“พระตีแม่” เปิดปากอ้างฝังใจถูกมารดาทำร้ายตอนเด็ก - ชาวบ้านล่าชื่อขับพ้นวัด

กลายเป็นประเด็นที่สาธุชนคนไทยทั่วประเทศให้ความสนใจ กรณี พระสุทัศน์ อดีตเจ้าอาวาสวัดโคกโก ต.ลำภู อ.เมืองนราธิวาส ก่อเหตุทำร้ายร่างกายมารดาบังเกิดเกล้าจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และทำร้ายร่างกายชาวบ้านที่เข้าห้ามปราม บาดเจ็บไปอีกราย โดยเหยื่อทั้งสองเป็นหญิงชราอายุมากกว่า 70 ปี เหตุเกิดกลางวันแสกๆ ภายในวัด เมื่อวันเสาร์ที่ 5 ก.พ.65 ที่ผ่านมา 

หลังเกิดเรื่องมีข่าวว่าเจ้าคณะปกครองสั่งปลดจากตำแหน่งเจ้าอาวาส และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนราธิวาส แนะนำให้สึกจากสมณเพศ เนื่องจากมีมติของคณะสงฆ์ในจังหวัดขอให้สึก แต่เจ้าตัวยังไม่ยอมสึก และยังห่มจีวรเป็นพระอยู่จนถึงปัจจุบัน ทั้งๆ ที่ต้องเดินทางไปให้ปากคำกับตำรวจในคดีทำร้ายร่างกายผู้ให้กำเนิด

ล่าสุดวันอังคาร 8 ก.พ. พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนราธิวาส ได้นิมนต์พระสุทัศน์ หรือ นายสุทัศน์ นิลสุวรรณ อดีตเจ้าอาวาสวัดโคกโก เข้าสอบปากคำ และสอบถามสาเหตุที่ทำร้ายมารดา

@@ อ้างฝังใจถูกแม่ทำร้ายก่อนตอนเด็ก

ภายหลังเข้าให้ปากคำ พระสุทัศน์ บอกกับผู้สื่อข่าวที่ไปดักรอทำข่าวว่า เหตุการณ์ที่ได้กระทำลงไปนั้น เกิดจากแรงกดดันและความฝังใจในวัยเด็กที่แม่มีอารมณ์โกรธ และชอบทำร้ายด้วยวิธีการต่างๆ เคยทุบท้ายทอยจนสมองผิดปกติ หลังจากนั้นก็จะทำสีหน้าเหมือนเยาะเย้ย นอกจากนั้นแม่ยังชอบนำมีดมาใกล้ๆ และตนเองก็ตกใจ ผวาจับมีด เมื่อจับมีดแล้วก็โดนมีดบาด ถ้าเป็นแม่ทั่วไปก็ต้องมาโอ๋หรือปลอบโยนลูก แต่สำหรับแม่ของตนไม่ได้ทำอย่างนั้น และแม่ยังชอบหยิก ชอบดึงหูเป็นประจำ ทำให้ตนร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดตลอดเวลา และฝังใจมาตั้งแต่เด็ก

อย่างไรก็ดี ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลจากฝ่ายของพระสุทัศน์เพียงด้านเดียวเท่านั้น ซึ่งหากไปฟังมารดาของพระ รวมถึงชาวบ้านที่รู้จักและอยู่ในเหตุการณ์ ก็จะเล่าไปอีกมุมหนึ่ง

@@ ชาวบ้านเล่าพฤติกรรมละเอียดยิบ - ล่าชื่อขับพ้นวัด

อย่างชาวบ้านในพื้นที่รายหนึ่ง ได้บอกเล่าพฤติกรรมของพระสุทัศน์ว่า เป็นคนเงียบขรึม ไม่ค่อยพูดจากับใคร เวลาเช้าก็จะขึ้นศาลาไปฉันข้าว ฉันเสร็จก็ลงไป แล้วจะเข้ากุฏิ ออกจากกุฏิอีกทีก็ช่วงบ่าย

ส่วนที่พระสุทัศน์บอกว่าเป็นคนชอบพัฒนาวัดนั้น หากไปดูที่วัดจริงๆ ก็จะเห็นว่าชาวบ้านต่างหากที่เป็นคนทำ ในส่วนของเงินที่ใช้ดูแลวัด ชาวบ้านก็เป็นคนหา ส่วนพระสุทัศน์มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับชาวบ้านบ่อยครั้งเรื่องเงินบ้าง และเรื่องอื่นๆ บ้าง

“พระสุทัศน์ไม่สุงสิงกับใครเลย แม้กระทั่งผู้นำในพื้นที่เองพระสุทัศน์ก็ไม่เคยเข้าไปยุ่ง ซ้ำยังชอบขัดแย้งกับชาวบ้านมาโดยตลอด ส่วนตัวหมดความศรัทธานานแล้ว เพราะพระรูปนี้เคยตบตีแม่ของตัวเอง ถึงขั้นอาการสาหัส แต่แม่ไม่เอาเรื่อง สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่ใช่เหตุการณ์ครั้งแรกที่พระสุทัศน์ทำร้ายแม่”

มีรายงานว่า ชาวบ้านในพื้นที่ ต.ลำภู อ.เมืองนราธิวาส ได้มีการล่ารายชื่อเพื่อขับไล่อดีตเจ้าอาวาสรายนี้ออกจากวัด

@@ ข้อมูลอีกด้าน ศึกษาไสยศาสตร์จนเพี้ยน

ข้อมูลจากฝ่ายความมั่นคงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระบุ ว่า การปลดหรือถอดถอน พระสุทัศน์ ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโคกโก เป็นอำนาจของเจ้าคณะอำเภอ และเจ้าคณะผู้ปกครอง แต่มติคณะสงฆ์ของจังหวัดนราธิวาสให้สึกจากสมณเพศ เพราะกระทำความผิดอาญา แต่เจ้าตัวยังไม่ยอมสึก คาดว่า หากมีการดำเนินคดีและไม่ได้ประกันตัว หรือสุดท้ายศาลพิพากษาว่า กระทำผิดจริง ก็ต้องถูกจับสึก หรือถอดจีวรก่อนส่งตัวเข้าห้องขัง

สำหรับวัดโคกโก เป็นคนละวัดกับวัดรัตนานุภาพ หรือวัดโคกโก ที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ที่ถูกกลุ่มก่อความไม่บุกยิงจนเจ้าอาวาสและพระลูกวัดมรณภาพถึง 3 รูป เหตุเกิดเมื่อ 18 ม.ค.62 โดยวัดโคกโกที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองนราธิวาส

สาเหตุที่พระสุทัศน์ อารมณ์ฉุกเฉียวง่าย มีรายงานว่า เป็นเพราะก่อนหน้านี้พระสุทัศน์ไปทุ่มเทเรียนด้านไสยศาสตร์ อยู่ยงคงกระพัน จนเพี้ยนและน่าจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ จนทำร้ายมารดาและคนใกล้ชิด

@@ สำนักพุทธฯยอมรับยังไม่ถึงปาราชิก - เร่งหาทางออก

ด้านรักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ และกฎมหาเถรสมาคม แต่กรณีของพระสุทัศน์ยังไม่เข้าหลักเกณฑ์อาบัติปาราชิก (ขาดจากความเป็นพระโดยอัตโนมัติ) เพราะการที่จะอาบัติปาราชิกนั้น ต้องกระทำผิดอย่างร้ายแรง 4 กรณี ซึ่งเหตุทำร้ายร่างกาย ยังไม่เข้าหลักเกณฑ์ แต่ก็มีความผิดทางอาญา

ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดฯ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังศึกษาแนวทางที่จะดำเนินการได้ และได้มีการวางแผนไว้แล้ว แต่ขอไม่เปิดเผยรายละเอียด โดยจะยึดมติของคณะสงฆ์เป็นหลัก

@@ รู้จัก “อาบัติ ปาราชิก 4”

อนึ่ง ปาราชิก คือ อาบัติที่หนักที่สุดในพระธรรมวินัย เรียกว่า “ครุกาบัติ” เมื่อภิกษุล่วงละเมิดแม้เพียงข้อใดข้อหนึ่ง ต้องขาดจากความเป็นภิกษุทันที บวชเป็นภิกษุอีกไม่ได้

อาบัติปาราชิก มี 4 ข้อ คือ 1.เสพเมถุน 2.ลักทรัพย์ 3.ฆ่ามนุษย์ และ 4.อวดอุตริมนุสธรรม

ปาราชิก 4 ยังมีคำอธิบายในรายละเอียดด้วย เพื่อความชัดเจนของพฤติการณ์ โดยข้อมูลจากวิกิพีเดีย รวบรวมเอาไว้

1.เสพเมถุน แม้กับสัตว์เดรัจฉาน (ร่วมสัมพันธ์ทางเพศกับมนุษย์ หรืออมนุษย์ หรือสัตว์ แม้แต่ซากศพก็ไม่ละเว้น)

2.ถือเอาทรัพย์ที่เจ้าของไม่ได้ให้ มาเป็นของตน จากบ้านก็ดี จากป่าก็ดี (ขโมย) ได้ราคา 5 มาสก (5 มาสกเท่ากับ 1 บาท)

3.พรากกายมนุษย์จากชีวิต (ฆ่าคน) แสวงหาและใช้เครื่องมือกระทำเอง หรือจ้างวานฆ่าคน หรือพูดพรรณนาคุณแห่งความตายให้คนนั้นๆ ยินดีที่จะตาย (โดยมีเจตนาหวังให้ตาย) ไม่เว้นแม้แต่การแท้งเด็กในครรภ์

4.กล่าวอวดอุตริมนุสธรรม หรือโอ้อวดในสิ่งที่ไม่จริง