ยังคงเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับการหาตัวผู้รับผิดชอบกรณี “หมายจับเสี่ยโจ้” หายไปจากสารบบหมายจับ ทำให้ตำรวจสอบสวนกลางที่จับ “เสี่ยโจ้” ได้ ต้องปล่อยตัวไป
เหตุผลของการปล่อยตัวดูสับสนอลหม่าน เนื่องจากตำรวจสอบสวนกลางจับตามหมายจับคดีฟอกเงิน ซึ่งอัยการสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว (ตำรวจไม่รู้) อัยการจึงไม่มีอำนาจควบคุมตัว แต่หมายจับในคดีใช้ดวงตราประทับไม้ปลอม ซึ่งศาลพิพากษาถึงที่สุดแล้วให้จำคุก 1 ปี 9 เดือน กลับหาหมายจับไม่เจอ จนต้องปล่อยตัว “เสี่ยใจ” ไป และเจ้าตัวก็หนีหายลอยนวล
ความคืบหน้าก่อนหน้านี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมา โดยพุ่งเป้าสอบไปที่ พ.ต.ท.ชัชวาล อภิรมย์ชวาล รองผู้กำกับการ สภ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ด้วยเหตุที่ว่าเป็นคนที่ไปรับหมายจับมาจากศาล แต่ไม่นำหมายจับเข้าสารบบ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นความบกพร่อง และอาจเป็นความผิดทางวินัย
เมื่อวันจันทร์ที่ 29 พ.ย.64 พ.ต.ท.ชัชวาล ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าว ยืนยันเอาไว้แบบนี้
1.เป็นผู้ไปรับหมายจับมาจริง ในวันที่ “เสี่ยโจ้” หลบหนีไปจากศาล โดยผู้บังคับบัญชาสั่งการให้ไปสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้อง และทราบว่าศาลออกหมายจับ จึงรับหมายจับมา
2.เมื่อรับหมายจับมาแล้ว กลับมาที่โรงพัก ก็นำหมายจับส่งต่อให้ชุดปฏิบัติการไล่ล่า ซึ่งรอหมายจับกันอยู่ จึงจำไม่ได้ว่านำสำเนาหมายจับให้ใครไปบ้าง เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วนไม่มีการเซ็นรับ
3.หมายจับแรกนี้ ออกเมื่อวันที่ 9 ต.ค.57 และหมายนี้ถูกใช้ในการติดตามจับกุม “เสี่ยโจ้” โดยชุดปฏิบัติการไล่ล่า
4.ต่อมาเมื่อเดือน พ.ค.58 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก “เสี่ยโจ้” ศาลจึงออกหมายจับใหม่มาทับหมายเดิม หมายจับนี้ยังอยู่ที่กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี และตนสอบถามไปเพื่อรวบรวมหลักฐานชี้แจงผู้บังคับบัญชา ปรากฏว่าหมายจับนี้ก็ยังอยู่
พ.ต.ท.ชัชวาล ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ไม่ทราบว่าทำไมกองปราบ หรือตำรวจสอบสวนกลางที่จับกุม “เสี่ยโจ้” หาหมายจับนี้ไม่เจอ เพราะปัจจุบันตนก็ยังหาเจอ และหมายจับไม่ได้ไปไหน ยังวางอยู่ที่กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรปัตตานีตลอด
นี่คือคำชี้แจงของ พ.ต.ท.ชัชวาล ซึ่งได้ชี้แจงไปแล้ว แต่ก็ยังมีคำถามว่า เหตุใดหมายจับที่อ้างว่ายังอยู่ที่กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี จึงไม่มีในสารบบ เพราะตำรวจสอบสวนกลางก็ยืนยันว่า ในสารบบหมายจับพบหมายเดียว คือหมายจับคดีฟอกเงิน ซึ่งใช้จับ “เสี่ยโจ้“ แต่อัยการสั่งไม่ฟ้องคดีไปแล้ว จึงต้องปล่อยตัว “เสี่ยโจ้” ไป
@@ ย้ำชัดไม่มีหน้าที่นำหมายจับเข้าสารบบ
ล่าสุดทีมข่าวขอสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ พ.ต.ท.ชัชวาล อีกครั้ง เพื่อความกระจ่างในเรื่องนี้
โดย พ.ต.ท.ชัชวาล กล่าวว่า เรื่องการนำเข้าหมายจับสู่ระบบ และการชี้แจงครั้งก่อน คงเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนของผู้สื่อข่าว แล้วนำไปเผยแพร่ผิดประเด็น กลายเป็นการตั้งคำถามกับตำรวจสอบสวนกลางว่าเหตุใดจึงไม่พบหมายจับอื่นในสารบบ ยกเว้นหมายจับคดีฟอกเงินหมายเดียว
พ.ต.ท.ชัชวาล อธิบายว่า การไม่พบหมายจับในระบบ ไม่ใช่ความผิดของผู้สืบค้น แต่ผู้ที่ควรออกมาอธิบาย คือ คนที่มีหน้าที่นำหมายจับเข้าสู่ระบบ ซึ่งไม่ใช่ทั้งตน และไม่ใช่ตำรวจสอบสวนกลาง แต่เป็นใครนั้น ขอให้ไล่ตรวจสอบไปตามระเบียบและขั้นตอนที่มีการระบุชัดเจนอยู่แล้ว
ในกรณีนี้ ตนขออธิบายเฉพาะการออกหมายจับโดยศาล ที่มาจากคำพิพากษาของศาล โดยไม่ปรากฏผู้ต้องหามารับฟังผลการพิจารณาคดี (เป็นหมายจับที่ออกโดยศาลเอง ตำรวจไม่ได้ขอ) ซึ่งตามระเบียบ เมื่อศาลออกหมายจับมาแล้ว ต้องมอบให้หัวหน้าตำรวจ หรือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แล้วจึงส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง เพื่อเป็นการประกาศสืบจับ
ในกรณีของศาลจังหวัดปัตตานี จึงมีการส่งมอบให้กับหัวหน้าตำรวจปัตตานี ซึ่งก็คือผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี และตนขอยืนยันคำเดิมว่า เอกสารหมายจับยังอยู่ที่กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี
อนึ่ง คำอธิบายของ พ.ต.ท.ชัชวาล กลายเป็นคำถามพุ่งไปที่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ว่าเหตุใดจึงไม่สั่งการให้นำหมายจับเข้าสู่สารบบ สอดคล้องกับที่ พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร อดีตรองจเรตำรวจ และเลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม หรือ สปยธ. บอกเอาไว้ว่า ถ้าตำรวจระดับผู้บังคับการ หรือผู้บัญชาการ ไม่ต้องรับผิดชอบ หรือไม่รู้ไม่เห็นเรื่องหมายจับ ก็ไม่รู้จะมีตำรวจชั้นนายพลไว้ทำไม
@@ ย้อนรอย 3 หมายจับเสี่ยโจ้...หาย-ไม่หาย?
พ.ต.ท.ชัชวาล ยังบอกด้วยว่า หมายจับ “เสี่ยโจ้” ในช่วงปี 57-58 มีการออกหมายจับ 3 ฉบับ
หมายจับฉบับแรก หลังเกิดเหตุ “เสี่ยโจ้ “ หลบหนี ขณะถูกควบคุมตัวในห้องควบคุมของศาลจังหวัดปัตตานี ระหว่างพิจารณาคดีปลอมดวงตราประทับไม้ฯ เมื่อวันที่ 9 ต.ค.57 ทำให้มีการออกหมายจับ ฉบับที่ 1 จากเหตุการณ์หลบหนี แล้วถูกนำไปใช้ในทันที เพราะเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า
หมายจับฉบับนี้ เป็นเหตุเฉพาะหน้าจากการหลบหนี ไม่ใช่เพราะผู้ต้องหาไม่ปรากฏตัวรับฟังคำพิจารณาคดี (เพราะเสี่ยโจ้ไปฟังคำพิพากษา แต่หนีระหว่างรอประกัน) ตนจึงเป็นผู้นำหมายจับนี้เร่งส่งมอบให้ชุดไล่ล่าในทันที
หมายจับฉบับที่ 2 วันรุ่งขึ้น มีการออกหมายจับ “เสี่ยโจ้” หลังเจ้าหน้าที่ศาลเดินทางมาแจ้งความจากเหตุการณ์หลบหนี
หมายจับฉบับที่ 3 วันที่ 26 พ.ค.58 หลังศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ในคดีปลอมดวงตราประทับไม้ฯ ซึ่งผู้ต้องหายังอยู่ระหว่างหลบหนี จึงมีการออกหมายจับ “เสี่ยโจ้” เป็นฉบับที่ 3 โดยศาลจังหวัดปัตตานี เป็นหมายจับที่มีความสำคัญ และควรถูกนำเข้าระบบตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
@@ สีกากีแฉเอง เทคนิคซุกหมายแลกผลประโยชน์
ประเด็นหมายจับ “เสี่ยโจ้” ได้รับความสนใจจากตำรวจจำนวนมาก โดยเฉพาะพนักงานสอบสวน และตำรวจน้ำดีทั้งหลาย มีการตั้งคำถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และส่งข้อความในไลน์กันอย่างกว้างขวาง เช่น นายตำรวจที่เคยเป็นหัวหน้าโรงพักในนครบาลหลายพื้นที่ แชร์ประสบการณ์ว่า “ผมเจอมาแล้วครับ ยังจับผู้ต้องหาไม่ได้ ตำรวจ สภ.หนึ่ง ส่งหนังสือถึง ทว. (หมายถึงกองทะเบียนประวัติอาชญากร) แจ้งถอนหมายจับ บอกว่าจับผู้ต้องหาได้แล้ว ขอถอนหมายจับ เรื่องแบบนี้มีมานานแล้วครับ”
ส่วนนายตำรวจอีกคนหนึ่ง เป็นหัวหน้าโรงพักในภาคใต้ แชร์ข้อมูลว่า “รับผลประโยชน์กันถ้วนหน้า ถึงเงียบเป็นเป่าสาก กินอยู่กับปาก อยากอยู่กับท้อง แบบนี้เองปฏิรูปตำรวจจึงไม่เกิดเสียที”