ตรวจเชิงรุกในแคมป์ก่อสร้างกลางเมืองยะลา พบแรงงานติดโควิด 103 ราย สั่งกักตัวในที่พัก พร้อมตรวจประเมินอาการ ขณะที่กองช่างเทศบาลเมืองเบตงตรวจ ATK บุคลากร เจอเชื้ออีก 1 ราย อีกด้านเปิดบริการสกายวอล์คอัยเยอร์เวงวันแรก นักท่องเที่ยวแห่ชมทะเลหมอก ตัวเลขผู้ป่วยใหม่รวม 4 จังหวัด ลดฮวบเหลือ 552 ราย ดับ 8 ศพ
วันพุธที่ 1 ธ.ค.64 ภาพรวมของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.สงขลา มีแนวโน้มดีขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เริ่มลดลงทุกจังหวัดอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการป้องกันเฝ้าระวังที่เข้มงวด รวมถึงการเร่งฉีดวัคซีนในกับประชาชนเพื่อให้ได้จำนวนผู้รับวัคซีนเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด
จากข้อมูลจากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. พบว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมของสามจังหวัดชายแดนใต้ และ จ.สงขลา ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.- 1 ธ.ค.64 มีจำนวนผู้ติดเชื้อ (ไม่รวมผู้ต้องขังในเรือนจำ) อยู่ที่ 195,482 ราย
ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.สงขลา วันที่ 1 ธ.ค. มีตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่รวม 552 ราย และเสียชีวิต 8 ศพ แยกตามจังหวัดได้ดังนี้
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 270 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 62,648 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 62,625 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 5,281 ราย รักษาหายแล้ว 57,097 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตใหม่ 3 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 270 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 4,296 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 14,867 ราย, อ.เมืองสงขลา 8,254 ราย, อ.จะนะ 8,196 ราย, อ.สิงหนคร 5,177 ราย, อ.สะเดา 4,784 ราย, อ.เทพา 4,689 ราย, อ.รัตภูมิ 3,743 ราย, อ.สะบ้าย้อย 3,355 ราย, อ.นาทวี 1,707 ราย, อ.บางกล่ำ 1,652 ราย, อ.ระโนด 1,046 ราย, สทิงพระ 915 ราย, ควนเนียง 834 ราย, อ.นาหม่อม 649 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 403 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 89 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,389 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 876 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 138 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 45,934 ราย รักษาหายแล้ว 42,534 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 453 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 110 ราย, โรงพยาบาลสนามจังหวัด 61 ราย, โรงพยาบาลสนามอำเภอ 228 ราย, โรงพยาบาลชุมชน 332 ราย, โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร 2 ราย, โรงพยาบาลสนามค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย 24 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 46 ราย, สิโรรส-ปาร์ควิว ฮอสพิเทล 149 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส เรนโบว์ ฮอสพิเทล 124 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส-ดิอามาน รีสอร์ท 12 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์สะพานปูน - โรงยิมบานา 4 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์ เซาท์เทิร์น วิว 120 ราย และ Home Isolation 441 ราย
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ยืนยันสะสมแยกตามรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 11,584 ราย, อ.ไม้แก่น 1,116 ราย, อ.ยะหริ่ง 3,588 ราย, อ.หนองจิก 4,538 ราย, อ.โคกโพธิ์ 2,876 ราย, อ.สายบุรี 5,605 ราย, อ.แม่ลาน 716 ราย, อ.ยะรัง 4,412 ราย, อ.ปะนาเระ 1,715 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 2,092 ราย, อ.มายอ 4,535 ราย และ อ.กะพ้อ 1,770 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 57 ราย แยกเป็นพื้นที่ อ.เมือง 7 ราย, อ.ตากใบ 2 ราย,อ.จะแนะ 1 ราย, อ.แว้ง 15 ราย, อ.สุคิริน 1 ราย, อ.รือเสาะ 3 ราย, อ.บาเจาะ 4 ราย, อ.ระแงะ 8 ราย, อ.เจาะไอร้อง 2 ราย อ.สุไหงปาดี 3 รายและ อ.สุไหงโก-ลก 11 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 42,072 ราย รักษาหายสะสม 41,261 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 378 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 8,404 ราย, อ.ระแงะ 4,909 ราย, อ.รือเสาะ 2,259 ราย, อ.บาเจาะ 3,641 ราย, อ.จะแนะ 1,778 ราย, อ.ยี่งอ 3,025 ราย, อ.ตากใบ 3,185 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 3,624 ราย, อ.สุไหงปาดี 3,381 ราย, อ.ศรีสาคร 2,096 ราย, อ.แว้ง 2,325 ราย, อ.สุคิริน 1,198 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 2,246 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 87 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 47,121 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 1,589 ราย รักษาหายแล้ว 47,395 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 3 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 331 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 16,939 ราย, อ.เบตง 4,981 ราย, อ.รามัน 6,244 ราย, อ.ยะหา 5,541 ราย, อ.บันนังสตา 7,233 ราย, อ.ธารโต 2,378 ราย, อ.กาบัง 1,275 ราย และ อ.กรงปินัง 2,530 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 1,589 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลยะลา 110 ราย, โรงพยาบาลเบตง 60 ราย, โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) 6 แห่ง 167 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 133 ราย, โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 46 ราย, โรงพยาบาลสนามเบตง 60 ราย, โรงพยาบาลสนามรามัน 17 ราย, โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 8 ราย, โรงพยาบาลสนามยะหา 0 ราย, โรงพยาบาลสนามธารโต 0 ราย, โรงพยาบาลสนามกรงปินัง 0 ราย, โรงพยาบาลสนามกาบัง 0 ราย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศอ.12 ยะลา 31 ราย, Hospitel เบตง 9 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) 735 ราย , ผู้ป่วยแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) 213 ราย
@@ ตรวจแคมป์ก่อสร้างยะลา พบแรงงานติดโควิด 103 ราย!
ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดยะลา วันพุธที่ 1 ธ.ค.64 น.ส.พุทธชาด อินทรสวา แรงงานจังหวัดยะลา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด จัดหางานจังหวัด และสำนักงานประกันสังคมจังหวัด ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลสะเตงนอก และเจ้าหน้าที่ปกครอง เข้าตรวจสอบแคมป์คนงานก่อสร้างของ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บำรุงโยธากิจ ตั้งอยู่หมู่ 12 ต.สะเตงนอก อ.เมืองยะลา หลังได้รับรายงานว่ามีการตรวจพบแรงงานในแคมป์ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 57 ราย เมื่อวันที่ 26 พ.ย.64
โดยการลงพื้นที่ตรวจสอบได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการในการนำแรงงานก่อสร้างที่เป็นผู้เสี่ยงสัมผัสสูง เป็นแรงงานต่างด้าว สัญชาติเมียนมา จำนวน 117 ราย พร้อมด้วยหัวหน้างานและพนักงานอีกจำนวน 14 รายรวมเป็น 131 ราย เข้ารับการตรวจสวอบด้วยชุดตรวจ ATK ทั้งหมด พบเป็นผลบวกจำนวน 46 ราย ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจึงได้จัดชุดยาฟาวิพิราเวียร์ให้กับแรงงานที่ติดเชื้อได้รับประทานทันที
น.ส.พุทธชาด กล่าวว่า ได้เน้นย้ำและทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการ รวมถึงแรงงาน ให้เฝ้าระวังตนเองอยู่เสมอ และยังคงถือปฏิบัติมาตรการป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด ทั้งการสวมใส่หน้ากากอนามัย การล้างมือบ่อยๆ และการเว้นระยะห่างในการปฏิบัติงาน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีการติดเชื้อ และสิ่งสำคัญคือ กลุ่มแรงงานที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในครั้งนี้ ไม่แสดงอาการใดๆ แต่เมื่อตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจ ATK ก็พบว่ามีการติดเชื้อ โดยสาเหตุส่วนหนึ่งที่ผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการ น่าจะมาจากการรณรงค์ฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มแรงงานในพื้นที่ก่อนหน้านี้
@@ เทศบาลเมืองเบตงตรวจเชิงรุก จนท.-ชาวบ้าน พบโควิด 1 ราย
ที่เทศบาลเมืองเบตง นายสมศักดิ์ เหมรา ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองเบตง พร้อมด้วย นางนาตยา มรรคมนตรี หัวหน้างานกองช่างเทศบาล นำเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข ดำเนินการตรวจเชิงรุก ด้วยชุดตรวจ ATK ให้กับเจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาล และชาวบ้าน จำนวน 127 คน บริเวณศูนย์จักรกลเทศบาลเมืองเบตง พบผู้ติดเชื้อโควิด 1 ราย นำเข้าสู่ระบบการรักษา เพื่อลดความเสี่ยง และลดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในเขตเทศบาล
นางนาตยา กล่าวว่า แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น พบผู้ติดเชื้อน้อยลง แต่ก็ต้องขอให้ประชาชนไม่ประมาท การ์ดอย่าตก เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ไม่ไปในที่ชุมชนแออัด และปฏิบัติตามมาตรการเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดใหญ่ในพื้นที่จนกระทบกับเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวซ้ำอีก
@@ นักท่องเที่ยวแห่เยือนสกายวอล์คอัยเยอร์เวง
ที่ อ.เบตง เช่นกัน วันพุธที่ 1 ธ.ค.เป็นวันแรกของการทดลองเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวเข้าชมสกายวอค์ลทะเลหมอกอัยเยอร์เวง หลังจากปิดบริการมานานถึง 8 เดือน ปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางมาจากทุกสารทิศเพื่อมาสัมผัสประสบการณ์ทะเลหมอกจากสกายวอล์คที่สูงติดอันดับภูมิภาคอาเซียน โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยล.4 อบต.อัยเยอร์เวง อสม และอาสาสมัครช่วยนักท่องเที่ยว ร่วมตรวจคัดกรองโควิดอยางเคร่งครัดตามแผนรับมือทุกขั้นตอน
นายฟูอาดี แตปูซู หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยล.4 (บ่อน้ำร้อน-จันทรัตน์) กล่าวว่า วันแรกในการทดลองเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทะเลหมอกที่สกายวอล์ค มีมาตรการตรวจคัดกรองอย่างเข้มงวด ผู้ที่เดินทางเข้ามายังพื้นที่ต้องแสดงหลักฐานการลงทะเบียน สแกน QR Code (YALA SAFE ALERT) พร้อมหลักฐานการฉีดวัคซีน 2 เข็มต่อเจ้าหน้าที่ ก่อนจะเดินเข้าสู่สกายวอล์คได้ เมื่อเข้าไปถึงด้านใน จะมีเจ้าหน้าที่คัดกรองอีกครั้ง และปล่อยให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ชุดละ 50 คน แต่ละชุดห่างกัน 15 นาที ตามบัตรคิวที่แจกบริเวณจุดพักคอยก่อนเข้าในอาคาร ซึ่งจากการเปิดทดลองเข้าชมวันแรก ยังไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียม
ตลอดระยะเวลา 8 เดือนที่ผ่านมา ชาวบ้านและผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่ต่างได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้เศรษฐกิจซบเซา รายได้หาย กำไรหด แถมยังต้องต่อสู้กับโรคร้าย การกลับมาเปิดให้บริการสกายวอล์คทะเลหมอกอัยเยอร์เวง จึงกลายเป็นความหวังของคนพื้นที่ในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว สร้างอาชีพ และสร้างรายได้
น.ส.อินทิรา แก่นพรหมมา นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจาก จ.สตูล กล่าวว่า ตนมาพร้อมเพื่อนๆ ตัดสินใจมาเที่ยว อ.เบตง จ.ยะลา หลังทราบข่าวสกายวอล์คทะเลหมอกอัยเยอร์เวงทดลองเปิดให้บริการวันนี้เป็นวันแรก รู้สึกมั่นใจมาตรการคัดกรองนักท่องเที่ยวของทางเจ้าหน้าที่ เพราะดำเนินการได้เป็นอย่างดี
"ทะเลหมอกอัยเยอร์เวงขึ้นชื่อในเรื่องของการชมพระอาทิตย์ขึ้นรับแสงแรกของวัน ควบคู่ไปกับการชมทะเลหมอกอันงดงาม ซึ่งสามารถเห็นทะเลหมอกได้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ก็ยังมีวิวทิวทัศน์ของผืนป่าฮาลา-บาลา ทะเลสาบเขื่อนบางลาง สามารถมองไปไกลได้ถึงประเทศมาเลเซีย แม้ว่าอากาศในวันนี้หมอกจะหนาแน่นปกคลุมท้องฟ้าบดบังแสงอาทิตย์ก็ตาม แต่อากาศเย็นสบาย เหมาะกับการรับลมหนาวในช่วงปลายปีนี้เป็นอย่างมาก" นักท่องเที่ยวจากสตูล กล่าว