คืบหน้าเหตุปิดล้อม ยิงปะทะหลัง “มัรกัสยะลา” ผู้ต้องสงสัยเสียชีวิต 2 ราย รอตรวจอัตลักษณ์ยืนยันตัวบุคคล ส่วนเหตุซุ่มยิงทหารพรานเจาะไอร้องบาดเจ็บ ผู้การนราธิวาสคาดฝีมือ “สไนเปอร์” หลังพบยิงจากระยะไกล
ความคืบหน้าปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในการปิดล้อมตรวจค้นบ้านต้องสงสัยบริเวณด้านหลัง “ศูนย์มัรกัสยะลา” หรือ ศูนย์กลางดะวะห์แห่งประเทศไทย ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา จนเกิดการยิงปะทะกันตั้งแต่ในช่วงเช้าของวันอังคารที่ 26 ก.ค.65 นั้น
ล่าสุดเวลา 09.40 น. มีรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ดำเนินการตามกระบวนการ คือเข้าปิดล้อมบ้านต้องสงสัยที่มีการข่าวแจ้งว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงหลบซ่อนตัวอยู่ จากนั้นก็แสดงตัวขอเข้าตรวจค้น และให้ผู้นำศาสนาเข้ามาช่วยในการเจรจาให้คนที่อยู่ในบ้านออกมามอบตัว เพื่อลดความสูญเสีย และได้มีโอกาสต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม
แต่ปรากฏว่าการเจรจาไม่เป็นผล กลุ่มคนในบ้านได้ยิงใส่เจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่จึงยิงตอบโต้ และปะทะกันเป็นเวลานาน กระทั่งเสียงปืนสงบลง เจ้าหน้าที่จึงเข้าเคลียร์พื้นที่อย่างระมัดระวัง เพราะยังอาจมีกลุ่มติดอาวุธหลงเหลืออยู่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบผู้ต้องสงสัยเสียชีวิต 2 ราย อยู่ระหว่างการตรวจอัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล โดยเสียชีวิตอยู่บนหลังคา 1 ราย และเสียชีวิตอยู่ภายในตัวบ้าน 1 ราย ความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
@@ ผู้การนราฯ คาดฝีมือ “สไนเปอร์” ซุ่มยิงทหารพรานเจาะไอร้อง
ด้านความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้ายซุ่มยิง อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) อิสมาแอ สมานิ สังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 (ฉก.ทพ.48) จนได้รับบาดเจ็บ ขณะปฏิบัติหน้าที่ประจำด่านตรวจบ้านยานิง หมู่ 2 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เหตุเกิดเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น
ต่อมาเวลา 10.30 น. วันอังคารที่ 26 ก.ค.65 พล.ต.ต.แวสาแม สาและ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส (ผบก.ภ.จว.นราธิวาส) พร้อมด้วย พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส พ.อ.ภาคิน เกื้อกูล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบพรานที่ 48 (ผบ.ฉก.ทพ.48) พ.ต.อ.วรวุฒิ กิตติศักดิ์รณกรณ์ ผู้กำกับการ สภ.เจาะไอร้อง ได้นำกำลังตำรวจ และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ
จากการตรวจสอบบริเวณป้อมจุดตรวจ ซึ่งปลูกสร้างแบบชั่วคราวไว้บริเวณกลางถนน มุงหลังคาด้วยกระเบื้อง ขนาดกว้าง 3 เมตร ยาว 5 เมตร และมีสแลนกันแดดสีดำขึงคลุมทึบไว้ทั้ง 4 ด้าน เว้นช่วงประตูทางเข้าออกไว้ โดยสแลนด้านที่หันไปทาง อ.สุไหงปาดี จ.นราวาส มีร่องรอยเป็นรูโหว่ของลูกกระสุนปืน สูงจากพื้นถนนประมาณ 70 เซ็นติเมตร และมีกองเลือดที่พื้นภายในป้อมจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนจุดที่คาดว่าคนร้ายใช้เป็นจุดซุ่มยิงนั้น พบว่าอยู่บริเวณพุ่มไม้รกทึบ ขึ้นไปบนจอมปลวกในทุ่งนา ห่างจากป้อมจุดตรวจ ประมาณ 150 เมตร เจ้าหน้าที่พบเพียงรอยรองเท้าของคนร้ายที่เหยียบย่ำจนต้นหญ้าเตียนโล่งรัศมี 1 เมตร แต่ไม่พบหลักฐานใดๆ เพิ่มเติม
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่ อส.ทพ.อิสมาแอ กำลังยืนปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในป้อมจุดตรวจ ได้มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนซุ่มอยู่ตรงพุ่มไม้ในทุ่งนา ห่างจากป้อมจุดตรวจ 150 เมตร โดยอำพรางตัวกับความมืด แล้วใช้อาวุธปืนสงครามไม่ทราบชนิดงยิงใส่ อส.ทพ.อิสมาแอ จากจุดซุ่มยิง 1 นัด กระสุนปืนถูก อส.ทพ.อิสมาแอ จนล้มฟุบนอนกองกับพื้นภายในป้อมจุดตรวจ ทำให้เพื่อนทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันเข้าช่วยเหลือ และรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเจาะไอร้อง จากนั้นแพทย์ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนส่งตัวไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมืองนราธิวาส
พล.ต.ต.แวสาแม กล่าวว่า จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ เชื่อว่าเป็นการกระทำของกองกำลังติดอาวุธกลุ่มผู้ไม่หวังดี โดยใช้อาวุธปืนสไนเปอร์เล็งยิงเจ้าหน้าที่ทหารพราน เนื่องจากทั้งระยะยิงและระดับของเป้าหมายที่วิถีกระสุนวิ่ง อยู่ในระดับเดียวกัน ครั้งนี้ไม่ใช่เหตุการณ์แรกที่คนร้ายใช้อาวุธปืนสไนเปอร์ซุ่มยิงเจ้าหน้าที่กองกำลังในพื้นที่นราธิวาส