ผอ.โรงเรียนอนุบาลปัตตานี ออกประกาศห้ามนักเรียนที่ไม่ใช่คู่ความฟ้องคดี แต่งกายตามหลักศาสนาอิสลามมาเรียน ชี้คดียังไม่จบจนกว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำพิพากษา หรือศาลไม่รับอุทธรณ์คดี
จากกรณีผู้ปกครองนักเรียนมุสลิมโรงเรียนอนุบาลปัตตานี วัดนพวงศาราม อ.เมือง จ.ปัตตานี ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกรณีออกคำสั่งห้ามนักเรียนมุสลิมแต่งกายตามหลักศาสนา นักเรียนหญิงสวมฮิญาบ นักเรียนชายสวมกางเกงขายาวไปเรียน ซึ่งเป็นข้อพิพาทยืดเยื้อมานานหลายปี โดยทางโรงเรียนยืนยันว่าเป็นกฎระเบียบที่มีมาตั้งแต่ก่อตั้งโรงเรียนเมื่อกว่า 50 ปีที่แล้ว ไม่เคยมีปัญหา และโรงเรียนก็ตั้งอยู่บนที่ธรณีสงฆ์ของวัดนพวงศาราม การออกกฎระเบียบต่างๆ จึงอยู่ในดุลยพินิจของเจ้าอาวาสด้วย ทว่าสุดท้ายเมื่อศาลไต่สวนข้อเท็จจริงต่างๆ แล้ว ศาลปกครองจังหวัดยะลาได้พิพากษาให้เพิกถอนระเบียบการแต่งกายของโรงเรียน แต่คดียังไม่ถึงที่สุด เนื่องจากทางโรงเรียนได้ยื่นอุทธรณ์
ปัญหาก็คือ วันเปิดภาคการศึกษาใหม่ วันอังคารที่ 17 พ.ค.65 นักเรียนมุสลิมจะสามารถแต่งกายด้วยเครื่องแต่งกายตามหลักศาสนาได้หรือไม่
@@ ผอ.ออกประกาศ คำสั่งศาลผูกพันแค่ผู้ฟ้อง 20 คน
เมื่อวันที่ 15 พ.ค.65 นายธำรงศักดิ์ ตันนิยม ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลปัตตานี วัดนพวงศาราม ได้ออกประกาศโรงเรียนอนุบาลปัตตานี เรื่องคำชี้แจงคำพิพากษาศาลปกครองยะลา โดยมีเนื้อหาระบุว่า ตามที่ศาลปกครองยะลามีคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ 9/ 2565 คดีหมายเลขแดงที่ 17/2565 พิพากษาเพิกถอนระเบียนโรงเรียนอนุบาลปัตตานี วัดนพวงศาราม ว่าด้วยการควบคุมและดูแลความประพฤติ การลงโทษ และการตัดคะแนนความประพฤติของนักเรียน พ.ศ.2561 หมวดที่ 3 ว่าด้วยเครื่องแบบและการแต่งกายของนักเรียนในส่วนที่มิได้กำหนดลักษณะเครื่องแบบและการแต่งกายของนักเรียนที่นับถือศาสนาอิสลามให้สามารถแต่งเครื่องแบบและแต่งกายตามข้อกำหนดของอิสลามได้
สำหรับคำสั่งศาลเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิจารณา ฉบับลงวันที่ 29 ต.ค.61 ให้ยังคงมีผลต่อไปตามในข้อ 74 แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2543 นั้น
คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนอนุบาลปัตตานี ในคราวประชุมครั้งที่ 2/ 2565 เมื่อวันที่ 3 พ.ค.65 มีมติให้อุทธรณ์คำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ 9/ 2565 คดีหมายเลขแดงที่ 17/2565 และด้วยคดีนี้อยู่ในขั้นตอนระหว่างยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด คดีจึงยังไม่ถึงที่สุดจนกว่าศาลปกครองจะมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ หรือมีคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด
โดยกรณีผู้ฟ้องคดีทั้ง 20 ราย ศาลปกครองยะลามีคำพิพากษาสำหรับกรณีคำสั่งศาลเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิจารณา ฉบับลงวันที่ 29 ต.ค.61 ให้ยังคงมีผลต่อไปตามใน ข้อ 74 แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2543 จึงส่งผลให้คำพิพากษาข้างต้นมีผลเพียงผู้ฟ้องคดีทั้ง 20 รายเท่านั้น มิได้รวมถึงนักเรียนโรงเรียนอนุบาลปัตตานีรายอื่นที่จะสามารถแต่งกายตามข้อกำหนดของหลักศาสนาได้ ขอให้ผู้ปกครองที่ประสงค์จะให้บุตรหลานแต่งกายตามหลักศาสนาให้รอจนกว่าคดีถึงที่สุด จนกว่าศาลปกครองจะมีคำสั่งพิพากษาศาลปกครองสูงสุดหรือคำสั่งไม่รับอุทธรณ์คดีนี้ มีผลตั้งแต่ปีการศึกษา 2565 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
สำหรับคำสั่งศาลเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิจารณานั้น หมายถึงคำสั่งคุ้มครองนักเรียนผู้ฟ้องคดีทั้ง 20 ราย ซึ่งแต่งกายตามหลักศาสนา ไม่ต้องถูกลงโทษตามระเบียบของโรงเรียน จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด
@@ นร.ผู้ฟ้องคดีเหลือ 3 คน ยืนยันแต่งกายตามหลักศาสนา
“ทีมข่าวอิศรา” สอบถามไปยังผู้ปกครองนักเรียนรายหนึ่ง ซึ่งอยู่ในกลุ่มผู้ฟ้องคดี 20 ราย ได้ความว่า วันเปิดเทอมจะให้ลูกแต่งกายตามหลักศาสนาไปเหมือนเดิม แต่นักเรียน 20 คนที่เป็นผู้ฟ้องคดี ปัจจุบันเหลือศึกษาอยู่เพียง 3 คน เพราะส่วนใหญ่ได้เรียนจบออกไปแล้ว
ผู้ปกครองนักเรียน ยังบอกด้วยว่า โรงเรียนได้ยื่นอุทธรณ์คดี ฉะนั้นคดีจึงยังไม่ถึงที่สุด ก็ได้แต่หวังว่าเมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว และเป็นไปตามคำพิพากษาของศาลปกครองยะลา ก็ขอให้โรงเรียนแก้ไขระเบียบเรื่องการแต่งกายโดยเร็วที่สุด