ฝนถล่มชายแดนใต้ต่อเนื่อง น้ำท่วมหลายพื้นที่ ยะลาเอ่อขังบ้านเรือนใน 2 อำเภอ เบตงลมแรงต้นไม้ล้มทับเสาไฟฟ้าหัก นราธิวาสเฝ้าระวังแม่น้ำโก-ลก ระดับน้ำเพิ่มสูงล้นตลิ่ง ปัตตานีทะลักทุ่งยางแดง–ยะหริ่ง 11 หมู่บ้าน ส่วนสงขลาอุทกภัย 5 อำเภอ ทำชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 2,000 ครัวเรือน
จากสถานการณ์ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค.65 เป็นต้นมา ทำให้หลายพื้นที่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดน้ำท่วมขังและทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนและเส้นทางสัญจร ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่
วันศุกร์ที่ 9 ธ.ค.65 ในพื้นที่จังหวัดยะลา ได้เกิดน้ำท่วมหลากเข้าบ้านเรือนประชาชนแล้ว โดยปริมาณฝนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สูงสุดที่ อ.เมืองยะลา (สถานีสะพานท่าสาป) รวม 175 มิลลิเมตร มีพื้นที่น้ำท่วมใน 2 อำเภอ คือ ที่ ต.บุดี อ.เมืองยะลา น้ำท่วมผิวจราจร ทางหลวงสาย 4063 ยะลา-รามัน จำนวน 4 จุด คือหมู่ที่ 3 หน้าโรงเรียนจือนือแร หมู่ที่ 5 บริเวณทางเข้าบ้านไบค์ หมู่ที่ 7สามแยกปารามีแต และหมู่ที่ 9 บ้านนิบง โดยเทศบาลตำบลบุดี ได้นำแผงกั้นจราจร และติดป้ายแจ้งเตือน ไปปิดกั้นบริเวณที่น้ำท่วมผิวทางแล้ว รถสามารถสัญจรได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง
อีกอำเภอหนึ่งคือที่ ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา หมู่ที่ 5 บ้านซีเซะใน น้ำท่วมสะพานทางเข้าหมู่บ้านสูงประมาณ 40 เซนติเมตร ไม่สามารถใช้สัญจรได้ ประชาชนได้เลี่ยงไปใช้เส้นทางสำรองสายปาจอ ซึ่งทางโครงการชลประทานยะลาได้แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลองยะหาให้เตรียมขนของย้ายของขึ้นที่สูง พร้อมเตรียมรับสถานการณ์ระดับน้ำล้นตลิ่ง
ทั้งนี้ จ.ยะลาได้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อ.เบตง อ.ธารโต อ.บันนังสตา อ.กรงปินัง อ.ยะหา อ.กาบัง อ.รามัน และ อ.เมืองยะลา ให้เฝ้าระวังและระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 9-11 ธ.ค.65 พร้อมทั้งให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาและประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิด
@@ เบตงฝนตกลมแรง ต้นไม้ล้มทับเสาไฟฟ้าหัก
ด้าน นายสาธิต เรืองสังข์ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอเบตง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีฝนตกหนักลมแรง ทำให้ต้นไม้ป่าโน้มหักลงทับสายไฟฟ้าและทำให้เสาไฟฟ้าล้ม บริเวณควนโต๊ะนิ (สามแยกบ้าน กม.27 ขึ้นสายบน)
ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอเบตงมีความจำเป็นต้องดับกระแสไฟฟ้า เพื่อทำการกู้ระบบ ปักเสา และพาดสายไฟฟ้า และต้องใช้เวลาในการปฏิบัติงาน แต่ย้ำว่าจะรีบแก้ไข และจะเร่งจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กลับเป็นปกติโดยเร็วที่สุด
@@ นราธิวาสเฝ้าระวังแม่น้ำโก-ลก ระดับน้ำเพิ่มสูงล้นตลิ่ง
วันเดียวกันนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส (ปภ.นราธิวาส) รายงานว่า ได้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอของ จ.นราธิวาส ได้แก่ อ.บาเจาะ อ.เมืองนราธิวาส และ อ.ระแงะ รวม 8 ตำบล 25 หมู่บ้าน 357 ครัวเรือน 1,535 คน ซึ่ง ปภ.นราธิวาส ได้ประสานอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ให้เร่งช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้นแล้ว
โดยสถานการณ์ปัจจุบันมีปริมาณฝนในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ระดับน้ำที่คลองบูเก๊ะตา ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1.38 เมตร เพิ่มขึ้นชั่วโมงละ 5-8 เซนติเมตร ระดับน้ำในแม่น้ำโก-ลก ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1.64 เมตร เพิ่มขึ้นชั่วโมงละ 7-8 เซนติเมตร ส่วนแม่น้ำโก-ลก ในเขตตำบลมูโนะ ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1.58 เมตร เพิ่มขึ้นชั่วโมงละ 4-5 เซนติเมตร จึงต้องเตรียมการเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ราบเชิงเขา และน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ รวมทั้งระดับน้ำในแม่น้ำโก-ลกที่เพิ่มสูงขึ้น
ด้าน นายศุภโยค ลอดิง นายกเทศมนตรีตำบลบูเก๊ะตา ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในคลองบูเก๊ะตา อ.แว้ง จ.นราธิวาส โดยเทศบาลตำบลบูเก๊ะตาจะอัปเดตข้อมูลสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิดผ่านหอกระจายข่าวในชุมชน เพื่อให้ประชาชนติดตามและพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น โดยเทศบาลตำบลบูเก๊ะตาได้จัดเตรียมบุคลากร ยานพาหนะ และศูนย์อพยพผู้ประสบอุทกภัยพร้อมให้ความช่วยเหลือและทำการอพยพประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
@@ ปัตตานีน้ำท่วมทุ่งยางแดง – ยะหริ่ง 11 หมู่บ้าน
ด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปัตตานี (ปภ.ปัตตานี) รายงานว่า จากปริมาณฝนที่ตกสะสม ตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค.65 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ จ.ปัตตานี ในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.ทุ่งยางแดง กับ อ.ยะหริ่ง รวม 5 ตำบล 11 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 93 ครัวเรือน 462 คน
ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยทหาร ตำรวจ ผู้นำท้องที่ อาสาสมัคร อปพร. จิตอาสา ได้เข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยเบื้องต้นแล้ว
@@ สงขลาท่วม 5 อำเภอ ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 2,000 ครัวเรือน
วันที่ 9 ธ.ค.65 น.ส.สุนารี บุญชุบ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา (ปภ.สงขลา) ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่บ้านคลองเปล ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ เพื่อวางแนวทางให้ความช่วยเหลือ ขณะที่ทางศูนย์ ปภ.เขต12 สงขลา ได้เข้ามาสนับสนุนติดตั้งเครื่องสูบน้ำ รวมทั้งเครื่องจักรเครื่องมือเพื่อเร่งสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ลดผลกระทบและบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
และได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมขังผิวจราจร บริเวณถนนสายกาญจนวนิช หาดใหญ่-สงขลา เนื่องจากมีน้ำท่วมสูงประมาณ 30 เซนติเมตร แต่ยังสามารถสัญจรไปมาได้ โดยเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงสงขลาได้นำป้ายมาแจ้งเตือนไว้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้สัญจร
ทาง ปภ.สงขลา ยังได้ประสานความร่วมมือไปยังจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยทหารในพื้นที่ จิตอาสา อปพร. อาสาสมัคร มูลนิธิและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือประชาชน พร้อมจัดกำลังพลสำรวจและประเมินความเสียหายของบ้านเรือน รวมทั้งในเรื่องของสัตว์เลี้ยง ด้านปศุสัตว์ โดยจะได้รับการเยียวยาตามระเบียบของกระทรวงการคลังว่าด้วยการช่วยเหลือในเหตุอุทกภัยต่อไป
ด้านรายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.สงขลา ล่าสุดพบว่า เกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ต่างๆ รวม 5 อำเภอ 19 ตำบล 68 หมู่บ้าน ประกอบด้วย
อ.นาหม่อม ในพื้นที่ ต.คลองหรัง และ ต.ทุ่งขมิ้น มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน จำนวน 217 ครัวเรือน 540 คน
อ.บางกล่ำ ในพื้นที่ ต.ท่าช้าง มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน จำนวน 15 ครัวเรือน 50 คน
อ.จะนะ ในพื้นที่ ต.ป่าชิง, ต.นาหว้า, ต.น้ำขาว, ต.แค, ต.ตลิ่งชัน และ ต.คู มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน จำนวน 233 ครัวเรือน 948 คน
อ.หาดใหญ่ ในพื้นที่ เทศบาลเมืองคอหงส์, ต.บ้านพรุ, ต.พะตง, เทศบาลตำบลพะตง และ ต.ทุ่งตำเสา มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน จำนวน 675 ครัวเรือน 1,413 คน
อ.นาทวี ในพื้นที่ เทศบาลตำบลนาทวีนอก, ต.ปลักหนู, ต.คลองทราย และ ต.นาหมอศรี มีประชาชน ได้รับความเดือดร้อน จำนวน 1,848 ครัวเรือน 7,047 คน