ฝนหนักน้ำทะลัก เตือน 12 อำเภอเสี่ยงกระจายทั้ง 3 จังหวัดริมแม่น้ำสายบุรี โก-ลก จะแนะแชมป์ปริมาณพระพิรุณพุ่ง 369 มิลลิเมตร นราธิวาสเดือดร้อนแล้วเกือบครึ่งหมื่นครอบครัว
ความคืบหน้าสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.นราธิวาส หลังจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันเป็นเวลากว่า 3 วันแล้วนั้น
ล่าสุดประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 3/2565 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำเอ่อล้นตลิ่งท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณแม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำโก-ลก เนื้อความระบุว่า ด้วยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้ติดตามสถานการณ์ฝนตกอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงมีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทยในวันที่ 25 ก.พ.65 ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ซึ่งกองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้ประกาศแจ้งเตือน ฉบับที่ 2/2565 เมื่อวันที่ 22 ก.พ.65 แล้วนั้น
@@ เตือน 12 อำเภอเสี่ยงน้ำทะลัก
กองอ่านวยการน้ำแห่งชาติได้ประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำจากฝน คาดการณ์ (ONE MAP) ของกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบว่าพื้นที่ จ.ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส มีปริมาณฝนตกหนักมากกว่า 150 มิลลิเมตร โดยเฉพาะบริเวณแม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำโก-ลก จ.นราธิวาส ทําให้มีปริมาณน้ำสะสมไหลลงแม่น้ำมากขึ้น จึงขอเน้นย้ำให้เฝ้าระวังระดับน้ำที่จะเพิ่มขึ้น เสี่ยงน้ำล้นสูงกว่าตลิ่งไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำใน อ.บันนังสตา อ.รามัน จ.ยะลา อ.สายบุรี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี และ อ.แว้ง อ.สุคิริน อ.ศรีสาคร อ.สุไหงปาดี อ.ตากใบ อ.รือเสาะ อ.จะแนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ในช่วงวันที่ 25-28 ก.พ.65
และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้
1.ปรับแผนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ พร้อมพิจารณาความเหมาะสมในการระบายน้ำในลำน้ำแม่น้ำให้สอดคล้องกับการขึ้น-ลงของระดับน้ำทะเล
2.ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงแนวคันบริเวณริมแม่น้ำ กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ และปิดท่อระบายน้ำทิ้งริมแม่น้ำ เพื่อป้องกันน้ำไหลย้อนเข้าท่วมพื้นที่ชุมชน รวมถึงการเตรียมความพร้อมรับน้ำหลากป้องกัน น้ำท่วมให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ รวมถึงความพร้อม ของระบบสื่อสารสำรอง เพื่อบูรณาการความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้ทันที
และ 4.ประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนล่วงหน้าให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์
@@ “จะแนะ” แชมป์ฝนหนัก - ครัวเรือนนราฯอ่วมครึ่งหมื่น
สำหรับปริมาณฝนเมื่อวันที่ 25 ก.พ.65 มากที่สุด 369.2 มม.ที่ อ.จะแนะ ขณะที่อำเภอต่างๆ อีก 11 อำเภอ สภาวะฝนตกหนักมาก 90.1 มม.ขึ้นไป ส่วน อ.ตากใบ ฝนตกหนัก 35.1 – 90.0 มม.
สรุปพื้นที่อุทกภัยและวาตภัยใน จ.นราธิวาส ณ วันที่ 25 ก.พ.65
อ.สุไหงโก-ลก (เขตเทศบาล) เดือดร้อน 120 คน จำนวน 30 ครัวเรือน
อ.แว้ง รวม 6 ตำบล 23 หมู่บ้าน เดือดร้อน 3,803 คน จำนวน 1,006 ครัวเรือน
อ.สุไหงปาดี รวม 7 ตำบล 20 หมู่บ้าน 8 ชุมชน เดือดร้อน 5,457 คน จำนวน 1,846 ครัวเรือน
อ.ศรีสาคร 5 ตำบล 10 หมู่บ้าน เดือดร้อน 1,590 คน จำนวน 318 ครัวเรือน
อ.เมือง 2 ตำบล 6 หมู่บ้าน เดือดร้อน 225 คน จำนวน 74 ครัวเรือน
อ.รือเสาะ รวม 7 ตำบล 20 หมู่บ้าน เดือดร้อน 1,940 คน จำนวน 659 ครัวเรือน
อ.ตากใบ 5 ตำบล 14 หมู่บ้าน จำนวน 11 ครัวเรือน
อ.บาเจาะ 5 ตำบล 12 หมู่บ้าน รวม 879 คน จำนวน 293 ครัวเรือน
อ.ยี่งอ 6 ตำบล 23 หมู่บ้าน รวม 1,168 คน จำนวน 292 ครัวเรือน
อ.สุคิริน 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน รวม 107 คน จำนวน 35 ครัวเรือน
สรุปรวมทั้ง 10 อำเภอ 44 ตำบล 129 หมู่บ้าน 8 ชุมชน เดือดร้อน 15,289 คน จำนวน 4,529 ครัวเรือน
@@ ยิงผู้ใหญ่บ้านดับกลางฝนที่รือเสาะ
วันเสาร์ที่ 26 ก.พ.65 เวลา 09.30 น.เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายอุซมาน โสภาพันธ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 บ้านบาโงปะแต ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เสียชีวิต และยิง นายบักรี อีซอ รองนายก อบต.โคกสะตอ ได้รับบาดเจ็บ พลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลศรีสาคร จ.นราธิวาส
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง นำกำลังรุดไปตรวจสอบ และสอบสวนจนทราบว่า เหตุเกิดขณะผู้ตายกับผู้บาดเจ็บนั่งในรถยนต์สวนตัวของนายอุซมาน จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณสามแยกบ้านสวนพลู ในพื้นที่บ้านสวนพลู หมู่ 3 ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปชนวนเหตุสังหาร และยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง