ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย ประสาน “กาชาดยะลา” เข้าช่วยเหลือสถานสงเคราะห์เด็กชาย หลัง “อิศรา” นำเสนอข่าวขอรับบริจาคอาหาร และขนม เพราะมีไม่พอดูแลเด็กช่วงปิดเรียนโควิด
ความคืบหน้ากรณีศูนย์ข่าวภาคใต้ สำนักข่าวอิศรา นำเสนอเรื่องราวของสถานสงเคราะห์เด็กชายจังหวัดยะลา ที่ประกาศขอรับบริจาคข้าวสาร อาหารแห้ง ขนม และนม เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้น้องๆ เยาวชนที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ฯ ต้องเรียนออนไลน์ ไม่ได้ออกนอกสถานสงเคราะห์เหมือนช่วงปกติ จึงต้องจัดหาอาหารและขนมให้เด็กๆ เพิ่มขึ้นจนเกินงบที่ได้รับการจัดสรรจากรัฐบาลนั้น
หลังข่าวเผยแพร่ออกไป น.ส.วิชชุตา แก้วศิริ กรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดยะลา ได้เป็นตัวแทนเหล่ากาชาดจังหวัด เดินทางไปยังสถานสงเคราะห์เด็กชายฯ เพื่อมอบเครื่องมือและอุปกรณ์การป้องโรคโควิด-19 พร้อมน้ำดื่มให้กับ น.ส.ชมฤดี นาทะศิริ ผู้ปกครองสถานสงเคราะห์เด็กชายฯ
กิจกรรมในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก นายกฤษฎา บุญราช ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย สั่งการด่วนไปยังนายกเหล่ากาชาดจังหวัดยะลา และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา ดำเนินการตรวจสอบและพิจารณาให้ความช่วยเหลือหรือประสานงานกับสถานีกาชาดในพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
น.ส.วิชชุตา กล่าวว่า เหล่ากาชาดจังหวัดมีความห่วงใยต่อความเป็นอยู่ของเด็กและผู้ดูแลสถานสงเคราะห์เด็กชายฯ โดยเฉพาะช่วงที่มีการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอน เนื่องจากสามารถติดต่อกันได้ง่าย โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 ก.พ.65 ทางสำนักงานเหล่ากาชาดได้นำน้ำดื่มไปมอบให้แล้วจำนวนหนึ่ง
“วันนี้นายกเหล่ากาชาดจังหวัดยะลาได้มอบหมายให้นำเครื่องมือและอุปกรณ์การป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 1,158 ชิ้น ประกอบด้วย ชุด PPE 50 ชิ้น ชุดตรวจ ATK 200 ชิ้น แอลกฮอล์เจล 48 ขวด น้ำยาฆ่าเชื้อพื้นผิว 12 แกลลอน สบู่เหลวล้างมือ 3M 8 แกลลอน เสื้อกันฝน 20 ตัว หมวกคลุมผม 20 ชิ้น น้ำดื่ม 600 ขวด ถุงมือ 200 ชิ้น มามอบให้อีก”
ด้าน น.ส.ชมฤดี นาทะศิริ ผู้ปกครองสถานสงเคราะห์เด็กชายจังหวัดยะลา กล่าวว่า สิ่งของทั้งหมดนี้จะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์เพื่อการป้องกันโรคโควิด-19 ให้เด็กๆ ต่อไป
สำหรับสถานสงเคราะห์เด็กชายจังหวัดยะลา เป็นสถานที่ดูแลเด็กชายอายุระหว่าง 6-24 ปี ซึ่งเป็นเด็กที่ประสบปัญหาทางสังคมประเภทต่างๆ หลายรูปแบบ เช่น ผู้ปกครองเสียชีวิต ฐานะยากจน หรือไม่มีความปลอดภัยในครอบครัว ถูก ทำร้ายร่างกาย มีพื้นที่รับผิดชอบในเขต 14 จังหวัดภาคใต้ โดยขณะนี้มีเด็กอยู่ในอุปการะทั้งหมด 63 คน ทุกคนได้มีการดูแลเรื่องปัจจัย 4 และการส่งเสริมทักษะต่างๆ เรื่องการศึกษา และการเตรียมความพร้อมที่จะออกไปสู่สังคมหรือกลับไปสู่ครอบครัวในอนาคตต่อไป
