“กลุ่มชาวพุทธรักสันติ” ตัวแทนพี่น้องชาวพุทธ ทั้งใน จ.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา ร้องขอ “เข้าพรรษาสันติ-ปลอดภัย ทุกคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้” ร่วมรณรงค์สาธารณะเพื่อให้วาระของเดือนเข้าพรรษาในปี 2565 เป็น 3 เดือนแห่งความปลอดภัยของพี่น้องพุทธและทุกศาสนิกในพื้นที่ชายแดนใต้
กลุ่มชาวพุทธรวมพลังกันในตอนสายของวันอาทิตย์ที่ 10 ก.ค.65 ซึ่งตรงกับวันอิดิ้ลอัฏฮา หรือ “วันรายอฮัจยี” ของพี่น้องมุสลิม
จุดรวมตัวกันอยู่ที่บริเวณหอนาฬิกาสามวัฒนธรรม เทศบาลเมืองปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี
ตัวแทนกลุ่มได้กล่าวถึงความต่อเนื่องจากการทำข้อตกลงของคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งฝ่ายรัฐบาลไทย และฝ่ายผู้เห็นต่างจากรัฐ นำโดยกลุ่มบีอาร์เอ็น เพื่อยุติการปฏิบัติการที่รุนแรงจากทั้งสองฝ่ายในช่วงรอมฏอน 1 เดือนก่อนนี้ ทำให้ทุกคนปลอดภัย
ชาวพุทธ ผู้เรียกตัวเองว่า “กลุ่มชาวพุทธรักสันติ” คือคนเล็กคนน้อยที่มารวมกันวันนี้ ขอเป็นตัวแทนของซาวพุทธในพื้นที่นี้ เพื่อเรียกร้องแสดงตัวตนของชาวพุทธ คนส่วนน้อยที่ยืนยันการอยู่ร่วมกันอย่างเคารพ อย่างมีศักดิ์ศรี และยึดมั่นในวิถีธรรมของพระพุทธศาสนา ท่ามกลางคนต่างศาสนิกมากมาย ทั้งอิสลาม ชิกซ์ ฮินดู คริสต์ ชินโต ผู้ไม่นับถือศาสนาและทุกคน
ชาวพุทธที่มารวมตัวกันได้อ่านแถลงการณ์ ละเปล่งเสียง "เข้าพรรษาสันติ-ปลอดภัยทุกคน" หวังส่งเสียงไปยังรัฐบาล ผ่านคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ ผู้แทนบีอาร์เอ็น และผู้แทนพูโล อีกครั้งหนึ่ง หลังจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางกลุ่มชาวพุทธได้จัดทำข้อเรียกร้อง “เข้าพรรษาสันติ-ปลอดภัยทุกคน” ไปยัง 3 ภาคส่วนไปแล้ว
นางสมใจ ชูชาติ ผู้แทนกลุ่มชาวพุทธรักสันติ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ดี มีความกลมกลืน เป็นวันประเสริฐของพี่น้องมุสลิม คือวันอิดิ้ลอัฏฮา วันที่ 11-14 เป็นต้นไปเป็นวันอันศักดิ์สิทธิ์ของพี่น้องพุทธที่ปฏิบัติศาสนกิจของตนเอง กิจกรรมวันนี้ทำเพื่อประโยชน์ของทุกศาสนิกในชายแดนใต้
“ครั้งก่อนบนโต๊ะพูดคุย มีการตกลงระหว่างรัฐไทยกับบีอาร์เอ็น เรื่องของรอมฏอนสันติ เรามองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นบนข้อตกลงบนโต๊ะ เห็นภาพชัดเจนว่าเป็นสิ่งที่ดีที่พี่น้องทุกศาสนิกออกมาทำภารกิจของตัวเอง มีพี่น้องพูดคุยเรื่องเข้าพรรษาสันติ เราก็คิดว่าเป็นการดีหากมีการปฏิบัติต่อเนื่อง สามารถดำรงชีวิต การไปมาหาสู่ เข้าพรรษาเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ของพี่น้องพุทธ เช่นเดียวกับรอมฏอนเป็นช่วงศักดิ์สิทธิ์ของพี่น้องมุสลิม สิ่งเหล่านี้ต้องเริ่มต้นจากประชาชนในพื้นที่ที่ต้องการสันติสุข สงบสุข ออกมาเรียกร้อง เรายื่นหนังสือให้รัฐบาลไทย บีอาร์เอ็น และพูโลไปเมื่อวันที่ 3 และ 4 ก.ค.” นางสมใจ กล่าว
แกนนำชาวพุทธรักสันติ บอกอีกว่า การแก้ปัญหาต้องไปด้วยกันทั้งสองฝ่าย เราเห็นการขยับแต่ละก้าว เห็นปัญหาหลายอย่างทั้งสองฝ่าย ไม่กี่วันมานี้ที่รัฐบาลไทยแสดงพลัง โดยไปจับกุมแล้วทำให้มีผู้สูญเสีย พี่น้องพุทธคิดเยอะว่าจะปลอดภัยหรือไม่ เรากลัวการตอบโต้ที่ส่งผลกับทุกศาสนิก เศรษฐกิจการไปมาหาสู่ เราไม่สบายใจ เราเห็นด้วยกับการพูดคุย เพราะทุกอย่างที่จะเกิดสันติสุขได้ต้องเปิดการเจรจา การพูดคุยเป็นทางออกที่ดี เป็นเรื่องที่ดีกับทุกฝ่าย ทุกกลุ่มที่จะมาพูดคุย สิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นคือ เน้นเรื่องประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุด เพราะประชาชนคือผู้ที่ต้องอาศัยและดำรงชีวิตอยู่
“เรามองภาพบวก แสดงตัวตนชัดเจน เจตจำนงที่บริสุทธิ์ใจ คนที่มาร่วมในวันนี้มาด้วยใจ คนที่ไม่ได้มาร่วมก็ส่งกำลังใจมา พวกเรายอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”
นางสมใจ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.65 ชาวไทยพุทธในคณะประสานงานสร้างสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อการพูดคุยสันติสุขระดับพื้นที่ และเครือข่ายชาวพุทธ 3 จังหวัด 4 อำเภอในพื้นที่ชายแดนใต้ ได้มีโอกาสเข้าพบ พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ พล.ท.ธิวา แดหวา แม่ทัพน้อยที่ 4 และที่ปรึกษาคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ พร้อมใจนำเสนอการพูดคุยเรื่องความปลอดภัยในวาระเข้าพรรษา-ประเพณีชักพระ เพื่อสนับสนุนให้ฝ่ายพูดคุยของบีอาร์เอ็น และรัฐบาลไทย เชื่อมต่อข้อตกลงจากวาระรอมฎอนสันติ เพราะเห็นประจักษ์ชัดว่า ข้อตกลงประเด็นหลักเรื่องการยุติความรุนแรงจากทั้ง 2 ฝ่าย ระหว่างเวลาอันศักดิ์สิทธิ์รอมฎอนที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จโดยการยุติความรุนแรงจากทั้งสองฝ่าย ทำให้ทุกคนได้ปลอดภัยตลอดเวลารอมฏอน
ทางเครือข่ายฯ จึงมีการเสนอต่อเนื่องจากวาระนั้น โดยขอให้ทั้งสองฝ่าย มีข้อตกลงให้ช่วงวาระอันศักดิ์สิทธิ์เช้าพรรษา เป็นวาระสันติด้วย โดยขอเชิญชวนชาวพุทธปฏิบัติกิจทางศาสนาอย่างเข้มข้นตลอด 3 เดือน ด้วยความปลอดภัย จากการไม่ทำความรุนแรงอย่างน้อยจากคู่พูดคุยทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อให้ทุกศาสนิกปลอดภัยเช่นเดียวกับช่วงรอมฎอน เป็นการสนับสนุนเป็นกำลังใจให้ข้อตกลงนี้ถูกยอมรับและได้ดำเนินการต่อไป
สำหรับการพุดคุยในเดือน ก.ค.65 นี้ กลุ่มชาวพุทธรักสันติจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีข้อเสนอต่อไปนี้
1.ให้มีการพูดคุยและจัดทำข้อตกลงบนโต๊ะพูดคุยที่ประเทศมาเลเซีย ในเดือน ก.ค.65 เรื่อง ยุติการก่อเหตุรุนแรงและปฏิบัติการทางทหารของทุกฝ่ายในพื้นที่ ตลอดเวลา 3 เดือนในห้วงเข้าพรรษาถึงประเพณีชักพระของชาวพุทธ เพื่อให้เกิด “วาระเข้าพรรษาสันติ-ปลอดภัย สำหรับทุกคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ในปี 2565”
2.ให้ทั้ง 2 ฝ่ายที่เป็นคู่พูดคุยฯ ในขณะนี้ ร่วมแสวงหาทางออกจากความขัดแย้งด้วยวิธีการทางการเมือง และขอให้คู่พูดคุยฯ เดินหน้ากระบวนการพูดคุย และแก้ไขความขัดแย้งด้วยวิธีการและกระบวนการทางการเมือง โดยเอื้อให้มีการเปิดพื้นที่การปรึกษาหารือกับประชาชนในพื้นที่ทุกกลุ่ม เพื่อเป็นการสร้างสภาวะแวดล้อมที่เอื้อและมีความร่วมมือในการสร้างสันติสุข
3.ให้ประชาชน กลุ่ม องค์กร และตัวแทนกลุ่มชาวไทยที่นับถือศาสนาพุทธที่ขับเคลื่อนกระบวนการสันติสุข มีโอกาสรับฟัง แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และข้อเสนอแนะกับรัฐบาลไทย และขบวนการบีอาร์เอ็น ภายใต้การดำเนินงานของคณะพูดคุยฝ่ายไทย และคณะผู้อำนวยความสะดวกการพูดคุยประเทศมาเลเซีย