ผบช.ภ.9 สั่งเร่งติดตามหาตัวหนุ่มสวมหมวกบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ร้านทองกลางห้าง “บิ๊กซี ปัตตานี” พบหลักฐานครบเตรียมขออนุมัติศาลออกหมายจับ ขณะที่โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยันไม่เกี่ยวกับเหตุความมั่นคง
ความคืบหน้าเหตุอุกอาจ คนร้ายใช้อาวุธปืนบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ร้านทอง ห้างทองยั่งฮับเต็งแอนด์จิวเวอรี่ ภายในห้างสรรพสินค้า “บิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์” สาขาปัตตานี เมื่อช่วงค่ำของวันจันทร์ที่ 18 เม.ย. โดยกวาดทองรูปพรรณเป็นสร้อยคอทองคำ น้ำหนักรวม 15 บาทนั้น
ล่าสุด วันอังคารที่ 19 เม.ย.65 พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) ได้เดินทางไปประชุมติดตามความคืบหน้าของคดี และการติดตามไล่ล่าคนร้าย ที่ สภ.เมืองปัตตานี โดยมี พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี (ผบก.ภ.จว.ปัตตานี), พ.ต.อ.ประยงค์ โคตรสาขา รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี, พ.ต.อ.ญาณพงศ์ อุบลบาน ผู้กำกับการ สภ.เมืองปัตตานี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
ในที่ประชุม เจ้าหน้าที่ได้รายงาน ผบช.ภ.9 ว่า ขณะนี้มีข้อมูลและหลักฐานจากจุดเกิดเหตุ รวมทั้งภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด คาดว่าจะสามารถออกหมายจับผู้ก่อเหตุได้เร็วๆ นี้
ด้าน พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) แถลงว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น่าเกี่ยวกับคดีความมั่นคง เพราะ ลักษณะการก่อเหตุของคนร้ายที่บุกเข้าไป คนเดียว พร้อมอาวุธปืน และปล้นทองไปได้จำนวนไม่มาก น่าจะเป็นอาชญากรรมทั่วไปมากกว่า
“หากเทียบกับพฤติกรรมของกลุ่มก่อความไม่สงบที่ก่อคดีความมั่นคง ที่เคยปล้นเต็นท์รถยนต์วังโต้คาร์เซ็นเตอร์ ใน อ.นาทวี จ.สงขลา จะก่อเหตุในรูปแบบเป็นกลุ่มมากกว่าบุกเดี่ยว ฉะนั้นจึงเชื่อว่าไม่น่าเป็นเหตุจูงใจที่จะทำให้ กลุ่มคดีความมั่นคงเข้ามาก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองในครั้งนี้” พ.อ.เกียรติศักดิ์ กล่าว
สำหรับเหตุปล้นร้านทองในพื้นที่ความมั่นคง สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง ครั้งใหญ่ที่สุดคือเมื่อวันที่ 24 ส.ค.62 คนร้ายกว่า 10 คน ก่อเหตุปล้นร้านทอง “ห้างทองสุธาดา” กลางตลาดนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา กวาดทองไปมูลค่ามหาศาลร่วมร้อยล้านบาท ซึ่งหลังจากเกิดเหตุยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ ยกเว้นมีผู้ต้องหาคดีความมั่นคงเสียชีวิตจากการปะทะ และถูกระบุว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุปล้นร้านทองครั้งนี้