องค์กรสิทธิ - ภาคประชาสังคมชายแดนใต้ พร้อมใจออกแถลงการณ์ประณาม ต่อต้านการใช้ความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ หลังเหตุระเบิดในสวนยาง อ.สุไหงปาดี ต่อเนื่องมาจนถึงเหตุระเบิด “ร้านสะดวกซื้อ - ปั๊มน้ำมัน” ป่วนสามจังหวัดชายแดนใต้
กรณีเหตุการณ์ลอบวางระเบิดในสวนยางพารา ในพื้นที่ บ้านโคกโก ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ทำให้มีประชาชนผู้บริสุทธิ์และเจ้าหน้าที่ผู้เข้าไปตรวจสอบเหตุการณ์ เสียชีวิตและบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.65 ต่อเนื่องมาจนถึงเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายก่อเหตุสร้างสถานการณ์ด้วยการลอบวางระเบิดและวางเพลิงร้านสะดวกซื้อ ปั๊มน้ำมันและเผาส่งสัญญาณโทรศัพท์ รวม 17 เหตุการณ์ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บหลายราย เมื่อวันที่ 17 ส.ค.65
จากเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงดังกล่าว ทำให้มีหลายองค์กรสิทธิและภาคประชาสังคมในพื้นที่พร้อมใจกันออกแถลงการณ์ เพื่อประณามและต่อต้านเรียกร้องให้ยุติการใช้ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
เมื่อวันที่ 16 ส.ค.65 ทางเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ออกแถลงการณ เรื่อง ยุติการใช้ความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ลอบวางระเบิดในสวนยางพาราในพื้นที่ บ้านโคกโก ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส โดยแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต พร้อมย้ำว่า การสังหารประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นอาชญากรรมทั้งตามกฎหมายในประเทศและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้กลุ่มที่กระทำดังกล่าว ปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศและไม่ละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนตลอดจนยุติการปฏิบัติการกับเป้าหมายอ่อนแอหรือเป้าหมายพลเรือน พร้อมให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐดูแลประชาชนที่ตกเป็นเป้าหมายการปฏิบัติการของกลุ่มที่เห็นต่างจากรัฐจนกว่าการเจรจาจะบรรลุข้อตกลงในการพูดคุย
ต่อมาวันที่ 17 ส.ค.65 ทางมูลนิธิสิทธิเพื่อสันติภาพ ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง ยุติการใช้ความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ มีเนื้อหาโดยสรุปว่า จากสถานการณ์ความรุนแรงที่ต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ มูลนิธิสิทธิเพื่อสันติภาพขอประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบและขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ทั้งประชาชนผู้บริสุทธิ์และเจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติหน้าที่ โดยขอเรียกร้องให้กลุ่มที่กระทำการดังกล่าว ยุติการปฏิบัติการที่ก่อความรุนแรงที่มีผลกระทบด้านมนุษยธรรมและละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ และต้องยุติปฏิบัติการทุกชนิดที่มุ่งเป้าต่อพลเรือนและเป้าหมายที่อ่อนแอ พร้อมขอเรียกร้องคู่ภาคีการพูดคุยเพื่อสันติภาพเร่งหาข้อสรุปในการยุติความรุนแรงที่สร้างผลกระทบด้านมนุษยธรรมต่อผู้บริสุทธิ์โดยเร็ว
เช่นเดียวกับทางสมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพชายแดนภาคใต้ (กลุ่มลุกเหรียง) ที่ได้ออกแถลงการณ์ แสดงความรู้สึกหดหู่ เสียใจ เศร้า ที่สำคัญรู้สึกไร้ความหวังและรู้สึกว่า “สันติภาพ สันติ ห่างออกไปเรื่อยๆ” พร้อมทั้งขอประณามการกระทำของผู้ไม่หวังดี ขอต่อต้านการใช้ความรุนแรงอันเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยม ขาดเมตตา ผิดต่อกฎหมายและละเมิดสิทธิมนุษยชนอันก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและร่างกายและต่อสังคมโดยรวม และขอวิงวอนต่อผู้ที่ใช้ความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์ หยุดสร้างสถานการณ์อันก่อให้เกิดความุรนแรงและผลกระทบอื่นๆ ขอให้ให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่อกระบวนการสันติภาพ เร่งหาข้อสรุปเพื่อยุติสถานการณ์ความรุนแรงนี้โดยเร็ว
ด้านสมาคมผู้หญิงเพื่อสันติภาพ We Peace ได้ออกแถลงการณ์ในกรณีเดียวกันนี้ ระบุว่า เหมือนเหตุภาพรวมจะดีขึ้น แต่ไม่เลยเหตุการณ์ความรุนแรงยิ่งรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ นับเป็นสัญญาณความรุนแรงที่มีโอกาสบานปลายอย่างมีนัยสำคัญ
“ไหนละความสงบ ไหนละความปลอดภัย ไหนละพื้นที่สันติสุข หรือต้องอยู่อย่างหวาดผวาครั้งแล้วครั้งเล่า หยุดเถอะ แล้วกลับมาร่วมสร้างสันติสุขในพื้นที่อีกครั้ง”
ขอแสดงความเสียใจและเศร้าสลดต่อการกระทำในครั้งนี้ จึงขอประมาณการกระทำของผู้ไม่หวังดี และขอต่อต้านการใช้ความรุนแรงอันโหดเหี้ยมขาดความเมตตาไร้ซึ่งมนุษยธรรม ที่ผิดต่อกฎหมายและละเมิดสิทธิมนุษยชน ในนามขององค์กรด้านผู้หญิงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่นำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษตามกระบวนการยุติธรรมให้โดยเร็วที่สุด เพื่อความเป็นธรรมต่อผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเร่งสร้างพื้นที่ปลอดภัยในการดำเนินชีวิตประจำวันให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่อไป