ผู้ว่าฯปัตตานีสั่งปิด 49 หมู่บ้านเสี่ยงใน 5 อำเภอ มีผู้ป่วยและผู้สัมผัสเสี่ยงกว่า 5,000 ราย ขณะที่โรงพยาบาลสนามเจอฝนหนักทำเตียงกระดาษเสียหาย ส่วนเบตงตรวจเข้มเดินทางเข้าเมือง ต้องฉีดวัคซีนแล้ว 1 เข็ม ด้านผู้ติดเชื้อใหม่ชายแดนใต้โผล่อีก 2,180 ราย เสียชีวิต 12 ศพ
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และ จ.สงขลา วันที่ 21 ต.ค.64 จากข้อมูลของทาง ศบค. พบว่า 4 จังหวัดชายแดนใต้ มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้ยังอยู่ใน 10 อันดับของจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดในประเทศ
โดย จ.ยะลา มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 653 ราย ยังคงอยู่ในอันดับ2 รองจากกรุงเทพฯ ตามมาด้วย จ.สงขลา มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 627 ราย ยังอยู่ในอันดับ 4 อีกวัน ส่วน จ.ปัตตานี มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 543 ราย จากอันดับ 3 ลงมาอันดับ 5 และ จ.นราธิวาส ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 374 ราย ยังอยู่ในอันดับ 6
ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จากในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.สงขลา มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 2,180 ราย และเสียชีวิตรวม 12 ราย แยกตามจังหวัดได้ดังนี้
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 663 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 36,839 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 7,971 ราย รักษาหายแล้ว 28,623 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 6 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 245 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 568 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 13,236 ราย, อ.กรงปินัง 2,315 ราย, อ.เบตง 3,134 ราย, อ.รามัน 4,970 ราย, อ.บันนังสตา 5,896 ราย, อ.กาบัง 984 ราย, อ.ธารโต 2,136 ราย และ อ.ยะหา 4,168 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 7,971 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลยะลา 196 ราย, โรงพยาบาลเบตง 162 ราย, โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) 6 แห่ง 550 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 165 ราย, โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 882 ราย, โรงพยาบาลสนามเบตง 146 ราย, โรงพยาบาลสนามรามัน 405 ราย, โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 314 ราย, โรงพยาบาลสนามยะหา 183 ราย, โรงพยาบาลสนามธารโต 81 ราย, โรงพยาบาลสนามกรงปินัง 222 ราย, โรงพยาบาลสนามกาบัง 54 ราย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศอ.12 ยะลา 35 ราย, Hospitel ( 2 แห่ง ) 138 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) 2,769 ราย , ผู้ป่วยแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) 962 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 696 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 627 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 42,134 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 42,111 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 5,523 ราย รักษาหายแล้ว 36,437 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 174 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 4,367 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 10,388 ราย, อ.เมืองสงขลา 5,806 ราย, อ.จะนะ 4,657 ราย, อ.สิงหนคร 4,164 ราย, อ.สะเดา 3,398 ราย, อ.เทพา 2,721 ราย, อ.สะบ้าย้อย 2,604 ราย, อ.รัตภูมิ 2,310 ราย, อ.นาทวี 978 ราย, อ.บางกล่ำ 900 ราย, อ.ระโนด 678 ราย, สทิงพระ 622 ราย, ควนเนียง 457 ราย, อ.นาหม่อม 438 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 286 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 55 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,144 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 505 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 515 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 32,542 ราย รักษาหายแล้ว 19,543 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 354 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 199 ราย, โรงพยาบาลสนามจังหวัด 437 ราย, โรงพยาบาลประจำอำเภอ 1,413 ราย, โรงพยาบาลชุมชน 625 ราย, โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร 1 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 48 ราย, สิโรรส-ปาร์ควิว ฮอสพิเทล 178 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส เรนโบว์ ฮอสพิเทล 128 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์สะพานปูน 12 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์โรงยิมบานา 19 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์ เซาท์เทิร์น วิว 219 ราย และ Home Isolation 1,117 ราย
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ระหว่างรักษารวม 7,077 ราย แยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 1,564 ราย, อ.ไม้แก่น 218 ราย, อ.ยะหริ่ง 687 ราย, อ.หนองจิก 662 ราย, อ.โคกโพธิ์ 412 ราย, อ.สายบุรี 822 ราย, อ.แม่ลาน 79 ราย, อ.ยะรัง 592 ราย, อ.ปะนาเระ 188 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 353 ราย, อ.มายอ 806 ราย และ อ.กะพ้อ 358 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 375 ราย แยกเป็นพื้นที่ อ.เมือง 4 ราย, อ.ตากใบ 1 ราย, อ.ยี่งอ 1 ราย, อ.จะแนะ 41 ราย, อ.รือเสาะ 125 ราย, อ.บาเจาะ 55 ราย, อ.ระแงะ 85 ราย, อ.ศรีสาคร 63 ราย, ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 33,902 ราย รักษาหายสะสม 29,842 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 5 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 360 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 6,842 ราย, อ.ระแงะ 3,905 ราย, อ.รือเสาะ 1,849 ราย, อ.บาเจาะ 2,648 ราย, อ.จะแนะ 1,351 ราย, อ.ยี่งอ 2,589 ราย, อ.ตากใบ 2,552 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 2,610 ราย, อ.สุไหงปาดี 2,934 ราย, อ.ศรีสาคร 1,875 ราย, อ.แว้ง 1,971 ราย, อ.สุคิริน 912 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 1,864 ราย
@@ปัตตานีสั่งปิด 49 หมู่บ้านเสี่ยงใน 5 อำเภอ
นายนิพนธ์ บุญหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้มีประกาศคำสั่งจังหวัดปัตตานี ที่ (พิเศษ) 87/2564 เรื่องการปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เนื่องจากจังหวัดปัตตานียังมีผู้ป่วยยืนยันสะสมเพิ่มสูงขึ้น และพบผู้ป่วยใหม่ทุกวัน จึงจำเป็นต้องปิดสถานที่เสี่ยงเพิ่มเติมในพื้นที่ อ.ไม้แก่น อ.ยะหริ่ง อ.มายอ อ.สายบุรี และ อ.เมือง จ.ปัตตานี เป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค.64 – 1 พ.ย.64 รวมทั้งหมด 22 ตำบล 49 ชุมชน มีผู้ติดเชื้อ 2,008 คน และ ผู้เสี่ยงสูง 3,391 คน ทำให้มีผู้ได้รับผลกระทบ 45,003 คน 9,855 ครัวเรือน ตามรายละเอียดดังนี้
อ.ไม้แก่น 2 ตำบล ได้แก่ ต.ไทรทอง 2 หมู่บ้าน , ต.ดอนทราย 2 หมู่บ้าน
อ.เมืองปัตตานี 1 ตำบล ได้แก่ ต.บาราเฮาะ 1 หมู่บ้าน
อ.ยะหริ่ง 1 ตำบล ได้แก่ ต.ปุลากง 1 หมู่บ้าน
อ.มายอ 10 ตำบล ได้แก่ ต.สะกำ 3 หมู่บ้าน, ต.ลางา 3 หมู่บ้าน, ต.กระเสาะ 1 หมู่บ้าน, ต.กะหวะ 1 หมู่บ้าน, ต.ตรัง 2 หมู่บ้าน, ต.มายอ 2 หมู่บ้าน, ต.ลุโบะยิไร 4 หมู่บ้าน, ต.สาคอใต้ 1 หมู่บ้านและ ต.สาคอบน 3 หมู่บ้าน
อ.สายบุรี 8 ตำบล ได้แก่ ต.กะดุนง 2 หมู่บ้าน, ต.ตะบิ้ง 4 หมู่บ้าน, ต.เตราะบอน 5 หมู่บ้าน, ต.บางเก่า 2 หมู่บ้าน, ต.บือเระ 2 หมู่บ้าน, ต.ปะเสยะวอ 4 หมู่บ้าน, ต.มะนังดาลำ 1 หมู่บ้าน, ต.ละหาร 2 หมู่บ้าน
@@ฝนถล่ม รพ.สนามปัตตานี ทำเตียงกระดาษเสียหาย
ที่โรงพยาบาลสนาม 7 ภายในสนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี ทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งเข้าเคลียร์พื้นที่ นำเตียงกระดาษพร้อมเบาะที่นอนจำนวน 30 ชุดออกมานอกเต็นท์เพื่อฉีดยาฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด เนื่องจากเตียงกระดาษที่ได้รับความเสียหายจากเหตุฝนตกหนักตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา จนทำให้มีน้ำฝนไหลเข้าไปภายในเต็นท์ทำให้เตียงกระดาษเกิดชำรุดเสียหาย จึงได้ทำการเก็บเตียงกระดาษออกมาเพื่อนำเตียงใหม่เข้าแทน
นายแพทย์อนุรักษ์ สารภาพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี ได้กล่าวว่า ในช่วงนั้นได้เกิดลมพายุกรรโชค และมีฝนตกหนักทำให้เต็นท์ล้มลงมา ทำให้ฝนถูกเตียงกระดาษจนได้รับความเสียหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการปรับปรุง และติดตั้งเต็นท์ขึ้นมาใหม่ พร้อมทั้งได้ทำการถมดินให้สูงขึ้นจากเดิม 10 เซนติเมตร และทำการเจาะรูระบายน้ำ เพื่อให้น้ำฝนไหลลงคูระบายน้ำได้เร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังได้ทำเรื่องในการขอเตียงกระดาษมาเพิ่มอีก 100 กว่าเตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีจำนวนมากในขณะนี้
@@เบตงตรวจเข้มเดินทางเข้าเมือง ต้องฉีดวัคซีนแล้ว 1 เข็ม
นายศิริ มงคลประจักษ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองเบตง พร้อมนายวงศ์วิทย์ อัครวโรทัย สาธารณสุขอำเภอเบตง ปลัดอำเภอเบตง ตำรวจจราจร สภ.เบตง ลงพื้นที่ป้อม ศอร. เตรียมความพร้อมในการตั้งจุดคัดกรองผู้ที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่ อ.เบตง หลังจากที่ทางอำเภอเบตงร่วมกับเทศบาลเมืองเบตง สาธารณสุขอำเภอเบตง และสถานีตำรวจภูธรเบตง ได้มีนโยบายร่วมกันในการตั้งจุดคัดกรองผู้ที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่ อ.เบตง โดยจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม และให้แสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งต้องมีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน , เอกสารรับรองในแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” หรือสติ๊กเกอร์สัญลักษณ์ยืนยันการได้รับวัคซีนติดไว้บริเวณหลังบัตรประจำตัวประชาชน โดยจะเริ่ม คัดกรองตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค.64 เป็นต้นไป ณ ป้อม ศอร. (ทางเข้าเมืองเบตง)
ทั้งนี้ ผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว ทางเจ้าหน้าที่จะทำการขอความร่วมมือให้ฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโควิด-19 ก่อนที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่ อ.เบตง ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการในการฉีดวัคซีน ณ ป้อม ศอร. (ทางเข้าเมืองเบตง)