สธ.ส่งวัคซีนให้ 4 จังหวัดชายแดนใต้ เตรียมลุยฉีดอาทิตย์หน้า หลังพบอัตราติดเชื้อต่อวันมากเป็น 20% ของการติดเชื้อทั้งประเทศ ด้านตัวเลขป่วยใหม่รวม 2,394 ราย ดับ 11 ศพ ขึ้นติดท็อป 5 ครบทุกจังหวัดเป็นรองแค่กรุงเทพฯ
วันอาทิตย์ที่ 10 ต.ค.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และจังหวัดสงขลา จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ทั้ง 4 จังหวัดติด 5 อันดับจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดในประเทศ รองจากกรุงเทพ
โดยข้อมูลจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ที่เผยแพร่ผ่านศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด ประจำวันที่ 10 ต.ค. พบว่า จ.ยะลา ยังมีผู้ติดเชื้อสูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศอีกวัน ด้วยตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 776 ราย ตามมาด้วย จ.สงขลา มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพิ่มขึ้นมาเป็น 563 ราย จากอันดับ 4 ขยับขึ้นมาอันดับ 3 ส่วน จ.ปัตตานี ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพิ่มขึ้นเป็น 514 ราย จากอันดับ 7 ขยับขึ้นมาอันดับ 4 และ จ.นราธิวาส ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพิ่มขึ้นเป็น 479 ราย จากอันดับ 6 ขยับขึ้นมาอันดับ 5
@@ป่วยติดเชื้อใหม่โผล่รวม 2,394 ราย ดับ 11 ศพ
ขณะที่รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จากในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.สงขลา วันที่ 10 ต.ค.64 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 2,394 ราย และเสียชีวิตรวม 11 ราย แยกตามจังหวัดได้ดังนี้
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 781 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 29,448 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 6,921 ราย รักษาหายแล้ว 22,316 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 4 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 211 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 546 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 10,306 ราย, อ.กรงปินัง 2,042 ราย, อ.เบตง 2,203 ราย, อ.รามัน 4,053 ราย, อ.บันนังสตา 4,918 ราย, อ.กาบัง 827 ราย, อ.ธารโต 1,843 ราย และ อ.ยะหา 3,256 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 6,921 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลยะลา 212 ราย, โรงพยาบาลเบตง 180 ราย, โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) 6 แห่ง 541 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 137 ราย, โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 872 ราย, โรงพยาบาลสนามเบตง 230 ราย, โรงพยาบาลสนามรามัน 424 ราย, โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 313 ราย, โรงพยาบาลสนามยะหา 99 ราย, โรงพยาบาลสนามธารโต 80 ราย, โรงพยาบาลสนามกรงปินัง 200 ราย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศอ.12 ยะลา 30 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) 1,237 ราย , ผู้ป่วยแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) 611 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 1,755 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 568 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 36,018 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 35,995 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 6,378 ราย รักษาหายแล้ว 29,480 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 160 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 1,518 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 9,302 ราย, อ.เมืองสงขลา 5,163 ราย, อ.สิงหนคร 3,938 ราย, อ.จะนะ 3,489 ราย, อ.สะเดา 2,935 ราย, อ.สะบ้าย้อย 2,226 ราย, อ.เทพา 1,990 ราย, อ.รัตภูมิ 1,791 ราย, อ.บางกล่ำ 739 ราย, อ.นาทวี 716 ราย, สทิงพระ 590 ราย, อ.ระโนด 581 ราย, อ.นาหม่อม 405 ราย, ควนเนียง 313 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 218 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 52 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,133 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 414 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 566 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 26,692 ราย รักษาหายแล้ว 16,706 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 327 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 182 ราย, โรงพยาบาลสนามจังหวัด 336 ราย, โรงพยาบาลประจำอำเภอ 1,482 ราย, โรงพยาบาลชุมชน 559 ราย, โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร 5 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 55 ราย, สิโรรส-ปาร์ควิว ฮอสพิเทล 180 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส เรนโบว์ ฮอสพิเทล 147 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์สะพานปูน 8 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์โรงยิมบานา 60 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์ เซาท์เทิร์น วิว 251 ราย และ Home Isolation 151 ราย
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ระหว่างรักษารวม 5,592 ราย แยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 1,264 ราย, อ.หนองจิก 398 ราย, อ.โคกโพธิ์ 220 ราย, อ.ยะหริ่ง 540 ราย, อ.สายบุรี 878 ราย, อ.ไม้แก่น 204 ราย, อ.แม่ลาน 66 ราย, อ.ยะรัง 355 ราย, อ.ปะนาเระ 149 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 369 ราย, อ.มายอ 640 ราย และ อ.กะพ้อ 308 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 479 ราย แยกเป็นพื้นที่ อ.เมือง 190 ราย, อ.ตากใบ 1 ราย, อ.ยี่งอ 50 ราย, อ.จะแนะ 4 ราย, อ.แว้ง 1 ราย, อ.รือเสาะ 2 ราย, อ.บาเจาะ 7 ราย, อ.ระแงะ 107 ราย, อ.ศรีสาคร 1 ราย, อ.เจาะไอร้อง 1 ราย, อ.สุไหงปาดี 115 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 28,966 ราย รักษาหายสะสม 24,899 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 5 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 319 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 6,004 ราย, อ.ระแงะ 3,078 ราย, อ.รือเสาะ 1,671 ราย, อ.บาเจาะ 2,179 ราย, อ.จะแนะ 1,174 ราย, อ.ยี่งอ 2,197 ราย, อ.ตากใบ 2,223 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 2,216 ราย, อ.สุไหงปาดี 2,491 ราย, อ.ศรีสาคร 1,550 ราย, อ.แว้ง 1,824 ราย, อ.สุคิริน 840 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 1,519 ราย
@@ส่งวัคซีนให้ 4จว.ใต้เพิ่ม-ลุยฉีดอาทิตย์หน้า
ที่กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรคแถลงสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด -19 ในประเทศไทย โดยเฉพาะ 4 จังหวัดพื้นที่ภาคใต้คือ สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ซึ่งตอนนี้ยังมีการระบาดของโรคมาก อัตราติดเชื้อต่อวันอยู่ที่ 20% หรือ 1 ใน 5 ของการติดเชื้อทั้งประเทศ ดังนั้น จึงจัดส่งวัคซีนลงไปเพิ่มเติมและจะระดมฉีดสัปดาห์หน้า ประกอบการเฝ้าระวังสอบสวนควบคุมโรคในจุดระบาดอย่างเข้มข้น กรณีเป็นผู้ติดเชื้อก็แยกออกมารักษา คนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงก็แยกกักตัว ตรวจหาเชื้อตามกำหนด
อย่างไรก็ตาม ถ้าดูตามอัตราฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรกลุ่มเสี่ยงใน 4 จังหวัดภาคใต้พบว่า ยังมีความครอบคลุมสูง โดยกรณีผู้สูงอายุใน จ.สงขลาได้รับเข็ม 1 แล้วคิดเป็น 65% ยะลา 56% นราธิวาส 50% และปัตตานี 48 % จึงน่าจะลดอัตราเสียชีวิตในกลุ่มผู้สูงอายุลงได้ ส่วนกลุ่มอื่นยังต้องเร่งทยอยฉีดกันต่อเนื่อง
ทั้งนี้ รายงานการฉีดวัคซีนใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สะสมตั้งแต่ 28 กุมภาพันธ์-7 ตุลาคมพบว่า จ.นราธิวาส มีประชากร 805,356 คน ฉีดเข็ม 1 จำนวน 272,990 คน คิดเป็น 33.9% เข็ม 2 จำนวน 187,924 คน คิดเป็น 23.3% เข็ม 3 จำนวน 7,563 คน คิดเป็น 0.9% จ.ปัตตานี มีประชากร 743,054 ราย ฉีดวัคซีนเข็ม 1 จำนวน 267,509 คน คิดเป็น 36% เข็ม 2 จำนวน 156,218 คน คิดเป็น 21 %เข็ม 3 จำนวน 9,961 คน คิดเป็น 1.3% จ.ยะลามีประชากร 547,992 คน ฉีดเข็ม 1 จำนวน 263,965 คน คิดเป็น 48.2% เข็ม 2 จำนวน 164,170 คน คิดเป็น 30 % เข็ม 3 จำนวน 6,041 คน คิดเป็น 1.1% และจ.สงขลา มีประชากร 1,487,320 คน ฉีดเข็ม 1 จำนวน 657,840 คน คิดเป็น 44.2% เข็ม 2 จำนวน 447,478 คน คิดเป็น 30.1% และเข็ม 3 จำนวน 22,011 คน คิดเป็น 1.5%
@@ประชาพิจารณ์ผ่านฉลุย เบตงเดินหน้าเปิดโรงแรมเป็น Hospitel
ที่ห้องประชุมโรงแรมการ์เด้นวิว เบตง อ.เบตง จ.ยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง พร้อมด้วย นายแพทย์สวรรค์ กาญจนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเบตง นายวงศ์วิทย์ อัครวโรทัย สาธารณสุขอำเภอเบตง ทันตแพทย์อับดุลกอเดร์ ยูโซะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิโรรสยะลา นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง ร่วมกับผู้นำชุมชน และชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองเบตง ได้ร่วมทำประชาพิจารณ์ ในกรณีการเปิดโรงแรมการ์เด้นวิว เบตง เป็น Hospitel เพื่อใช้ดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19
เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้มีชาวบ้านบางกลุ่มออกมาคัดค้าน โรงแรมดังกล่าวเป็นฮอสพิเทล (Hospitel) ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 พร้อมประกาศจะแขวนคอตรงหน้าหอนาฬิกา เพื่อต่อต้านไม่ให้มีการจัดตั้ง Hospitel ในพื้นที่เขตเมือง เพราะเกรงว่า จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดได้ ทำให้การจะเปิด Hospitel ต้องชะลอออกไป ทั้งที่ทุกสิ่งได้เตรียมการไว้หมดแล้ว
ซึ่งหลังจากที่นายอำเภอเบตง มาเป็นประธานในการประชุมประชาคมรับฟังความคิดเห็นประชาชน โดยใช้เวลาพูดคุยกันกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนที่จะจบการประชุมได้มีการให้ผู้เข้าร่วมประชุมยกมือออกเสียงสนับสนุนหรือคัดค้านการเปิดโรงแรมเป็น Hospitel ซึ่งผลออกมาทุกคนสนับสนุนให้เปิดโรงแรมเป็น Hospitel ทำให้คาดว่า การดำเนินการเปิดโรงแรมการ์เด้นวิว เบตง เป็น Hospitel เพื่อรองรับผู้ป่วยไวรัสโควิด19 ในพื้นที่ อ.เบตง จะเดินหน้าดำเนินการต่อจนแล้วเสร็จได้เร็วๆนี้
@@รพ.สนามยะหา ขอบริจาค เตียงขาดอีก 100 เตียง
ที่โรงพยาบาลโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา โดยนายธเนตธ์ กรอบเพชร กรรมการผู้จัดการบริษัท TJM.Sv/Actotire และเป็นประธานกลุ่ม TJM 4คูณ4 Thailand พร้อมด้วยกลุ่ม RDC และกลุ่ม T9 gym ร่วมมอบเตียงสนามพร้อมหมอน เบาะ ผ้าปู และผ้าห่ม จำนวน 44 ชุด พร้อมด้วยข้าวสารและน้ำดื่ม ให้ผู้กักตัวที่โรงพยายาบสนามยะหา โดยมีนายแพทย์ทินกร บินหะยีอารง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระยุพราชยะหา พร้อมด้วยนายมูฮำมัดอันวาร์ แดวอสนุง ส.อบจ.ยะลา เขต2 ยะหา และบุคลากร เจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับ
นายแพทย์ทินกร บินหะยีอารง ผอ.โรงพยาบาลพระยุพราชยะหา กล่าวว่า จากนโยบาย ศบค.ยะลา ต้องการให้เชื้อลดการระบาด ด้วยการตรวจด้วย ATK เพื่อความรวดเร็วในการแสดงผล จำเป็นที่จะต้องมีมาตรการรองรับ โรงพยาบาลสนาม และอุปกรณ์การแพทย์ต้องพร้อม เพื่อแยกคนติดเชื้อออกจากผู้ไม่มีเชื้อโดยเร็ว เพื่อตัดระบบการติดต่อของเชื้อระบาดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ๆ พร้อมนำมากักตัวเพื่อรักษาโดยเร็ว ทำให้ได้มีการเปิดโรงพยาบาลสนามขึ้นอีกแห่งใช้เตียงทั้งหมด 210 เตียง ซึ่งยังขาดเตียงอีก 100 เตียง โดยทางคณะTJM ได้มามอบ 40 เตียง ก็ยังขาดเหลืออีกไม่มาก หากท่านใดมีจิตศรัทธาจะบริจาคสามารถมาบริจาคได้ที่โรงพยาบาลพระยุพราชยะหา