รวบ 2 เยาวชน “แนวร่วมรุนใหม่” ร่วมก่อเหตุยิงตำรวจสุไหงโก-ลกเสียชีวิต สารภาพสิ้นรับคำสั่งให้หาเป้าหมายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเดินทางคนเดียว ก่อนทำหน้าที่ดูต้นทางพร้อมให้สัญญาณกดเบรก 3 ครั้งก่อนเพื่อนร่วมก๊วนลั่นไก
เหตุการณ์คนร้ายยิง ส.ต.ต.ธนกฤต ฤกษ์ดี อายุ 23 ปี ผู้บังคับหมู่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ (ผบ.หมู่ นปพ.) สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จนเสียชีวิตคาถนนทรายทอง 5 เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก เมื่อกลางดึกของวันเสาร์ที่ 16 ก.ค.65 ที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่พุ่งเป้าคนร้ายไปที่กลุ่มเด็กแว้นที่น่าจะไม่พอใจการปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ต.ต.ธนกฤต ซึ่งเป็นตำรวจน้ำดี ตั้งใจทำงาน ทว่าเมื่อสืบสวนเชิงลึกกลับพบว่า เป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ โดยใช้เยาวชนแนวร่วมรุ่นใหม่ในการลงมือ
ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุยิง ส.ต.ต.ธนกฤต ได้แล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะกำลังเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่เพิ่มอีก แต่ถูกจับเสียก่อน โดยผู้ต้องสงสัยเป็นวัยรุ่นชายอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 2 คน
คนแรกชื่อ นายฮาฟิส (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี คนที่ 2 ชื่อ นายตาร์มี (สงวนนามสกุล) อายุเพียง 17 ปี โดยทั้ง 2 เป็นเยาวชนในพื้นที่ ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส พร้อมตรวจยึดโทรศัพท์มือถือได้ 2 เครื่อง จากการสอบปากคำเบื้องต้น นายฮาฟิสรับสารภาพว่า เข้ามาในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก เพื่อก่อเหตุจริงสังหารเจ้าหน้าที่ โดยรับหน้าที่ดูต้นทางและชี้เป้า
นายฮาฟิส รับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 28-29 มิ.ย.65 ได้เดินทางไปพบกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่มัรกัสสุไหงโก-ลก เพื่อวางแผนการก่อเหตุร้ายภายในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก และได้นัดหมายกันว่าในวันรายอให้เดินทางมาเจอกันอีกครั้ง ที่ร้านสะดวกซื้อ บนถนนทรายทอง 5 ต.สุไหงโก-ลก
กระทั่งเมื่อวันที่ 11-12 ก.ค.65 (ไม่สามารถจดจำวันที่ที่แน่นอนได้) หลังจากละหมาดอีซา (เวลาประมาณ 20.00 น.) นายฮาฟิส บอกว่าได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Yamaha รุ่น Exciter สีดำ ป้ายแดง ออกจากบ้านที่ ต.เกาะสะท้อน มุ่งหน้าไปยังร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น ถนนทรายทอง 5 ต.สุไหงโก-ลก ตามที่นัดหมายกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเอาไว้ จนได้พบกับ นายแปยู (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) กำลังยืนรออยู่ แล้วนายแปยูได้ชวนให้เข้าไปคุยกันภายในร้าน เพื่อตกลงแผนในการก่อเหตุความไม่สงบ
โดยในแผนได้กำหนดให้นายฮาฟิส ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปเที่ยวภายในงานกิจกรรมฟื้นฟูเศรษฐกิจของเทศบาลตำบลปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก เมื่องานเลิกให้มาพบกับนายแปยู ที่บริเวณร้านปาลูกโป่ง แล้วเริ่มก่อเหตุ โดยให้นายฮาฟิส เป็นคนขับรถดูต้นทางและคัดเลือกเป้าหมายที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่เดินทางคนเดียว และหากมั่นใจว่าเส้นทางที่เจ้าหน้าที่รัฐคนดังกล่าวเดินทางไป เป็นเส้นทางที่ปลอดภัย ไม่มีการสนับสนุนกำลังหรือตั้งด่าน ให้นายฮาฟิสส่งสัญญาณ โดยการกำเบรกหลังของรถจักรยานยนต์จำนวน 3 ครั้ง และขับรถแซงไป จากนั้นนายแปยู จะขับรถขึ้นมายิงเป้าหมายที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเอง
เมื่อถึงวันก่อเหตุ เวลาประมาณ 18.00 น. วันศุกร์ที่ 15 ก.ค.65 หลังละหมาดมัฆริบ นายฮาฟิส ได้เดินทางเข้ามาเที่ยวงานเทศกาลมหกรรมฟื้นฟูเศรษฐกิจตามแผนการที่วางไว้ จนกระทั่งงานเลิกเวลา 01.00 น. นายฮาฟิส ได้ขับรถออกจากงานและได้สังเกตเห็น ส.ต.ต.ธนกฤต ฤกษ์ดี (ผู้เสียชีวิต) ขับขี่รถจักรยานยนต์แซงไป จึงได้ขับรถตาม เมื่อถึงบริเวณที่เกิดเหตุ จึงได้ให้สัญญาณโดยการกำเบรก 3 ครั้ง และขับรถแซงขึ้นไป จากนั้นจึงได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจำนวนหลายนัด เมื่อเสียงปืนสงบลง นายฮาฟิส จึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับไปที่บ้านใน ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ
แหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคง ยังเผยด้วยว่า เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวกลุ่มแนวร่วมอีก 4 คน โดยอาศัยอำนาจตามกฎอัยการศึก แล้วส่งเข้าศูนย์ซักถาม ภายในค่ายทหารแห่งหนึ่งใน จ.นราธิวาส เพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถามต่อไป