นายกฯเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ “ท่าอากาศยานนานาชาติเบตง” ออกเดินทางจาก "ดอนเมือง" ถึง “ใต้สุดแดนสยาม” สุดราบรื่น ลุยพบปะให้กำลังใจกลุ่มเปราะบางที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่
วันจันทร์ที่ 14 มี.ค.65 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะอาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ท่าอากาศยานนานาชาติเบตง จังหวัดยะลา พร้อมเยี่ยมชมท่าอากาศยาน และนิทรรศการ OTOP ของจังหวัด ก่อนมอบถุงกำลังใจให้แก่ประชาชนกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ประสบอุทกภัย และพบปะกลุ่มตัวแทนชาวยะลา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายมุ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชน จึงได้มีมติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้กระทรวงคมนาคม โดยกรมท่าอากาศยาน ดำเนินโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตง ตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค.58 เพื่อแก้ไขปัญหาการคมนาคมในพื้นที่ ซึ่งมีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชัน ยากลำบากต่อการเดินทางและขนส่ง
ที่สำคัญคือ ช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และสร้างความมั่นคงให้พื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เชื่อมต่อกับประเทศมาเลเซียทางด่านเบตง และเดินทางสู่พื้นที่ใกล้เคียงได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 28 ม.ค.65 ท่าอากาศยานเบตงได้รับใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะ จากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ซึ่งยืนยันว่ามีความพร้อมในการให้บริการได้ตามมาตรฐานสากล ปัจจุบันสายการบินนกแอร์ ได้ทำการบินในเส้นทาง กรุงเทพฯ-เบตง-กรุงเทพฯ ด้วยความถี่ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ในวันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์
นอกจากเส้นทางให้บริการภายในประเทศแล้ว กระทรวงคมนาคม โดยกรมท่าอากาศยาน พร้อมที่จะผลักดันให้ท่าอากาศยานเบตงมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค ในเส้นทางระหว่างประเทศไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ในอนาคต ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกได้อย่างแท้จริง
ท่าอากาศยานเบตง เป็นท่าอากาศยานแห่งที่ 29 ของกรมท่าอากาศยาน ตั้งอยู่ใน ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา บนเนื้อที่ 920 ไร่ ประกอบด้วย ทางขับ จำนวน 2 เส้น, ทางวิ่ง กว้าง 30 เมตร ยาว 1,800 เมตร, ลานจอดเครื่องบิน รองรับเครื่องบินขนาด 80 ที่นั่ง จำนวน 3 ลำ, อาคารที่พักผู้โดยสาร มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 7,000 ตารางเมตร สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 300 คนต่อชั่วโมง หรือ 800,000 คนต่อปี และลานจอดรถยนต์ จำนวน 140 คัน
ด้าน นายสรรเสริญ จิรรัตนโสภณ นักธุกิจในพื้นที่เบตง กล่าวว่า มั่นใจการเปิดเส้นทางบินกรุงเทพฯ - เบตง จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยเฉพาะในด้านการท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยม เช่น สกายวอล์คเบตง แหล่งท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ และที่สำคัญสอดรับมาตรการเปิดประเทศของมาเลเซียในเดือน เม.ย.นี้ด้วย ซึ่งจะช่วยเอื้อให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวในอนาคตที่มีโอกาสที่จะก้าวไปสู่การพัฒนาให้ อ.เบตง เป็นแลนด์มาร์คการเชื่อมโยงเส้นทางการบินในจังหวัดภาคใต้ชายแดน
เนื่องจากศักยภาพของเบตงมีความน่าสนใจที่เป็นจุดขายได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นด้านการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่เหมาะกับการพักผ่อนในรูปแบบครอบครัว ตลอดจนการช้อปปิ้ง ซึ่งในอดีตเบตงเป็นเสมือนจุดนัดพบของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางผ่านด่านทางบก โดยเฉพาะชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซียเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดังนั้นในอนาคตหากมีเส้นทางบินที่สามารถอำนวยความสะดวกมากขึ้น ก็จะเป็นความหวังที่ผู้ประกอบการภาคเอกชนในพื้นที่มั่นใจว่าการเชื่อมโยงการบินระหว่างประเทศได้จะสนับสนุนให้เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเติบโตได้อีก
สำหรับ อ.เบตง เป็นอำเภอหนึ่งของ จ.ยะลา อยู่ใต้สุดของประเทศไทย ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน คล้ายคลึงกับภาคเหนือของไทย เป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรที่สำคัญ เช่น ไม้ดอกเมืองหนาว ส้มโชกุน ทุเรียน ลองกอง ไก่เบตง ผักน้ำ ปลานิลน้ำไหล ปลากือเลาะ หรือปลาพลวงสีชมพู เป็นต้น
สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เช่น สวนดอกไม้เมืองหนาว บ่อน้ำร้อนเบตง อุโมงค์ปิยมิตร อุโมงค์มงคลฤทธิ์ อเมซอนแห่งเอเซีย หรือป่าฮาลาบาลา
แหล่งท่องเที่ยวที่กำลังเป็นที่กล่าวขวัญของนักท่องเที่ยวทั่วประเทศขณะนี้คือ จุดชมวิวทะเลหมอก สกายวอล์ค อัยเยอร์เวง ซึ่งครั้งหนึ่งในชีวิตจะต้องพิชิตให้ได้สักครั้ง