ป.ป.ช.ปัตตานี ลงพื้นที่ตรวจสอบการติดตั้งเสาไฟในพื้นที่รกร้าง โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะปากแม่น้ำปัตตานี ใช้งบ 75 ล้านบาท พบสภาพพื้นที่ห่างไกลผู้คน กลายเป็นแหล่งมั่วสุม ทำให้ถูกลักลอบตัดสายไฟไปขาย แนะเทศบาลแจ้งความ ส่วน "ถนนถอดเสื้อ" ที่ปะแต ยะหา นายกเทศบาลเฮ! รอดตัว เหตุจากอุทกภัย ไม่ได้โกง แต่องค์กรตรวจสอบยังฟันธงขั้นสุดท้าย
จากกรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลและภาพถ่ายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เพจเฟซบุ๊ก “ต้องแฉ” เกี่ยวกับการติดตั้งเสาไฟฟ้า High-Mast หรือ เสาไฟถนนแบบสูง ในพื้นที่รกร้าง ท้องที่ อ.เมือง จ.ปัตตานี จนมีการแชร์ภาพและวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางนั้น
ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 21 ม.ค.65 ทาง ป.ป.ช.ปัตตานี นำโดย นายวราพงษ์ อินต๊ะโมงค์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดปัตตานี และเจ้าหน้าที่กลุ่มงานป้องกันการทุจริต ร่วมกับประธานและคณะกรรมการบริหารชมรม STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดปัตตานี, ผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลรูสะมิแล ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ
ข้อเท็จจริงเบื้องต้นพบว่า จุดที่ติดตั้งเสาไฟฟ้า เป็นของโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะปากแม่น้ำปัตตานี พร้อมงานปรับภูมิทัศน์ ในท้องที่หมู่ 6 บ้านสวนสมเด็จ ต.รูสะมิแล อ.เมืองปัตตานี ระยะทางยาว 500 เมตร ประกอบด้วย งานเขื่อน งานปรับภูมิทัศน์ และงานติดตั้งเสาไฟฟ้า High-Mast จำนวน 28 ต้น งบประมาณการก่อสร้างรวม 75 ล้านบาท ดำเนินโครงการโดยสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดปัตตานี มีบริษัท ภรณ์เพียร จำกัด เป็นผู้รับจ้าง เริ่มต้นสัญญาวันที่ 31 มี.ค.61 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 26 ก.ย.62
ภายหลังการก่อสร้างแล้วเสร็จได้ส่งมอบทรัพย์สินและสิ่งปลูกสร้างให้กับเทศบาลตำบลรูสะมิแล เมื่อวันที่ 20 พ.ค.63 ต่อมาสภาเทศบาลตำบลรูสะมิแล มีมติเห็นชอบรับโอนทรัพย์สินจากสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 31 พ.ค.64
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า บริเวณดังกล่าวถูกทิ้งร้าง ขาดการซ่อมบำรุง ริมทางเดินมีต้นไม้ปกคลุม อุปกรณ์ของเสาไฟฟ้า High-Mast มีสภาพชำรุด สายไฟฟ้าถูกลักลอบตัดไปขาย ทำให้ระบบไฟฟ้าใช้งานไม่ได้ เป็นแหล่งมั่วสุมของกลุ่มวัยรุ่น จึงแนะนำให้เทศบาลตำบลรูสะมิแลสำรวจความเสียหายและดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับบุคคลที่ทำให้ทรัพย์สินของทางราชการได้รับความเสียหาย พร้อมทั้งเสนอแนะให้ปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณดังกล่าวให้ประชาชนสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์เป็นที่ออกกำลังกายได้อย่างปลอดภัย รวมถึงอาจพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้
โอกาสนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดปัตตานี ได้ขอทราบข้อมูลเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวจากเทศบาลตำบลรูสะมิแล เพื่อนำไปตรวจสอบในรายละเอียดต่อไป
@@ นายกปะแต แจง “ถนนถอดเสื้อ” เป็นเรื่องอุทกภัย ไร้ทุจริต
อีกด้านหนึ่ง มีความคืบหน้ากรณีมีข่าวและภาพถนนชำรุดหลังน้ำท่วมในพื้นที่บ้านทำนบ หมู่ 3 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา ทำให้ถนนหลุดออกเป็นแผ่นๆ ระยะทางยาวกว่าสิบเมตร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.64 ซึ่งมีการเผยแพร่ทั้งทางโซเชียลมีเดีย และสื่อมวลชนทั่วไป รวมทั้งศูนย์ข่าวภาคใต้ สำนักข่าวอิศรา ได้ส่งทีมข่าวลงพื้นที่ และพบว่า ถนนสายนี้ก่อสร้างโดยใช้งบประมาณ 2,477,000 บาทนั้น
ล่าสุดสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดยะลา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว และได้ข้อสรุปว่าสาเหตุที่ยางมะตอยพื้นถนนหลุดลอก เป็นเพราะอุทกภัย ไม่มีการคอร์รัปชั่นแต่อย่างใด
นายสมศักดิ์ ศรีสมบัติ นายกเทศมนตรีตำบลปะแต อ.ยะหา กล่าวว่า ถนนที่เกิดเหตุเป็นสายบ้านทำนบ-บ้านลาตอ ทางชาวบ้านและผู้นำศาสนาขอผ่านสภาสันติสุขตำบลให้เทศบาลซ่อมแซม เพราะเดิมเป็นคอนกรีตที่เป็นหลุมเป็นบ่อ มีเหล็กโผล่ เวลารถจักรยานยนต์ผ่านไปมา เหล็กก็แทงล้อรถของชาวบ้าน ก็เลยหางบของเทศบาลมาเสริมผิวถนนให้
“เราได้ทำเสร็จได้เพียง 2 เดือน ก็เกิดน้ำป่าหลากมา ซึ่งตำบลปะแตเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะเป็นพื้นที่รับน้ำป่าเหมืองลาบู น้ำจากลาตอก็มาที่ปะแตก่อนที่จะผ่านไป ต.บาโร๊ะ ต.ละแอ ต.ยะหา โครงการนี้เป็นโครงการเสริมผิวถนน 5 เซนติเมตร คอนกรีตเดิมหนายังพัง แล้วถนน 5 เซนติเมตรจะอยู่ได้อย่างไร โชคดีพังแค่ 10 เมตรเอง แต่โซเชียลนำมาเผยแพร่ทำให้เทศบาลเสียหาย ทำให้เขาคิดไปเรื่องอื่น คิดทางไม่ดี จริงๆ แล้วเป็นเรื่องอุทกภัย ทาง ป.ป.ช.ก็ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบแล้ว ข้อสรุปเป็นเรื่องอุทกภัย”
นายสมศักดิ์ บอกด้วยว่า หลังเกิดปัญหา ทางเทศบาลก็ได้ทำหนังสือไปยังผู้รับเหมา คือ บริษัท อาร์เอส ชีวิลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ให้มาซ่อม ตอนนี้ก็อยู่ระหว่างประสานวันเวลาที่จะเข้ามาซ่อมให้โดยเร็วที่สุด ยืนยันว่าไม่มีอะไร เป็นเรื่องอุทกภัยจริงๆ
@@ ป.ป.ช.ยะลา รับลงพื้นที่แล้ว - ยังรอตรวจสอบรายละเอียด
ด้าน นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดยะลา กล่าวว่า ถนนที่ปะแตได้ลงพื้นที่ไปแล้ว ตอนนี้ให้เจ้าหน้าที่รายงานเข้ามาเกี่ยวกับรายละเอียดของโครงการ ซึ่งได้รายงานเบื้องต้นมาแล้ว แต่ได้ขอข้อมูลเพิ่มเติมอีก ได้ขอหลักฐาน เพื่อดูรายละเอียดของมาตรฐานการสร้างถนนว่าเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียด
“เบื้องต้นจากการดูสภาพ ไม่ใช่ว่าดูสภาพบนถนนอย่างเดียว ได้ดูสภาพของลำคลองและบริเวณรอบๆ ด้วย พบว่าเกิดจากน้ำป่าไหลหลากที่มาอย่างแรงและน้ำได้พัดพาผิวถนนไป เฉพาะตรงนั้นที่เดียวที่ อื่นไม่มี จากการตรวจสอบแล้วที่อื่นปกติหมด สำหรับถนนที่เสียหายมีความยาวประมาณ 20 เมตร ถือว่าเสียหายไม่มาก ก็ขอดูข้อมูลละเอียดอีกครั้ง คาดว่าใช้เวลาไม่นาน” ผอ.ป.ป.ช.ยะลา กล่าว