คนร้ายบุกปาบึ้ม - กราดยิงถล่มโกดังซ่อมเรือริมแม่น้ำโก-ลก บริเวณท่าเรือฮูมอลานัส อ.ตากใบ นราธิวาส แถมซุกระเบิดถังแก๊สหนัก 50 กิโลฯ หวังสังหารเจ้าหน้าที่ชุดตรวจที่เกิดเหตุ โชคดีเจอก่อน รอดหวุดหวิด พบเจ้าของโกดังเคยถูกข่มขู่ให้ย้ายออกแต่เมินเฉย คาดยืมมือกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงสร้างสถานการณ์ พ่วงวางระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่เป็นผลพลอยได้
เมื่อเวลา 10.30 น. วันอาทิตย์ที่ 23 ต.ค.65 พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (รอง ผบช.ภ.9) รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส (ผบก.ภ.จว.นราธิวาส) พร้อมด้วย พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส, พ.ต.อ.สุธน สุขวิเศษ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส, พ.ต.อ.นราวี บินแวอารง ผู้กำกับการ สภ.ตากใบ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะชุดทำลายวัตถุระเบิด หน่วยเฉพาะกิจอโณทัย และชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส (ชุดอีโอดี) เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายขว้างระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ แล้วใช้อาวุธปืนสงครามยิงซ้ำ ถล่มโกดังเลขที่ 60/11 ที่ปลูกสร้างอยู่บริเวณที่ดินเลียบพรมแดน ริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก ช่วงบริเวณท่าเรือฮูมอลานัส ท้องที่หมู่ 6 ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ
เหตุการณ์ขว้างระเบิดและยิงถล่มโกดัง เกิดขึ้นเมื่อเวลา 03.00 น.คืนที่ผ่านมา ทำให้โกดังได้รับความเสียหาย แต่เจ้าหน้าที่เลือกเข้าที่เกิดเหตุเวลาเช้า เพื่อความปลอดภัย
แต่ระหว่างทางก่อนถึงโกดังประมาณ 70 เมตร เจ้าหน้าที่พบระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สหุ้งต้มที่มีจำหน่ายในฝั่งประเทศมาเลเซีย น้ำหนักระเบิด 50 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร วางอยู่บริเวณโคนเสาไฟฟ้าริมถนน เจ้าหน้าที่จึงได้จอดรถ เพื่อให้ชุดอีโอดีเปิดเครื่องรบกวนสัญญาณโทรศัพท์มือถือและวิทยุสื่อสาร เพื่อป้องกันคนร้ายที่อาจจะแฝงตัวอยู่ในละแวกนั้นกดจุดชนวนระเบิด
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องแรงดันน้ำพลังสูงยิงทำลายวงจรของวัตถุระเบิด และเก็บกู้ไว้ได้อย่างปลอดภัย เบื้องต้นเชื่อว่าคนร้ายมีเป้าหมายจุดชนวนระเบิดเพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ชุดตรวจที่เกิดเหตุ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินทางต่อด้วยความระมัดระวัง จนไปถึงโกดังจุดเกิดเหตุ ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นโกดังซ่อมเรือขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ 2 ห้อง ชั้นเดียว ผนังเป็นปูนซีเมนต์ มุงด้วยกระเบื้อง บริเวณประตูด้านหน้าทางเข้าของโกดังด้านขวามือ มีเศษไม้และอุปกรณ์ตัวเรือกองอยู่ ส่วนด้านซ้ายมือมีถังพลาสติกสีฟ้า ขนาดบรรจุ 200 ลิตรจำนวนมากวางอยู่ ส่วนบริเวณด้านข้างอาคารโกดัง มีประตูเหล็กดัด กว้าง 5 เมตร สูง 4 เมตร ใช้สำหรับเก็บสินค้าและจอดรถยนต์ไว้ด้านใน
ภายในโกดังสังเกตเห็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน จอดอยู่ในสภาพตัวถังด้านตรงข้ามคนขับมีร่องรอยถูกสะเก็ดระเบิดไปป์บอมบ์และกระสุนปืนได้รับความเสียหาย ที่ฝากระโปรงหน้าและตัวถังเป็นรูพรุน ส่วนกระจกหน้า กระจกประตูหน้าและกระจกประตูหลังแตกเสียหาย ส่วนภายในโกดังยังมีถังขนาดบรรจุ 200 ลิตร ถังพลาสติก และตะกร้าพลาสติกใส่ผลไม้วางอยู่รายรอบ
บริเวณฝาผนังด้านข้างซึ่งเป็นประตูเหล็กดัด สภาพเป็นรูพรุน มีร่องรอยถูกกระสุนปืน HK, M 16 และกระสุนปืนพก ขนาด 9 มม.และที่บริเวณพื้นโกดังหลังประตูเหล็กดัด ซึ่งเป็นจุดที่ระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ของคนร้ายถูกขว้างไปตก มีร่องรอยของพื้นกะเทาะเป็นหลุมเล็กน้อย และมีซากเศษชิ้นส่วนของระเบิดกระจายทั่วบริเวณ ส่วนที่บริเวณถนนหน้าประตูข้าง หรือประตูเหล็กดัด เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืน HK, M 16 และปลอกกระสุนปืนพก ขนาด 9 ม00ม.ตกอยู่กว่า 50 ปลอก
จากการสอบปากคำ นายสมพงษ์ แซ่ลี้ ผู้ดูแลโกดัง ทราบว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่ตนนอนเฝ้าโกดังอยู่ ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวมากับความมืด ใช้ระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ขว้างใส่โกดัง จำนวน 1 ลูก เสียงดังสนั่นหวั่นไหว และต่อมาคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่โกดังหลายสิบนัด ก่อนอาศัยความมืดหลบหนีไป ลักษณะและพฤติการณ์ของคนร้ายไม่ได้มุ่งเอาชีวิตหรือทำร้ายตน
แหล่งข่าวความมั่นคงรายหนึ่ง เผยว่า เจ้าของโกดังแห่งนี้คือ นายมูเด็ง นาวี เคยถูกข่มขู่ให้ออกจากพื้นที่มาแล้ว แต่เจ้าของโกดังเพิกเฉย กลุ่มที่เคยข่มขู่จึงอาศัยสมาชิกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ก่อเหตุขว้างระเบิดและยิงถล่ม ส่วนระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายวางไว้บริเวณโคนเสาไฟฟ้านั้น เชื่อว่าเป็นการถือโอกาสดักสังหารเจ้าหน้าที่ขณะเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ถือเป็นผลพลอยจากงานโจมตีโกดังที่รับมา แต่โชคดีเจ้าหน้าที่พบเห็นเสียก่อน
ด้าน พล.ต.ต.ปราบพาล กล่าวว่า ได้มีการสอบปากคำนายสมพงษ์ในเบื้องต้นแล้ว ขอเวลาทำงานสักระยะจึงจะสามารถสรุปได้ว่าคนร้ายเป็นใคร และมีเป้าประสงค์อย่างไร