คนร้ายควบมอเตอร์ไซค์ตามประกบยิงอดีตสารวัตรกำนันที่หนองจิก ปัตตานี ขณะเดินทางไปกรีดยาง กระสุนพลาดถูกลูกชายวัย 18 ปีที่นั่งซ้อนท้ายได้รับบาดเจ็บ ด้านผบ.ทบ.ลงพื้นที่เยี่ยมกำลังพลชายแดนใต้ สั่งเพิ่มความเข้มระวังเหตุรุนแรง
เมื่อเวลา 06.00 น.วันอังคารที่ 11 ม.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองจิก ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ใช้อาวุธปืนยิงประชาชน เหตุเกิดบนถนนในพื้นที่บ้านเปี๊ยะ ม.1 ต.ดาโต๊ะ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เขตรอยต่อกับพื้นที่ ต.ม่วงเตี้ย อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแม่ลาน ทราบชื่อนายอิสมาแอ เจะสนิ อายุ 18 ปี กระสุนถูกที่บริเวณแก้มขวาได้รับบาดเจ็บ
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่นายอิสมาแอ เจะสนิ นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของนายดุลรอแม เจะสนิ บิดา ซึ่งเป็นอดีตสารวัตรกำนัน ต.ดาโต๊ะ อ.หนองจิก เพื่อเดินทางไปกรีดยาง ระหว่างทางได้มีคนร้ายขับรถจักรยานยนต์เข้ามาประกบแล้วใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงใส่นายดุลรอแม แต่กระสุนพลาดไปถูกนายอิสมาแอ หลังก่อเหตุคนร้ายจึงได้รีบขับรถหลบหนีไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบและเก็บพยานหลักฐานที่เกิดเหตุ เพื่อขยายผลสืบสวนไปยังคนร้ายที่ก่อเหตุ ส่วนประเด็นสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
@@ผบ.ทบ.เยี่ยมกำลังชายแดนใต้ สั่งเพิ่มความเข้มระวังเหตุรุนแรง
วันเดียวกันนี้ ที่ห้องประชุม 1 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบกและคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมติดตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เน้นย้ำข้อสั่งการที่สำคัญเพื่อการปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมี พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 , พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 , รศ.ดร.บดินทร์ รัศมีเทศ รองเลขาธิการ ศอ.บต. พร้อมหัวหน้าส่วนราชการและผู้บังคับหน่วยในพื้นร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียง ภายใต้มาตรการป้องกัน Covid – 19 อย่างเคร่งครัด
โดยรับฟังสรุปสถานการณ์และเหตุการณ์ที่สำคัญ จากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า รับฟังความคืบหน้าคดีที่สำคัญ จากกองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการปฏิบัติงานที่สำคัญในมิติด้านการพัฒนา จากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนหารือและประสานการปฏิบัติตามลำดับ
พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวขอขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้ประสานความร่วมมือกันในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา พร้อมขอชื่นชมและแสดงความเสียใจกับกำลังพลที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เน้นย้ำหน่วยในเรื่องการดูแลสิทธิของกำลังพลให้ดูแลอย่างครอบคลุม ชี้แจงเรื่องสิทธิต่างๆให้กำลังพลได้เข้าใจในการดำเนินการและยึดถือแนวทางการปฏิบัติเหมือนในปีที่ผ่านมา รวมทั้งให้ผู้บังคับหน่วยและส่วนที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลการปฏิบัติงานของกำลังพล เพิ่มความระมัดระวัง เพิ่มความเข้มในการการปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยง เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุรุนแรง ยังคงมีความพยายามที่จะก่อเหตุก่อกวนอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นหน่วยจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการป้องกันเฝ้าระวังอย่างดีที่สุด นำอุปกรณ์เครื่องมือพิเศษที่มีอยู่มาใช้ประโยชน์เพื่อความปลอดภัยของกำลังพล
นอกจากนี้ให้หน่วยได้ตรวจสอบพฤติกรรมและพิจารณาการปฏิบัติงานของกำลังพล ต้องไม่สร้างเงื่อนไขและยึดถือยุทธศาสตร์คนดี การมีส่วนร่วมและจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้หน่วยได้ตรวจสอบกำลังพลเจ้าหน้าที่ หากยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนให้ได้เร่งดำเนินการอย่างเร็วที่สุด และจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิคอน ที่เริ่มมีอัตราผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้ทุกหน่วยเข้มงวดและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด ทั้งเตรียมความพร้อมทั้งด้านกำลังพลและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้การสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
จากนั้นทาง ผบ.ทบ.และคณะเดินทางต่อไปยังท่าเรือด่านศุลกากรตากใบ เพื่อตรวจแนวชายแดนไทย – มาเลเซียตามลำน้ำโกลก พร้อมรับฟังบรรยายสรุปแผนการสกัดกั้นตามแนวชายแดน/การก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโกลก และการก่อสร่างรั้วความมั่นคงอิเล็กทรอนิกส์ , ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน ฐานปฏิบัติการบ้านดีดะ ต.ถ้ำทะลุ อ.บันนังสตา จ.ยะลา, ฐานปฏิบัติการบ้านดินเสมอ ต.คีรีเขต อ.ธารโต จ.ยะลา พร้อมกันนี้ได้พบปะมวลชนในพื้นที่ ก่อนเดินทางตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของชุดปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ ณ หลักเขตแดนที่ 45/83 (No Man Land) บ้านสวนส้ม ต.ธารน้ำทิพย์ อ.เบตง จ.ยะลา และเยี่ยมฐานปฏิบัติการกองร้อย ป้องกันชายแดนที่ 1 บ้านอัยเยอร์เบอร์จัง ต.ธารน้ำทิพย์ อ.เบตง จ.ยะลา