แม่ทัพภาค 4 ควงแขน ผบช.ภ.9 ลงพื้นเยี่ยมจุดตรวจรอบเมืองยะลา-ปัตตานี เน้นย้ำการปฏิบัติ “ปิดจุดอ่อน” ยกระดับความเข้มงวดเฝ้าระวัง สร้างความเชื่อมั่นประชาชน ด้านผู้การยะลาเผยออกหมายจับ 2 มือบึ้มป่วนยะลาคืนส่งท้ายปีแล้ว ส่วนระเบิดป่วนยะลา 16 จุด อยู่ระหว่างการสืบสวน คดีคืบหน้าพอสมควร
คืนวันจันทร์ที่ 31 ม.ค.65 ที่ผ่านมา พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ร่วมกับนายอำเภอเมืองยะลา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา และผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ ด่านตรวจ ตลอดจนประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา หลังเกิดเหตุระเบิดป่วนเมืองเกือบ 20 จุดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
พล.ท.เกรียงไกร กล่าวว่า มาเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน ตลอดจนสอบถามปัญหาข้อขัดข้อง และรับฟังข้อเสนอแนะต่างๆ จากผู้ประกอบการและพี่น้องประชาชน พร้อมมอบนโยบายการเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานให้กับกำลังพล เพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลพื้นที่บริเวณเขตเทศบาลนครยะลา โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจทำให้ความรู้สึกมั่นใจในความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนลดลง จึงมีการบูรณาการกำลังพลที่มีอยู่ทุกภาคส่วนอย่างครอบคลุม รู้จักการปรับเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติในกลไกต่างๆ ให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ในขณะที่เศรษฐกิจกำลังก้าวเดินไปในทิศทางที่ดี หลังจากทรุดตัวลงในระยะหนึ่งจากสถานการณ์โควิด-19 สิ่งสำคัญหลังจากนี้อยากเน้นย้ำให้ผู้ปฏิบัติงานทุกภาคส่วนได้ถอดบทเรียนจากสิ่งที่เกิดขึ้น รู้จักการเฝ้าสังเกตสิ่งผิดปกติ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เดินสายให้ความรู้ประชาสัมพันธ์ถึงวิธีการสังเกตให้กับกำลังพลที่เฝ้าตรวจตามจุดต่างๆ พร้อมดึงพี่น้องประชาชนที่มีจิตอาสาในการเฝ้าระวังเหตุ หรือพี่น้องเครือข่ายตาสับปะรด ให้เข้ามามีส่วนร่วม
นอกเหนือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ก็จะมีเจ้าหน้าที่ทหารพราน ซึ่งจะเข้าไปประชาสัมพันธ์ให้กับพี่น้องประชาชนได้รับทราบ และร่วมกันในการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่มากยิ่งขึ้น
ด้าน พล.ต.ท.นันทเดช กล่าวว่า ได้เน้นย้ำการปฏิบัติงานของกำลังพลให้มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ทั้งจุดตรวจ ด่านตรวจ บริเวณด่านชั้นนอก ด่านชั้นใน ปิดช่องว่าง ปิดจุดอ่อนของการปฏิบัติงานให้ได้ ยกระดับเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยเมืองเศรษฐกิจ การควบคุมพื้นที่เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน โดยให้กำลังพลเพิ่มความเข้มในการตรวจยานพาหนะ และบุคคลต้องสงสัย อีกทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ ต้องปฏิบัติงานด้วยความไม่ประมาท มีความตื่นตัวอยู่เสมอ พร้อมรับมือต่อสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างทันท่วงที
และล่าสุดในวันอังคารที่ 1 ก.พ. แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมคณะได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ ด่านตรวจ ประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ อ.เมือง จ.ปัตตานี พร้อมมอบนโยบายการปฏิบัติให้กับเจ้าหน้าที่และหน่วยกำลังเช่นเดียวกัน
@@ ออกหมายจับ 2 มือบึ้มเมืองยะลาคืนส่งท้ายปี
ด้านความคืบหน้าคดีคนร้ายลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าหลายจุดในเขต อ.เมืองยะลา ในคืนส่งท้ายปีเก่า 31 ธ.ค.64 จนทำให้ไฟดับทั้งเมืองในช่วงสั้นๆ สร้างความปั่นป่วนในช่วงเทศกาลปีใหม่นั้น
พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (ผบก.ภ.จว.ยะลา) กล่าวว่า ตอนนี้รู้ตัวคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว โดยศาลจังหวัดยะลาได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายอายุ ดอเลาะ อายุ 35 ปี และ นายนอร์ดิน หะยีอาชา อายุ 37 ปี ในข้อหาร่วมกันก่อการร้ายโดยใช้กำลังประทุษร้าย เป็นอั่งยี่ ซ่องโจร ร่วมกันสะสมกำลังพลหรืออาวุธเพื่อก่อการร้าย โดยพบว่าทั้งสองเคยมีประวัติก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ เชื่อว่าน่าจะหลบหนีและหลบซ่อนตัวอยู่ตามตะเข็บชายแดน
ส่วนความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดป่วนเมือง 16 จุด 21 ลูก ตั้งแต่ช่วงค่ำวันศุกร์ที่ 28 ม.ค. จนถึงวันอาทิตย์ที่ 30 ม.ค.65 นั้น ผู้การยะลา บอกว่า เบื้องต้นคดีมีความคืบหน้าไปพอสมควร แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่พบว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นมีความเชื่อมโยงกับเหตุลอบวางระเบิดไปป์บอมบ์จำนวน 2 ลูก บริเวณศาลาใกล้ทางขึ้นสถานีรถไฟยะลา ช่วงกลางดึกชองวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่ามาจากการปิดล้อมยิงปะทะใน อ.ระแงะ จ.นราธิวาส (บ้านบาโงระนะ ที่ภายหลังมีการวิสามัญฆาตกรรม 2 ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง) และการจับกุมและยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ผู้การยะลา บอกด้วยว่า ขอฝากเตือนไปยังผู้ที่กำลังให้การสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิด ทั้งการให้ที่พักพิง เก็บซ่อนอาวุธ หรือจัดหาเสบียง จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ