ผู้การตำรวจภูธรยะลา ยืนยันเหตุระเบิดป่วนคืนส่งท้ายปีเก่า เกิดเหตุแค่ 6 จุดในพื้นที่ 2 อำเภอ ส่วนแชร์โพสต์ข่าวระเบิดหลายจุด อ้างข้อมูลช่องเนชั่นทีวีตรวจสอบแล้วเป็นข่าวปลอม เชื่อฝีมือผู้ก่อเหตุรุนแรงกลุ่มเดิมๆ ต้องการแสดงศักยภาพ เร่งรวบรวมพยานหลักฐานและภาพจากกล้องวงจรปิดเตรียมออกหมายจับ
พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (ผบก.ภ.จว.ยะลา) กล่าวถึงเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในคืนส่งท้ายปีเก่า วันที่ 31 ธ.ค.64 ว่า มีคนร้ายลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าและเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ในพื้นที่ จ.ยะลา โดยเกิดเหตุแค่ 6 จุด ในพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อ.เมืองยะลา และ อ.บันนังสตา เท่านั้น ประกอบด้วย
1.ในพื้นที่ อ.เมืองยะลา เกิดเหตุ 2 จุด
- จุดแรกเกิดระเบิดเสาไฟฟ้าริมถนน ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 409 บริเวณหัวสะพานท่าสาปในพื้นที่ บ้านท่าสาป ม.1 ต.ท่าสาป อ.เมืองยะลา ทำให้เสาไฟฟ้าหักล้มจำนวน 2 ต้น
- จุดที่ 2 เกิดระเบิดเสาไฟฟ้า บริเวณโรงไฟฟ้าพงยือไร บ้านพงยือไร ม.1 ต.บันนังสาเร็ง อ.เมืองยะลา และพบวัตถุต้องสงสัยเป็นถังดับเพลิงสีแดง บริเวณเสาไฟฟ้า บ้านพงยือไร ม.1 ต.บันนังสาเร็ง อ.เมืองยะลา
2. ในพื้นที่ อ.บันนังสตา เกิดเหตุ 4 จุด
- จุดแรกเกิดระเบิดเสาไฟฟ้าริมถนน ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 ตรงข้ามโรงงานแปรรูปไม้ยางพาราในพื้นที่ บ้านป่าหวัง ม.1 ต.บันนังสตา
- จุดที่ 2 และจุดที่ 3 ระเบิดเสาไฟฟ้าและเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ บริเวณสามแยกในพื้นที่ บ้านบือซู ม.6 ต.บันนังสตา
- จุดที่ 4 ระเบิดเสาไฟฟ้าในพื้นที่บ้านกาสัง ม.3 ต.ตาเนาะปูเต๊าะ จำนวน 2 ลูก
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุทั้ง 6 จุด ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต มีเพียงเสาไฟฟ้าล้มและทำให้เกิดไฟฟ้าดับ แต่การแก้ไขปัญหาของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคก็สามารถเร่งแก้ไขและสามารถทำให้ไฟฟ้าติดได้อย่างรวดเร็ว ก็ทำให้ไม่เกิดผลกระทบใดๆ ต่อพี่น้องประชาชนในภาพรวม
ส่วนกรณีที่มีการแชร์ภาพข่าวโพสต์กันไปทั่วเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยระบุว่า เป็นข่าวของทางเนชั่นทีวี มีการรายงานเหตุเกิดขึ้นตรงนั้นตรงนี้เยอะแยะไปหมด ต่อมาได้มีการแคปหน้าจอและโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียนั้น ผู้การตำรวจภูธรยะลา กล่าวว่า จากการตรวจสอบกับทางเนชั่นทีวีและผู้สื่อข่าวเนชั่นในพื้นที่ ทุกคนต่างยืนยันว่า ไม่มีการปล่อยข่าวนั้นออกไป และประกาศชัดเจนไปแล้วว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็น Fake News ส่วนข้อมูลที่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาได้ชี้แจงเมื่อคืนที่ผ่านมานั้นคือ ข้อมูลที่เป็นจริง ก็ต้องขอขอบคุณทางเนชั่นทีวีที่แก้ข่าวตรงนี้ให้เรียบร้อย
เรื่องนี้ก็ทำให้เห็นว่า สถานการณ์ในช่วงนี้ในโลกโซเชียลมีเดียมีความพยายามปั่นสถานการณ์ให้ดูแรง ทั้งที่ในข้อเท็จจริงก็ไม่ได้แรง และระเบิดที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังดับเพลิง จุดชนวนด้วยการตั้งเวลา เป็นการวางแบบเร่งด่วน โดยการก่อเหตุในครั้งนี้ จะมีกลุ่มที่ผลิตระเบิด, กลุ่มที่นำมาวาง, กลุ่มที่มอนิเตอร์สถานการณ์ โดยจะมีแบ่งกลุ่มที่ชัดเจนในการปฏิบัติการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ทราบตัวกลุ่มที่ก่อเหตุแล้ว และจะต้องไล่ดูกล้องวงจรปิด ในแต่ละจุดในพื้นที่ เพื่อนำมาประกอบการรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนจะออกหมายจับและติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.ทินกร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ การข่าวในพื้นที่ ได้มีการแจ้งเตือนมาอย่างต่อเนื่อง ทางเจ้าหน้าที่เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พี่น้องประชาชนในพื้นที่ก็ร่วมแรงร่วมใจกันเฝ้าระวังและป้องกัน การตรวจตราในพื้นที่ก็พยายามทำกันอย่างเต็มที่ เมื่อคืนก็จะเห็นว่าหลังจากเกิดเหตุก็มีการควบคุมพื้นที่ทั้งรอบนอกและรอบใน ก็สามารถที่จะควบคุมพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ไม่มีเหตุเกิดซ้ำขึ้นอีก
ส่วนสาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมา ก็เชื่อว่าเป็นการแสดงออกของกลุ่มผู้ก่อเหตุเพื่อแสดงศักยภาพที่ยังมีอยู่ในพื้นที่ เพื่อให้เกิดการกระตุ้นการพูดคุยสันติสุขในช่วงเดือนนี้ และให้มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง
ส่วนกลุ่มที่ทำเป็นกลุ่มเดิมๆ ที่ปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ กลุ่ม BRN กลุ่มเดิมๆ ที่เคยมีอยู่ ซึ่งถ้าถามว่า ยังมีอยู่ในที่ไหมก็ต้องบอกว่า ยังมีอยู่ และจะต้องต่อสู้ทางความคิด ต่อสู้ทางยุทธวิธีกันต่อไป โดยฝ่ายความมั่นคงก็ไม่ได้ประมาท ก็จะสร้างความเข้มแข็งสร้างความร่วมมือกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้สังคมบ้านเราสามารถอยู่อย่างแบบพหุวัฒนธรรมได้ และเดินหน้าไปสู่สันติสุขอย่างแท้จริง