“บิ๊กเดฟ” ลงพื้นที่นราธิวาส เยี่ยมกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ตามป่าเขา พร้อมรับฟังความเห็นเพื่อนำไปกำหนดนโยบายแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด ด้านความคืบหน้าเหตุถล่มสถานีตำรวจน้ำตากใบ เร่งเก็บหลักฐานจากกล้องวงจรปิด คาดสืบหาตัวผู้กระทำผิดได้เร็วๆ นี้
เมื่อเวลา 11.30 น.วันจันทร์ที่ 30 พ.ค.65 พล.อ.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ กรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาล (ฝ่ายความมั่นคง) และอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมคณะ ลงพื้นที่ จ.นราธิวาส เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานรักษาความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน พร้อมกับระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากหน่วยความมั่นคง เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ สร้างความสงบสุขให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน
โอกาสนี้ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9, พล.ท.ธิรา แดหวา แม่ทัพน้อยที่ 4, พล.ต.อุทิศ อนันตนานนท์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ร่วมลงพื้นที่ โดยมี พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ตลอดจนผู้บังคับหน่วยในพื้นที่ให้การต้อนรับ ก่อนเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมป่าภูเขา เพื่อให้โอวาทและแนวทางในการปฏิบัติงานในพื้นที่ต่อไป
พล.อ.พรศักดิ์ กล่าวว่า ยังคงเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของหน่วยงานความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ถือเป็นกำลังหลักในการนำพาสันติสุขสู่พื้นที่ การประสานการปฏิบัติสร้างความมีส่วนร่วมเป็นหัวใจหลักของการทำงานในพื้นที่ให้เกิดประสิทธิภาพ ผู้นำระดับตำบลหมู่บ้านจะต้องทำงานควบคู่กันกับฝ่ายความมั่นคง เพื่อให้ได้มาซึ่งความต้องการของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง อันจะนำไปสู่การขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา สร้างความสุขสงบของคนในพื้นที่ การเมืองนำ-การทหารตาม เรียกศรัทธาและความเชื่อมั่นกลับคืนสู่หัวใจของพี่น้องประชาชนต่อไป
“ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการนำพาสันติสุขกลับคืนสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอให้ทำหน้าที่สร้างความเชื่อมั่น สร้างความปลอดภัย ปกป้องพี่น้องประชาชนจากกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง และบังคับใช้กฎหมายต่อกลุ่มผู้กระทำผิดต่อไป” บิ๊กเดฟ กล่าวกับกำลังพล
ส่วนความคืบหน้าของเหตุการณ์ลอบโจมตีสถานีตำรวจน้ำตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อค่ำวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น หน่วยงานความมั่นคงได้ประสานทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง เร่งตรวจสอบวัตถุพยาน ยานพาหนะ เส้นทางที่คนร้ายใช้ทำการหลบหนี รวมทั้งหลักฐานจากกล้องวงจรปิด คาดว่าจะสามารถสืบหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ในเร็ว ๆ นี้