เศรษฐกิจชายแดนใต้เห็นแววฟื้น นักท่องเที่ยวแห่เข้าเบตงวันหยุดสุดสัปดาห์ศึกคักไปถึงตรุษจีน คาดเงินสะพัดกว่า 20 ล้าน ขณะที่เทศบาลปะแตชวนเที่ยวปลอดภัย เที่ยวได้ตลอดปี หลังไร้เหตุร้ายนานกว่า 12 ปี
บรรยากาศภายหลังการเปิดรับนักท่องเที่ยวของ อ.เบตง จ.ยะลา ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ปรากฏว่าในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ยาวจนไปถึงเทศกาลตรุษจีนที่จะมาถึงในช่วงปลายเดือน ม.ค. มีนักท่องเที่ยวเข้ามาและเตรียมเข้ามาท่องเที่ยวใน อ.เบตง อย่างต่อเนื่อง เป็นนักท่องเที่ยวในจังหวัดชายแดนภาคใต้และนักท่องเที่ยวจากภาคอื่นๆ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยังคงมีมาตรการตรวจคัดกรองผู้ที่เดินมาเข้าพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อความปลอดภัย ขณะที่การตรวจหาเชื้อทั่วประเทศ พบผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์โอมิครอนครบทั้ง 77 จังหวัด จำนวน 10,721 ราย แต่อัตราการติดเชื้อเพิ่มเริ่มชะลอตัว
นักท่องเที่ยวที่เดินทางเยือนเบตง โดยมากจะเดินทางโดยเครื่องบินไปลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ จ.สงขลา และเหมารถตู้ไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่สงขลา ปัตตานี ยะลา ก่อนเข้าไปที่ อ.เบตง
จากการประมาณการณ์ค่าใช้จ่ายรายหัวของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในพื้นที่ อยู่ที่ราวๆ 2,000-3,000 บาทต่อหัว จะทำให้มีเงินสะพัดประมาณ 20 ล้านบาท และสามารถกระจายรายได้ไปยังประชาชนทุกระดับใน อ.เบตง
นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง กล่าวว่า หลังจากเปิดเมืองเบตง ทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ไม่ต่ำกว่าวันละ 10,000 คน แต่เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในช่วงสถานการณ์โควิดที่ยังแพร่ระบาด จึงได้เสนอปรับปรุงมาตรฐานแนวทางการปฏิบัติในการเข้ามาของนักท่องเที่ยว เช่น นักท่องเที่ยวต้องรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ก่อนทุกคน หากนักท่องเที่ยวรายใดยังไม่เคยฉีดวัคซีน ก็จะขอความร่วมมือให้ฉีดก่อนเข้าสู่เทศบาลเมืองเบตง โดยจะมีการตั้งเต็นท์คอยให้บริการ ตั้งแต่ 08.30-16.30 น.ทุกวัน โดยนักท่องเที่ยวที่จะผ่านเข้าเมืองเบตงได้ ต้องผ่านการลงทะเบียนและได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม
สำหรับอัตราการฉีดวัคซีนในภาพรวมของเบตง มีผู้รับวัคซีนแล้ว 85% ถือเป็นอำเภอที่มีผู้ฉีดวัคซีนสูงสุดใน จ.ยะลา ด้วยนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขและจังหวัดยะลาที่ต้องการให้ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนครบ 100% เพื่อที่จะหยุดความรุนแรง และการตายจากไวรัสโควิด-19 ประกอบกับ อ.เบตง ได้เปิดเมืองเพื่อให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปได้ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะถึงนี้
@@ ชูแคมเปญ "ปะแตปลอดภัย" เที่ยวได้ตลอดปี
ช่วงนี้หลายพื้นที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้กำลังบูมการท่องเที่ยวกันอย่างคึกคัก
อย่างที่ ต.ปะแต ตำบลเล็กๆ แต่เงียบสงบใน อ.ยะหา จ.ยะลา นายกันต์พงษ์ ลิ่มกาญจนา อดีตประธานหอการค้าจังหวัดยะลา พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ ศรีสมบัติ นายกเทศมนตรีตำบลปะแต นางถนอมจิต แก้วเกื้อ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดยะลา ได้ลงพื้นที่สำรวจแผนการท่องเที่ยวครบวงจรในเขตเทศบาลตำบลปะแต เพื่อสร้างงานสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เที่ยวปะแตปลอดภัย เที่ยวได้ตลอดปี มีทั้งสนามฟุตบอลหญ้าเทียมในร่ม 7 คน 9 คน และ 11 คน มีสถานที่เดินป่า เยี่ยมชมชุมชนพหุวัฒนธรรม ไปดูเหมืองแร่ที่มีชาวอังกฤษมาทำเหมืองไว้ประมาณร้อยกว่าปีก่อน (เหมืองลาบู) ปัจจุบันยังคงหลงเหลือร่องรอย สถานที่ทำเหมืองมีอุโมงค์ มีเรือนรับรอง เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและศึกษาประวัติความเป็นมาพื้นที่สำคัญของ จ.ยะลา
นอกจากนั้นยังมีทะเลหมอกเขาแดงที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเรื่อยๆ มีสถานที่สำหรับล่องแก่ง นอนโฮมสเตย์ มีบ้านสวนทุเรียน มีลำธาร มีภูเขา เดินเข้าไปในถ้ำมีหินย่อย อยากให้พี่น้องประชาชนได้มาเที่ยว มาดูว่าบ้านเรามีของดีและปลอดภัย เที่ยวได้ทั้งปี
"เมื่อปี 2548 เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ต.ปะแต เยอะมาก และมีพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก ต่อมาได้มีการสร้างความเข้าใจ เน้นการพัฒนา เน้นการท่องเที่ยว จนทำให้ตั้งแต่ปี 2553 ตำบลปะแตไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นเลย จนถึงวันนี้ 12 ปีแล้วที่ปะแตไม่มีเหตุการณ์ความไม่สงบ รับรองว่ามาปะแตปลอดภัย มีที่ท่องเที่ยวเยอะแยะ" นายกเทศมนตรีตำบลปะแต กล่าว
ขณะที่ นายกันต์พงษ์ ลิ่มกาญจนา อดีตประธานหอการค้าจังหวัดยะลา กล่าวว่า ยะลามีของดีมากกว่าระเบิด มาที่นี่รับรองเที่ยวได้ตลอดปี การพัฒนาการท่องเที่ยวจากระดับชุมชนถือว่าเดินถูกทาง เพราะเศรษฐกิจรากหญ้าจะสร้างความมั่นคงให้เศรษฐกิจในมิติอื่นๆ ในทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน