คาร์บอมบ์โจมตีป้อมตำรวจปาลัส ใช้ระเบิดแสวงเครื่องประกอบใส่ถังแก๊ส น้ำหนักกว่า 50 กิโลกรัม ผู้การตำรวจปัตตานี แฉคนร้ายเคยพยายามนำรถบรรทุกน้ำมาก่อเหตุ แต่เจ้าหน้าที่รู้ก่อน สกัดได้ ด้านรองแม่ทัพน้อย เชื่อไม่กระทบพูดคุยสันติสุข ขณะที่ชาวบ้านสงสัยขบวนการเปิดฉากโต้ “ทักษิณ” ขอโทษ แถมโยนหินถามทาง “โมเดลปกครองพิเศษ”
วันอังคารที่ 21 มิ.ย.65 ความคืบหน้าเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ บถนนซอยข้างกำแพงปั๊มน้ำมัน ปตท.ปาลัส ติดกับป้อมตำรวจหน่วยบริการประชาชน “จันทรักษ์” ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 (ปัตตานี - นราธิวาส) ท้องที่หมู่ 1 บ้านปาลัส ต.ควน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำของวันจันทร์ที่ 20 มิ.ย. แรงระเบิดทำให้อาคารป้อมตำรวจหน่วยบริการประชาชน และอาคารสำนักงานที่ดินจังหวัดปัตตานี สาขาปะนาเระ ได้รับความเสียหาย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 3 นาย
จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ พบวัตถุพยานเป็นภาชนะบรรจุระเบิดแสวงเครื่อง เป็นชิ้นส่วนถังแก๊สหุงต้มขนาด 15 กิโลกรัม มีเหล็กเส้นตัดท่อนคละขนาดเป็นสะเก็ดระเบิด พบชี้นส่วนแบตเตอรี่ลิเธียม ขนาด 3.7 โวลต์ เป็นแหล่งจ่ายไฟฟ้าให้วงจรจุดระเบิด ทั้งยังพบชิ้นส่วนวิทยุสื่อสาร วงจร DTMF ซึ่งเป็นวงจรในการจุดระเบิด เจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายประกอบดินระเบิดใส่ในถังแก๊ส น้ำหนักดินระเบิดไม่ต่ำกว่า 50 กิโลกรัม โดยนำระเบิดใส่ไว้ในรถขยะที่ปล้นชิงมา นำมาจอดไว้ข้างกำแพงปั๊มน้ำมัน ปตท.ปาลัส ก่อนกดจุดชนวน
@@ แฉเคยพยายามนำรถบรรทุกน้ำ อบต.มาก่อเหตุ
พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี (ผบก.ภ.จว.ปัตตานี) กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณ 3 ทุ่มกว่า เป็นเวลาที่พนักงานเก็บขยะขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ลางา อ.มายอ จ.ปัตตานี จำนวน 4 คน นำขยะจากรถขยะไปทิ้งพอดี จังหวัดนั้นมีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ดักปล้นรถ โดยคนร้ายกลุ่มหนึ่งจับคนขับรถขยะไว้ ส่วนอีกกลุ่มก็ขับรถไปรับระเบิด และนำระเบิดใส่ในรถขนขยะ ก่อนขับรถไปจอดในที่เกิดเหตุ หลังจากจอดรถประมาณ 2 นาที ก็ได้กดจุดระเบิดทันที แต่จุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากหัวจ่ายของปั๊มน้ำมันพอสมควร
เหตุจูงใจที่คนร้ายใช้รถขนขยะ ก็เพื่อเป็นการอำพรางเจ้าหน้าที่ในการเข้ามาก่อเหตุสร้างสถานการณ์ เพราะในช่วงนี้พื้นที่ปัตตานีไม่มีการสร้างเงื่อนไขใดๆ ที่อาจเป็นแรงขับที่จะทำให้เกิดการก่อเหตุในครั้งนี้ได้เลย
“ขณะนี้ยังไม่ทราบว่ากลุ่มไหนที่ก่อเหตุ เบื้องต้นจากการเข้าจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบข้อมูลที่อาจโยงไปถึงกลุ่มที่ก่อเหตุได้ แต่ต้องขอตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดอีกครั้งก่อน เรามีภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพคนร้ายได้ เราจะประมวลภาพ ตรวจที่เกิดเหตุอย่างละเอียดก่อนจึงจะออกหมายจับ” พล.ต.ต.นรินทร์ กล่าว
ผบก.ภ.จว.ปัตตานี บอกอีกว่า การก่อเหตุลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว มีการนำรถบรรทุกน้ำของ อบต.มาก่อเหตุ แต่เจ้าหน้าที่รู้ตัวก่อน พอรถหาย เจ้าหน้าที่รู้ ทำให้มีการเฝ้าระวัง แต่ครั้งนี้ผู้ก่อเหตุใช้เวลารวดเร็วมาก จึงต้องเพิ่มวิธีการเฝ้าระวัง และนำมาเป็นอุทาหรณ์
“สถิติการจับกุมแต่ละพื้นที่ ถ้าเป็นพื้นที่ที่เคยรุนแรงมาก่อน อย่าง อ.ยะรัง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี หลังจากมีการจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้ เหตุการณ์ในพื้นที่จะลดลงทันที เช่น พื้นที่ยะรัง หนองจิก ที่เคยรุนแรง วันนี้ก็เบาลงไปเยอะ พื้นที่รอยต่อ จ.นราธิวาส ก็ต้องเฝ้าระวังอยู่ ส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้บาดเจ็บ เมื่อคืนได้เข้าไปเยี่ยมแล้ว เป็นตำรวจทั้ง 3 นาย อาการไม่น่าห่วง สามารถคุยกันปกติ บาดเจ็บจริงๆ 1 นาย ส่วนอีก 2 นายเจ็บหน้าอก”
@@ เปิดแผนประทุษกรรมคนร้ายปล้นรถขยะทำ Truck Bomb
มีข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ระบุว่า เหตุการณ์เริ่มขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ขณะที่ นายมัซลัง สาเมาะ คนขับรถเก็บขยะของ อบต.ลางา พร้อมพนักงานอีก 3 คน คือ นายปรีชา ดาโอะ, นายอิสมาแอ ตีมุง และ นายรอสะดี สะนิ ได้นำรถบรรทุกขยะ 6 ล้อ สีเขียว ป้ายทะเบียน 80 – 6041 ปัตตานี ของ อบต.ลางา ออกเก็บขยะตามหมู่บ้านในพื้นที่รับผิดชอบ หลังจากที่เก็บขยะเสร็จ นายมัซลัง ได้ขับรถบรรทุกขยะไปทิ้งที่บ่อขยะ ในพื้นที่บ้านตาแบ๊ะ หมู่ 3 ต.ลางา อ.มายอ จังหวะนั้นมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้หมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า พร้อมสะพายอาวุธปืนสงคราม และอาวุธปืนพกสั้น เข้าจี้จับและบังคับทั้ง 4 คนให้อยู่รวมกัน พร้อมทั้งจับมัดมือไพล่หลัง แล้วชิงรถเก็บขยะไป
เมื่อได้รถไปแล้ว คนร้ายได้ขับไปรับระเบิด นำระเบิดใส่ในรถขยะ แล้วขับไปจอดไว้บริเวณข้างป้อมหน่วยบริการประชาชนจันทรักษ์ หลังจากนั้นไม่กี่นาที คนร้ายได้กดจุดชนวนระเบิดขึ้น แรงระเบิด่ทำให้รถบรรทุกขยะ 6 ล้อมีเพลิงลุกไหม้ ได้รับความเสียหายทั้งคัน แรงระเบิดและสะเก็ดระเบิดยังทำลายอาคารหน่วยบริการประชาชน และสำนักงานที่ดิน รวมทั้งกำแพงปั๊มน้ำมันได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง
@@ ชาวบ้านวิจารณ์แซ่ด ขบวนการโต้ “คนแดนไกล"
ประเด็นที่หลายฝ่ายให้ความสนใจก็คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นฝีมือใคร และมีสาเหตุมาจากอะไร เพราะระยะหลังเหตุรุนแรงในพื้นที่ลดน้อยลงมาก อยู่ในสถานะ “เบาบาง”
“ทีมข่าวอิศรา” ลงพื้นที่สำรวจ “สภากาแฟชายแดนใต้” ได้ข้อมูลเป็นเสียงเดียวกัน โดยชาวบ้านเชื่อว่าเป็นฝีมือของ “กลุ่มบีอาร์เอ็น” ที่ไม่เห็นด้วยกับอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร หรือ “โทนี่ วู้ดซัม” ที่เพิ่งให้สัมภาษณ์สื่อประชาสังคมในพื้นที่จนเป็นข่าวดังเมื่อค่ำวันอาทิตย์ที่ 19 มิ.ย. เสนอโมเดล “เขตปกครองพิเศษ” เพื่อดับไฟใต้ พร้อมให้ลดงบประมาณด้านการทหารลง แล้วหันไปทุ่มงบพัฒนาแทน
ชาวบ้านตามสภากาแฟ และบรรดากลุ่มแนวร่วมที่เชื่อมโยงกับขบวนการแบ่งแยกดินแดน โดยเฉพาะบีอาร์เอ็น มองว่า บีอาร์เอ็นไม่เห็นด้วยกับ “เขตปกครองพิเศษ” มาตั้งแต่ต้น จึงส่งสัญญาณให้กลุ่มที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ออกมาก่อเหตุ
ข้อมูลที่ถอดรหัสมาจากบรรดาแนวร่วม และกลุ่มที่เชื่อมโยงกับบีอาร์เอ็น สรุปได้ว่า
-ขบวนการที่เคลื่อนไหวแบ่งแยกดินแดน ไม่เอาโมเดล “เขตปกครองพิเศษ” เพราะสุดท้ายมีคนไม่กี่กลุ่มเท่านั้นที่จะเข้ามามีอำนาจ
-บรรดาคนที่ทำงานกับรัฐ และภาคราชการในพื้นที่ ก็ปฏิเสธโมเดล “เขตปกครองพิเศษ” เพราะเกรงจะเสียอำนาจ
-ท่าทีของอดีตนายกฯ ที่ยอมรับความผิดพลาดสมัยที่ตัวเองมีอำนาจ ไม่มีผลอะไรกับมวลชนในพื้นที่
@@ แฉมีอีกเหตุ ปาไปป์บอมบ์ถล่มฐาน ชคต.ในรามัน
วันเดียวกัน พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และรองแม่ทัพน้อยที่ 4 เดินทางไปยังฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลโกตาบารู (ชคต.โกตาบารู) บ้านนาเตย หมู่ 2 ต.โกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา ซึ่งเมื่อเวลา 19.00 น.ของวันจันทร์ที่ 20 มิ.ย. เกิดเหตุคนร้ายมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ขว้างระเบิดใส่ฐานปฏิบัติการ ชคต.นาเตย
พล.ต.ปราโมทย์ กล่าวว่า คนร้ายยังพยายามสร้างสถานการณ์เพื่อทำลายบรรยากาศสันติสุข และสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงค่ำของวันที่ 20 มิย.ที่ผ่านมานั้น มี 2 จุด
จุดแรกเป็นการลอบวางระเบิดรถขนขยะ ที่ปาลัส อ.ปะนาเระ และจุดที่ 2 คือ การขว้างระเบิดใส่ฐานปฏิบัติ ชคต.นายเตย ใน ต.โกตาบารู อ.รามัน
จากการเข้าพิสูจน์หลักฐานเหตุขว้างระเบิด เป็นระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในท่อเหล็ก หรือ "ไปป์บอม" เป็นลักษณะเดียวกับที่คนร้ายลอบวางระเบิดที่ ต.บาโงยซิแน อ.ยะหา จ.ยะลา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะนี้ทางตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด โดย พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะการเก็บรวบรวมวัตถุพยานที่จะนำไปสู่การขยายผลติดตามจับกุมคนร้าย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) จะใช้มาตรการทางกฎหมายในการเข้าดำเนินการต่อกลุ่มผู้ก่อเหตุ เพื่อนำตัวมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด
@@ มั่นใจไม่กระทบ "พูดคุยสันติสุข"
เช่นเดียวกับเหตุการณ์ลอบวางระเบิดรถบรรทุกขยะที่ อ.ปะนาเระ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กำชับไปยังหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี รวมทั้งตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ให้รวบรวมวัตถุพยานเพื่อที่จะขยายผลไปยังตัวคนร้าย ขณะเดียวกันได้มีการสำรวจความเสียหายทั้งในส่วนของทางราชการและประชาชนเพื่อช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบต่อไป
พล.ต.ปราโมทย์ กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลต่อการพูดคุยเพื่อสันติสุข เนื่องจากการพูดคุยเป็นความต้องการของคนส่วนใหญ่ในพื้นที่ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ยังยืนยันในหลักการการใช้แนวทางสันติวิธีเพื่อแก้ไขปัญหา และสนับสนุนการพูดคุยเพื่อสันติสุขให้เดินหน้าเพื่อหาข้อสรุปและทางออกร่วมกันต่อไป