มูลนิธิ Purin Pictures ได้จัด “Short Film Camp 2022” กิจกรรมเวิร์กชอปด้านการผลิตภาพยนตร์ ที่จัดขึ้นเป็นปีที่ 2
โดยปีนี้เป็นการสนับสนุนคนทำหนังรุ่นใหม่จาก 4 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ประเทศลาว เมียนมา กัมพูชา และไทย ระหว่างวันที่ 2-12 ธ.ค.65 ที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ กรุงเทพฯ (TCDC)
อาทิตย์ อัสสรัตน์ หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Purin Pictures ตำแหน่ง Director of Purin Pictures กล่าวว่า Short Film Camp เรามีเป้าหมายเพื่อให้โอกาสผู้กำกับและโปรดิวเซอร์รุ่นใหม่จากประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ฝึกฝนทักษะทางภาพยนตร์ในระดับมืออาชีพ และมีโอกาสได้รับทุนสร้างภาพยนตร์สั้นของตนเอง
“เราต้องการสนับสนุนผู้กำกับหนังรุ่นใหม่ ด้วยการเข้าไปช่วยอัดฉีดเงินให้กับเหล่าคนทำหนังในทวีปเอเชีย เนื่องจากเป็นทวีปที่มีปัญหาในเรื่องโครงสร้างภาพยนตร์ที่ค่อนข้างคล้ายกัน คือไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากภาครัฐ และในบางประเทศการศึกษาภาพยนตร์ก็ยังไม่ค่อยดี”
อาทิตย์ กล่าวต่อว่า เดิม Purin Pictures มีกิจกรรมหลักคือ การให้ทุนสร้างหนังยาว โดยให้มา 5 ปี ประมาณ 60 เรื่อง แต่กลับพบว่า มี 3 ประเทศที่ไม่เคยได้ทุนไปทำหนัง คือ ลาว เมียนมา และกัมพูชา เนื่องจากอุตสาหกรรมภาพยนตร์ยังไม่ค่อยแข็งแรง และการเรียนการสอนภาพยนตร์ในประเทศยังมีน้อย จึงมีการปรับรูปแบบการให้ทุนเป็นประเภทหนังสั้น เพื่อขยายโอกาสให้เข้าถึงกลุ่มประเทศเหล่านี้มากขึ้น
โดยความพิเศษของ Short Film Camp 2022 ในปีนี้ เปรียบเสมือนการเปิดโอกาสให้กับผู้กำกับหนังรุ่นใหม่ที่อายุไม่เกิน 30 ปี จากลาว เมียนมา กัมพูชา และไทย ได้มาร่วมเวิร์กชอป จำนวน 12 ทีม แต่ละทีมประกอบไปด้วยผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ รวมผู้เข้าร่วมทั้งหมด 24 คน ซึ่ง Purin Pictures ช่วยสนับสนุนค่าเดินทางและที่พักตลอดกิจกรรม ถือเป็นกิจกรรมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
“12 ทีมที่ผ่านการคัดเลือกจะมีโปรเจกต์ภาพยนตร์สั้นโดดเด่นและน่าสนใจให้มาเข้าร่วมพัฒนาโปรเจกต์เป็นเวลา 11 วัน และเรียนรู้ทักษะการสร้างภาพยนตร์ระดับมืออาชีพจากผู้กำกับและโปรดิวเซอร์แนวหน้าของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
อาทิตย์ กล่าวอีกว่า เมื่อสิ้นสุดการเวิร์กชอป ทุกทีมจะนำเสนอโปรเจกต์ภาพยนตร์สั้นของตัวเองกับคณะกรรมการ ผู้ชมในห้อง รวมถึงผู้ชมทางบ้านผ่าน Live Facebook เพื่อชิงทุนสร้างภาพยนตร์สั้นจำนวน 4 รางวัล รางวัลทุนละ 250,000 บาท โดยในปีนี้ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจาก Netflix, White Light Post, Kantana Sound Studio และการสนับสนุนสถานที่เข้าร่วมกิจกรรมโดย TCDC กรุงเทพฯ
ปัจจุบัน Purin Pictures คือกองทุนสนับสนุนภาพยนตร์อิสระในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ.2560 ภายใต้มูลนิธิภูรินทร์ ทุนที่สนับสนุนแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ทุนผลิตภาพยนตร์ในช่วง Production ทุนผลิตภาพยนตร์ในช่วง Post-Production และทุนจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์
ปัจจุบันภาพยนตร์ที่ได้รับการสนับสนุน ล้วนได้รับการยอมรับจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติทั่วโลก อาทิ เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์, เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิส และเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน อันเป็นการส่งเสริมให้ภาพยนตร์จากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าถึงกลุ่มผู้ชมต่างชาติในวงกว้างยิ่งขึ้น
@@ ทีมไทยแลนด์กับเรื่องราวของ “ปอแน” เพศที่สามชายแดนใต้
สำหรับทีมจากประเทศไทย มีตัวแทนจากชายแดนใต้ คือ ทีม Ponay หรือ “ปอแน” ซึ่งเป็นชื่อโปรเจกต์ที่จะทำหนังสั้นด้วย
ฮีซัมร์ เจ๊ะมามะ และ กาจพล นิติพิสานนท์ เล่าว่า Ponay เป็นการเล่าถึงกลุ่ม LGBTG+ ในประเทศไทย ที่ถึงเวลาต้องเกณฑ์ทหาร มีประเด็นเกี่ยวข้องกับศาสนา โดยบุคคลในเรื่องมีบ้านเกิดอยู่ที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงที่รู้สึกถึงความไม่ปกติ และอยากให้คนทั่วไปเข้าใจคนกลุ่มนี้
ฮีซัมร์ เจ๊ะมามะ ผู้กำกับ เล่าว่า เกิดและเติบโตที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พื้นที่ชายแดนที่อยู่ติดกับประเทศมาเลเซีย ทุกครั้งที่ได้ยินคำว่า ‘ปอแน’ ที่ถูกใช้เรียกเพศที่สามในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนตัวกลับรู้สึกว่าเป็นคำสแลงที่ลดทอนคุณค่าของคนเหล่านี้ และนี่เป็นที่มาที่ทำให้เขียนเรื่องนี้ และตั้งชื่อว่า “ปอแน”
“วันนั้นผมกลับไปเกณฑ์ทหาร แล้วได้กลับไปเจอเพื่อนสนิทในวัยเด็กที่เขาได้แปลงเพศเป็นผู้หญิงแล้ว เรารู้สึกเซอร์ไพรส์มาก แต่เขากลับถูกเรียก ‘ปอแน’ เหตุการณ์ในวันนั้น เป็นอะไรที่ผมไม่ลืมเลย เพราะเขาได้กลายเป็นเหยื่อของคำนี้”
ฮีซัมร์ เล่าต่อว่า แม้คำว่า “ปอแน” ที่ถูกเรียกเพศทางเลือกในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต จะทำให้ตนเองรู้สึกเจ็บปวด แต่เมื่อมองลึกลงไปนั้น สิ่งที่กลับทำให้คนกลุ่มนี้เจ็บปวด คือกระบวนการยืนยันเพศตัวเองด้วยใบรับรองแพทย์ ที่ชื่อว่า “ใบเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด” เพื่อใช้ในการเกณฑ์ทหาร ซึ่งก็ต้องไปนั่งคุยกับหมอ เพื่อยืนยันว่า “ไม่ใช่ผู้ชาย”
ขณะที่ กาจพล นิติพิสานนท์ โปรดิวเซอร์ มองว่า ระบบราชการที่ถูกออกแบบมาโดยไม่ตั้งใจ สุดท้ายมันกลับกดทับใครคนหนึ่งอยู่ ทำให้คนกลุ่มหนึ่งต้องเจ็บปวด เพียงเพราะระบบที่ถูกออกแบบขึ้นมา นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทีมเราเลือกจะทำหนังเรื่องนี้
@@ บทหนังสั้นจากเมียนมา ชีวิตที่ถูกกักขังหลังรัฐประหาร
Moe Myat May Zarchi และ Vicky Nway จากเมียนมา เล่าถึงบทหนังสั้นเรื่อง Sad Diva Lands on the Moon ที่เขียนขึ้นมาว่า เป็นเรื่องราวของเด็กสาวที่อยู่ใต้การกดขี่ทางการเมือง ต้องถูกกักขังในบ้านของตัวเอง แล้วจินตนาการของเด็กสาวก็พลุ่งพล่าน เล่นบทบาทสมมติเป็นนักบินอวกาศหญิงและนางละครผู้เศร้าสร้อยที่ถูกล้างสมอง ผู้ซึ่งติดอยู่ในรายการทีวีโฆษณาชวนเชื่อย้อนยุค โดยพล็อตเรื่องนี้อ้างอิงจากเหตุการณ์รัฐประหารเมื่อ 2 ปีที่แล้วที่เกิดขึ้นจริงในเมียนมา
“อยากทำหนังเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะตรงกับที่ตอนนี้ที่กำลังเผชิญกับความรู้สึกกลัวและความโกรธที่ไม่สามารถทำอะไรได้”
Moe Myat May Zarchi ผู้กำกับ กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้นที่ผ่านเข้ารอบได้เข้ามาเวิร์กชอป ในงาน Short Film Camp เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยได้เข้าร่วมการเวิร์กชอปทำหนังจากที่ไหน ที่นี่คือครั้งแรก ทำให้รู้สึกตื่นเต้น และถือเป็นโอกาสที่จะทำให้ได้เจอคนในวงการภาพยนตร์ สุดท้ายสิ่งที่ประทับใจคือ การได้ลอง “พิทชิ่ง” (การเสนอไอเดีย แนวคิด เพื่อโน้มน้าวใจกรรมการและผู้ชม) บนเวทีจริงๆ
“รู้สึกตื่นเต้น ทำหนังมา 11 ปีแล้ว แต่ยังไม่เคยขึ้นเวทีในต่างประเทศเลย นี่คือครั้งแรก ทำให้ได้เจอกับคนทำหนังและได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก” Moe Myat May Zarchi กล่าว
@@ หนังสั้นกัมพูชา ค้นหาความหมายของ “จดหมายที่หายไป”
ด้าน Seng Savunthara และ Te Meily จากประเทศกัมพูชา เล่าถึงโปรเจกต์หนังสั้น Parallax View ว่า เป็นหนังสั้นแนวทดลองที่แยกโครงสร้างวิถีต่างๆ ของตัวตน เรื่องราวเกิดขึ้นในห้องสอบปากคำ ภาพยนตร์จะสำรวจ power dynamic ของผู้สัมภาษณ์และผู้ถูกสัมภาษณ์ ผู้ที่ได้ถามคำถามและผู้ที่ต้องตอบคำถาม
โดยได้แรงบันดาลใจมาจาก “จดหมายที่หายไป” ที่ทำให้อยากเขียนบทหนังในครั้งนี้ขึ้นมา โดยจดหมายดังกล่าว ถูกเขียนถึงโดยคนที่ล้มกษัตริย์ของกัมพูชา ในช่วงปี ค.ศ.1973 และหลังจากนั้นในปี ค.ศ.1975-1979 ได้เกิดเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กลุ่มเขมรแดงขึ้นในประเทศกัมพูชา
“จดหมายที่หายไป ทำให้ผมอยากทำหนังเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งจริงๆ แล้ว จดหมายฉบับมีการเปิดเผยอยู่แล้ว และทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เพียงแต่ไม่มีใครสนใจ เพราะมันเป็นจดหมายที่ถูกเขียนถึงโดยคนที่ล้มกษัตริย์ของกัมพูชา”
Seng Savunthara ผู้กำกับ เล่าว่า การได้เข้าร่วม Short Film Camp 2022 ในครั้งนี้ ได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก สิ่งที่ประทับใจเป็นช่วงเวิร์กชอป และคลาสแอคติ้งการแสดงที่ช่วยให้ได้เรียนรู้การกำกับนักแสดง ซึ่งมันช่วยได้มาก เพราะต้องทำงานร่วมกับนักแสดง
@@ 4 ทีมชนะเลิศ กับอีก 2 ทีมรางวัลชมเชย
สำหรับ Short Film Camp 2022 ในปีนี้มี 4 ทีมได้รับรางวัลชนะเลิศทุนสร้างภาพยนตร์สั้นจำนวน 4 รางวัล รางวัลทุนละ 250,000 บาท ได้แก่ Ponay จากไทย, SAD DIVA LANDS ON THE MOON จากเมียนมา, Termite Life จากไทย, The Witness จากลาว และอีก 2 ทีมที่ได้รับรางวัลชมเชย ได้แก่ Parallax View จากกัมพูชา และ Sunset จากเมียนมา
โดย 2 รางวัลชมเชย คือการได้โอกาสไปเข้าร่วมงานเสวนา Platform Busan ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน ที่ประเทศเกาหลีใต้ในปีหน้า