เจ้าหน้าที่สนธิกำลังปิดล้อมจับกุม “รอฮีซะ แวอาแซ” ผู้ก่อเหตุรุนแรง 4 หมายจับ ในพื้นที่ อ.กะพ้อ ปัตตานี เชิญผู้นำศาสนา-ญาติร่วมเจรจาเกลี้ยกล่อมจนยอมมอบตัว ไร้เหตุรุนแรง
เมื่อเวลา 04.00 น.วันที่ 7 ก.ย.65 เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมปัตตานี ได้สนธิกำลังเข้าทำการพิสูจน์ทราบเป้าหมาย ซึ่งได้รับแจ้งจากประชาชนว่า มีผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้ามาหลบซ่อนพักพิงในพื้นที่ หมู่ 5 ต.กะรุบี อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี โดยการปฏิบัติเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเคร่งครัด ด้วยการใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก เชิญผู้นำศาสนา ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น รวมถึงเครือญาติของผู้ต้องสงสัย เข้าช่วยเหลือในการเจรจาเกลี้ยกล่อม
ผลการปฏิบัติทำให้ผู้ต้องสงสัยที่หลบซ่อนอยู่ภายในบ้านยอมออกมามอบตัว ทราบชื่อ คือ นายรออีซะ แวอาแซ อายุ 39 ปี และจากการตราจสอบพบว่า นายรออีซะฯ เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรง มีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 4 หมาย ประกอบด้วย
1. เหตุยิง อาสาสมัครทหารพราน มูฮามะสอบรี ซาเราะ สังกัด กองร้อยทหารพรานที่ 4209 เสียชีวิต บริเวณตลาดนัดบ้านบือแนราเมาะ หมู่ 4 ต.มะนังดาลำ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อ 14 ก.พ.57
2. เหตุปล้นรถส่งนมที่เข้ามาส่งนมในโรงเรียนบ้านชะเมาสามต้น พื้นที่หมู่ 5 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อ 30 ส.ค.59
3. เหตุทำลายกล้องวงจรปิดในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อ 19 มิ.ย.62
4. เหตุสะสมกำลังพล ตระเตรียมอาวุธ ทรัพย์สินเพื่อก่อการร้าย หรือสมคบกันก่อการร้าย เมื่อ 6 มี.ค.63
จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว ไปทำการจัดเก็บสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ), พิมพ์ลายนิ้วมือ และลงบันทึกประจำวัน ที สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี เพื่อเป็นหลักฐาน พร้อมทั้ง จะนำตัวส่งศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจทหารพราน กรมทหารพรานที่ 43 เพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถาม และขยายผล ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบวางระเบิดปั๊มและลอบวางเพลิงมินิบิ๊กซีหรือไม่
@@ กอ.รมน. ยึดหลักสันติวิธีเปิดโอกาสผู้ก่อเหตุมอบตัว
พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษก กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากการปฏิบัติดังกล่าวจะเห็นได้ว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ต่อสู้ตามแนวทางสันติวิธี โดยยึดมั่นในหลักการของสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด และพร้อมเปิดโอกาสให้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองตามหลักกฎหมายด้วยความเสมอภาคและเป็นธรรม รวมทั้งยังคงเดินหน้าสร้างสภาวะแวดล้อมให้เกื้อกูลและหนุนเสริมกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขให้เกิดสันติสุขอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
“กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชน ที่ได้ให้ข้อมูลคนร้ายที่เข้ามาหลบซ่อนพักพิงในพื้นที่ รวมทั้งผู้นำศาสนา ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และเครือญาติของผู้ต้องสงสัย ที่เข้าช่วยเหลือในการเจรจาเกลี้ยกล่อมในครั้งนี้ ทั้งนี้หากพบสิ่งผิดปกติและความเคลื่อนไหวของผู้ก่อเหตุรุนแรงสามารถแจ้งข้อมูลเข้ามายังเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ หมายเลขสายด่วน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า 1341 หรือ หมายเลขสายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หมายเลข 061-1732999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง” โฆษก กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า กล่าว
@@ คุมตัวผู้ต้องสงสัยเอี่ยวบึ้มปั๊ม 2 รายเข้าศูนย์ซักถาม
ส่วนความคืบหน้าในการติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุลอบวางระเบิด-วางเพลิงปั๊มน้ำมันบางจาก บ.ดอนยาง ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และลอบวางเพลิงมินิบิ๊กซี บ.นัสฆอมิส ม.5 ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงยังคงสนธิกำลังเร่งติตามตัวคนร้ายที่เข้าก่อเหตุดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก่อนหน้านั้นทางเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว 3 ราย
วันเดียวกันนี้ทางเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้อีก 2 ราย โดยรายแรก ชุดสืบสวน สภ.หนองจิกฯ ร่วมบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี กับผู้ต้องสงสัย ซึ่งคาดว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิดปั้มน้ำมันบางจาก ในพื้นที่ บ.ดอนยาง ม.4 ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อ 17 ส.ค. 65 ที่ผ่านมาได้ 1 ราย (ขอสงวนชื่อเพราะเป็นผู้ต้องสงสัย)
ส่วนรายที่ 2 เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายร่วมเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 4/71 ต.รูสะมิแล อ.เมืองปัตตานี สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้อีก 1 ราย (ขอสงวนชื่อเพราะเป็นผู้ต้องสงสัย) พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง กระเป๋าผ้าสะพายข้างสีดำ จำนวน 1 ใบ (ในกระเป๋ามีเอกสารหลายรายการ) 1 ใบ และรถ จยย.ฮอนด้า เวฟ 125i สีขาว-แดง ป้ายทะเบียน 1กด 4601 ปัตตานี จำนวน 1 คัน เจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดไว้ เพื่อทำการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์
ส่วนผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 รายทางเจ้าหน้าที่ได้ตัวส่งศูนย์ซักถามหน่วยเฉพาะกิจทหารพราน กรมทหารพรานที่ 43 เพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถามและขยายผลต่อไป