บริเวณรอยต่อของขอบถนนที่ขาดทั้ง 4 ด้าน 2 สาย เพื่อป้องกันไม่ให้กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากกัดเซาะเป็นวงกว้างยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันความเสียหายของบ้านเรือนประชาชนที่ปลูกสร้างอยู่ในบริเวณทางน้ำไหลได้รับความเสียหายเพิ่มเติม
นายรุสดี อาแว อายุ 42 ปี เจ้าของบ้าน 1 ใน 5 หลังที่ได้รับความเสียหาย กล่าวว่า คืนแรกดูแล้วน้ำไม่ค่อยเยอะเท่าไร จนลูกมาบอกว่าน้ำเริ่มขึ้นเยอะแล้ว แต่ไม่นึกว่าน้ำจะเยอะแบบนี้ แม้จะยกสิ่งของสัมภาระขึ้นไว้ข้างบนแล้ว ที่ไหนได้น้ำเยอะกว่าคราวก่อน จนข้าวของสัมภาระในบ้านเสียหายหมด ไม่ทันตั้งตัว และบ้านตนเพิ่งพังเสียหายเมื่อคืน อยากฝากถึงหัวหน้าชลประทาน ถ้าเกิดวิกฤตน้ำขอให้ปล่อยน้ำที่ประตูระบายน้ำเร็วและมากกว่านี้
@@ ระทึกเรือกู้ภัยล่ม โชคดีเจ้าหน้าที่ปลอดภัย
นายวิชิตชาติ อุดมลาภเจริญกิจ หัวหน้ามูลนิธิเซิ่งหมู่ธารน้ำใจสุไหงโก-ลก ได้นำทีมเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิฯ พร้อมหน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ เขตทุ่งสง หน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ เขตทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช และมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี(ทงเซียเซี่ยงตึ้ง) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จำนวน 50 ชีวิต พร้อมเรือ 3 ลำ เข้าร่วมสนับสนุนภารกิจการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก ตั้งแต่เมื่อวันอังคารที่ 20 ธ.ค.65 ที่ผ่านมา
ระหว่างการปฏิบัติภารกิจนำอาหารและน้ำดื่มขึ้นเรือฝ่ากระแสน้ำเข้าไปมอบให้กับผู้ประสบภัยที่ยังอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก ประมาณ 20 หลังคาเรือน ปรากฏว่าเกิดเหตุระทึก เรือชนเข้ากับกระสอบทราย เครื่องยนต์ดับและเสียการทรงตัวทำให้เรือล่ม บริเวณก่อนถึงโรงเรียนบ้านมูโนะ เจ้าหน้าที่กู้ภัย 7 คน ถูกกระแสนำพัดลอยไปติดอยู่ด้านหลังโรงเรียน เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงช่วยออกมาได้อย่างปลอดภัยทั้งหมด
@@ “ศูนย์พัฒนาอาชีพฯ – มูลนิธิฮิลาลอะห์มัร” ช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ด้านศูนย์พัฒนาอาชีพ กลุ่มร่วมด้วยช่วยกันชายแดนใต้ ร่วมกับมูลนิธิฮิลาลอะห์มัร ศูนย์ปฏิบัติการสะบ้าย้อย หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 42 และสื่อมวลชนในพื้นที่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก นพ.ชัยวัฒน์ พญ.สุรางคณา นายเตชะทัตต์ และ น.ส.ภัทรตา เตชะไพฑูรย์, นายธีระชัย รัตนกมลพร ผู้ก่อตั้ง บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), นายฐกร รัตนกมลพร และครอบครัว ร่วมกันนำข้าวสารอาหารแห้ง ข้าวกระเพราไก่และข้าวผัด น้ำดื่ม ยารักษาโรค และนม ผ้าอ้อมสำเร็จรูปเด็ก ลงพื้นที่ไปมอบให้ผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้
เช่น ในพื้นที่ บ้านแลแบง หมู่ 1 ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ยังคงมีน้ำท่วมสูงถึงหลังคาบ้านชั้นเดียว จนชาวบ้าน 200 กว่ารายต้องอพยพไปอยู่ที่ศูนย์อพยพโรงเรียนบ้านสะบ้าย้อย แต่ก็ยังมีชาวบ้านบางส่วนที่บ้านสองชั้นยังคงอาสัยอยู่ในบ้านเพื่อเฝ้าระวังทรัพย์สิน ทางศูนย์พัฒนาอาชีพ กลุ่มร่วมด้วยช่วยกันฯ และมูลนิธิฮิลาลอะห์มัรฯ จึงนั่งเรือนำอาหารและน้ำดื่มเข้าไปมอบให้ผู้ประสบอุทกภัย
นอกจากนี้ทางศูนย์พัฒนาอาชีพฯ และทีมจิตอาสา ยังได้ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมสูงใน 10 อำเภอของ จ.ปัตตานี และ จ.นราธิวาส อย่างต่อเนื่อง
@@ รองแม่ทัพภาค 4 เยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย อ.ธารโต
ด้าน พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 และคณะ ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพและยาสามัญประจำบ้าน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่บ้านปูยุด หมู่ 1 ต.ธารโต และบาลาเซาะนูรูลฮูดา บ้านบาตูปูเต๊ะ หมู่ 6 ต.บ้านแหร พร้อมด้วยศูนย์ประสานการแพทย์ จังหวัดชายแดนภาคใต้ และทีมแพทย์โรงพยาบาลธารโต เข้าไปดูแลสุขภาพชาวบ้าน โดยมี นายอำเภอธารโต นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปูยุด ผู้นำศาสนา ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชน ร่วมต้อนรับ
พล.ต.ปราโมทย์ กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 4 ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนเข้ามาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน สิ่งที่ดำเนินการเร่งด่วนในช่วงนี้ คือ เรื่องความเป็นอยู่ของประชาชน และหลังจากนี้จะมีการจัดตั้งโรงครัวพระราชทานเพื่อดูแลด้านอาหารการกิน และเรื่องสุขภาพของประชาชน โดยได้รับความร่วมมือจากทีมแพทย์โรงพยาบาลธารโต ได้เข้ามาตรวจสุขภาพให้ประชาชน เมื่อสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติก็จะนำไปสู่ขั้นตอนของการบูรณะ ดูแล และฟื้นฟูในเบื้องต้น เช่น การปรับเส้นทางให้เข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว
@@ เจอร่างเด็กชาย 14 ปีจมน้ำที่ยะลาแล้ว
เมื่อช่วงค่ำของวันอังคารที่ 20 ธ.ค.65 ทางมูลนิธิฮิลาลอะห์มัร ศูนย์ปฏิบัติการสะบ้าย้อยและทีมฉลามภัย สามารถค้นหาร่าง ด.ช.อับดุรเราะหมาน อีซอ อายุ 14 ปี นักเรียนจากศูนย์มัรกัสยะลา ที่จมน้ำตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ในขณะกำลังเล่นน้ำอยู่กับกลุ่มเพื่อน ที่บริเวณมัรกัสยะลา หมู่ 3 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา ได้แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาค้นหาศพเป็นเวลากว่า 3 วัน จนมาพบศพของ ด.ช.อับดุรเราะหมาน ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร
ล่าสุดทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมารับศพจากโรงพยาบาล เพื่อนำกับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนายังบ้านเกิดของที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส
@@ หาดใหญ่ฝนถล่มเจอน้ำท่วมอีกระลอก
วันเดียวกัน จากสถานการณ์ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ทำให้หลายพื้นที่ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ต้องกลับมาประสบกับสถานการณ์น้ำท่วมขังอีกระลอก จนทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ตามแนวถนนกาญจนวนิช จนถึงแนวคลองเตย อันประกอบด้วย
1.ถนนกาญจนวนิช (วิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ – ศูนย์วิจัยยาง) และซอยย่อย
2.ถนนเพชรเกษมตั้งแต่สามแยกคอหงส์ – บิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า และซอยย่อยทั้ง 2 ฝั่ง
3.ถนนธรรมนูญวิถี
4.ถนนศุภสารรังสรรค์
5.ถนนประชาธิปัตย์
6.ถนนราษฎร์ยินดี (ถนน 30 เมตร)
7.ถนนคลองเรียน 2
8.ถนนจันทร์วิโรจน์ (ใต้สะพานรถไฟ)
ทำให้ทางเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้ออกประกาศธงเหลืองในชุมชนตามแนวถนนดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนได้ยกของขึ้นที่สูงและเคลื่อนย้ายยานพาหนะไปยังพื้นที่ปลอดภัย และขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์ข่าวสารจากเทศบาลนครหาดใหญ่อย่างใกล้ชิด
@@ การรถไฟฯ งดเดินรถ - เปลี่ยนเส้นทาง เหตุน้ำท่วมรางชำรุด
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมระหว่างสถานีควนเนียง - บ้านเกาะใหญ่ ( อ.ควนเนียง) สถานีนาม่วง ( อ.นาหม่อม) และสถานีวัดควนมีด ( อ.จะนะ) จ.สงขลา ส่งผลให้การรถไฟฯ ต้องปรับเปลี่ยนการเดินรถเส้นทางรถไฟสายใต้ เมื่อวันที่ 18-20 ธ.ค.65 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปดำเนินการปรับปรุงและซ่อมแซมบริเวณที่ทางชำรุดได้บางส่วน และยังมีบางส่วนที่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าพื้นที่เพื่อดำเนินการได้
ทำให้การรถไฟฯ จึงจำเป็นต้องประกาศปรับเปลี่ยนเส้นทางการเดินรถสายใต้ ตั้งแต่วันที่ 21 – 24 ธ.ค.65 จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ดังนี้
ขบวนรถงดเดิน จำนวน 16 ขบวน ประกอบด้วย
1. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 31/32 (กรุงเทพ – หาดใหญ่ - กรุงเทพ)
2. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 37/38 (กรุงเทพ - สุไหงโก-ลก - กรุงเทพ)
3. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 45/46 (กรุงเทพ - ปาดังเบซาร์ - กรุงเทพ)
4. ขบวนรถเร็วที่ 169/170 (กรุงเทพ - ยะลา - กรุงเทพ)
5.ขบวนรถเร็วที่ 171/172 (กรุงเทพ – สุไหงโก-ลก - กรุงเทพ)
6.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 463/464 (สุไหงโก-ลก – พัทลุง - สุไหงโก-ลก – พัทลุง)
7.ขบวนรถระหว่างประเทศที่ 947/948 (หาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ - หาดใหญ่)
8. ขบวนรถระหว่างประเทศที่ 949/950 (หาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ - หาดใหญ่)
ส่วนขบวนรถปรับเปลี่ยนเส้นทาง จำนวน10 ขบวน ประกอบด้วย
1.ขบวนรถสินค้าที่ 985/986 (กรุงเทพ - สุไหงโกลก – กรุงเทพ) มีเดินเฉพาะ กรุงเทพ – พัทลุง - กรุงเทพ
2.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 445 (ชุมพร – หาดใหญ่) มีเดินเฉพาะ ชุมพร - พัทลุง
3.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 446 (หาดใหญ่ - ชุมพร) มีเดินเฉพาะ พัทลุง - ชุมพร
4.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 447 (สุราษฎร์ธานี - สุไหงโก-ลก) มีเดินเฉพาะ จะนะ - สุไหงโก-ลก และ สุราษฏร์ธานี - พัทลุง
5.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 448 (สุไหงโก-ลก - สุราษฎร์ธานี) มีเดินเฉพาะ สุไหงโก-ลก - จะนะ และ พัทลุง - สุราษฎร์ธานี
6.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 451 (นครศรีธรรมราช - สุไหงโก-ลก) มีเดินเฉพาะ เทพา - สุไหงโก-ลก และ นครศรีธรรมราช - พัทลุง
7.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 452 (สุไหงโก-ลก - นครศรีธรรมราช) มีเดินเฉพาะ สุไหงโก-ลก - เทพา และ พัทลุง - นครศรีธรรมราช
8.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 455 (นครศรีธรรมราช - ยะลา) มีเดินเฉพาะ นครศรีธรรมราช – พัทลุง
9.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 456 (สุไหงโก-ลก - นครศรีธรรมราช) มีเดินเฉพาะ พัทลุง - นครศรีธรรมราช
สำหรับขบวนรถท้องถิ่นที่ 453/454 (ยะลา - สุไหงโก-ลก - ยะลา) มีเดินรถปกติ
ทั้งนี้ผู้โดยสารสามารถคืนค่าตั๋วโดยสารได้เต็มราคาที่สถานีรถไฟทุกแห่ง