ปฏิบัติการปิดล้อม ตรวจค้น และยิงปะทะในยุทธการ "ฮูแตยือลอ" ที่บ้านฮูแตยือลอ ต.บาเระใต้ อ.บาเจาะ จ.ปัตตานี ยังไม่จบภารกิจ โดยมีรายงานอย่างไม่เป็นทางการว่า มีกลุ่มติดอาวุธที่เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิตอย่างน้อยๆ 5-6 คน ขณะที่ฝ่ายทหารพลีชีพ 2 นาย
โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ยืนยันกับ "ทีมข่าวอิศรา" ว่า ผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าเสม็ด พื้นที่ที่ถูกปิดล้อม ล้วนแต่เป็นแนวร่วมคนสำคัญ และเป็นมือระเบิดที่ก่อเหตุมาแล้วมากมาย ทำให้มีความพยายามของกลุ่มป่วนใต้ สร้างสถานการณ์ในพื้นที่อื่นๆ ในช่วง 4-5 วันมานี้ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเจ้าหน้าที่ หวังเปิดทางหลบหนีจากพื้นที่ฮูแตยือลอ
พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยผ่านการไลฟ์สดทางเฟซบุ๊ก ถึงความคืบหน้าในการปิดล้อมป่าเสม็ดบ้านฮูแตยือลอ ซึ่งยืดเยื้อมาถึง 5-6 วันว่า ผู้ก่อเหตุรุนแรงได้เปิดฉากยิงใส่อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ) .เสียชีวิต 1 นาย ตั้งแต่การปิดล้อมวันแรก และเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (ตี 3 เศษของวันอาทิตย์ที่ 3 ต.ค.) ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิตจากการยิงต่อสู้กับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงอีก 1 นาย เป็นทหารยศร้อยโท
ต่อมาเมื่อช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ที่ 3 ต.ค. เจ้าหน้าที่ได้พยายามเจรจาให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงออกมามอบตัว โดยได้เชิญผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา มาช่วยเกลี้ยกล่อม แต่ไม่เป็นผล หลังจากผู้นำที่มาร่วมเจรจากลับไป ผู้ก่อเหตุรุนแรงมีความพยายามที่จะแหกวงล้อมของเจ้าหน้าที่ออกมา ด้วยการยิงเปิดทาง ทำให้เจ้าหน้าที่มีความจำเป็นต้องยิงตอบโต้เพื่อป้องกันตนเอง
จากการยิงตอบโต้กันในขั้นต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุรุนแรงน่าจะเสียชีวิตประมาณ 5-6 ราย แต่ยังไม่ทราบชื่อ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานกำลังเข้าพิสูจน์ทราบ และนำศพออกมาได้แล้ว 4 ราย ส่วนอีกศพอยู่ในป่ารกทึบ อาจจะมี 1-2 ศพ ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่ายังมีผู้ก่อเหตุรุนแรงเหลือเคลื่อนไหวอยู่ และมีความพยายามยิงใส่เจ้าหน้าที่ชุดปิดล้อม
ส่วนข่าวที่ออกไปทางโซเชียลมีเดียว่า มีการ "จับเป็น" ผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ 1 รายนั้น พ.อ.เกียรติศักดิ์ ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ข่าวทางโซเชียลฯบางส่วนเป็นข้อมูลบิดเบือน จึงขอให้ติดตามบข่าวสารที่ถูกต้องจาก ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เป็นหลักเท่านั้น
@@ เปิดชื่อ 5 ผู้ก่อเหตุรุนแรงถูกวิสามัญฯ
มีรายงานจากหน่วยงานความมั่นคงว่า เหตุการณ์ยิงปะทะ ทำให้เจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมกองกำลังติดอาวุธได้อย่างน้อย 5 ราย โดยรายชื่อที่ยังไม่ได้รับการยืนยันประกอบด้วย
1.นายซูเฟียน ยูโซ๊ะ มีหมายจับในคดีความมั่นคง 3 หมาย
2.นายบารูวัน กือจิ มีหมายจับในคดีความมั่นคง 2 หมาย
3.นายอัฏฮาร์ ยูกะ มีหมายจับในคดีความมั่นคง 1 หมาย
4.นายอัซซัน สามะ
5.นายอับดุลเลาะห์ อูแล
แหล่งข่าวจากฝายทหาร เผยว่า ผู้ที่เสียชีวิตจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่มีราวๆ 4-6 ราย ในจำนวนนี้มี นายมะรอมือลี กาแจกาซอ และนายบารูวัน กือจิ ซึ่งมีหมายจับในคดีความมั่นคงสำคัญๆ หลายคดี และเป็นมือขวาของ นายมะรอโซ จันทรวดี แกนนำผู้ก่อเหตุรุนแรงคนสำคัญของ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ที่เสียชีวิตจากการนำทีมบุกถล่มฐานปฏิบัติการบ้านยือลอ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 13 ก.พ.56 โดยในครั้งนั้นมีแนวร่วมก่อความไมสงบเสียชีวิตในคราวเดียวถึง 16 ราย
พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ถูกปิดล้อมในป่าเสม็ด บ้านฮูแตยือลอ น่าจะเป็นผู้ต้องหาคดีความมั่นคงคนสำคัญประมาณ10 กว่าคน ในจำนวนนี้มีมือระเบิดรวมอยู่ด้วยหลายคน
@@ รดน้ำศพ ร.ท.กฤษณะ พลีชีพในยุทธการฮูแตยือลอ
เวลา 14.00 น.วันเดียวกัน ที่ศาลาอเนกประสงค์วัดบางนรา อ.เมือง จ.นราธิวาส พล.ต.อุทิศ อนันตนานนท์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ และวางพวงหรีดเคารพศพ ร.ท.กฤษณะ เพ็ชรจำรัส อายุ 35 ปี ผู้ช่วยนายทหารฝ่ายยุทธการ กรมทหารพรานที่ 45 ที่เสียชีวิตเมื่อเวลา 03.45 น.ของวันอาทิตย์ที่ 3 ต.ค.64 จากเหตุปิดล้อมยิงปะทะกับกลุ่มก่อเหตุรุนแรง ในยุทธการ "ฮูแตยือลอ"
ร.ท.กฤษณะ นับเป็นทหารนายที่ 2 ที่พลีชีพจากยุทธการ "ฮูแตยือลอ" โดยกำลังพลรายแรกเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา คือ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) วัฏจักร พรหมนุ้ย อายุ 25 ปี สังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 เพิ่งทำพิธีส่งศพกลับภูมิลำเนาที่ จ.นครศรีธรรมราช อย่างสมเกียรติ
โอกาสนี้ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ได้มอบเหรียญบางระจัน และใบประกาศเชิดชูเกียรติในการประกอบคุณงามความดี และความเสียสละให้กับครอบครัวของ ร.ท.กฤษณะ เพื่อเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล พร้อมมอบเงินช่วยเหลือจากหน่วยงานและส่วนราชการต่างๆ เพื่อเป็นการปลอบขวัญ จากนั้นประธานในพิธีตลอดจนผู้เข้าร่วมพิธีได้ร่วมรดน้ำศพ ร.ท.กฤษณะ ก่อนจะเคลื่อนศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดควนแสวง ต.หนองธง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง
@@ ป่วนไม่เลิก! ยิงขบวนรถไฟที่รือเสาะ
สถานการณ์ในพื้นที่ยังมีเหตุรนแรงเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.วันเดียวกัน เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ขบวนรถไฟที่ 454 ซึ่งเดินรถออกจากต้นทางสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก มุ่งสู่ปลายทางสถานีรถไฟยะลา โดยจุดที่คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ขบวนรถไฟ เป็นช่วงที่รถไฟออกิเดินทางจากสถานีรือเสาะ ห่างประมาณ 2 กิโลเมตร กระสุนเจาะเข้าบริเวณหัวรถจักรได้รับความเสียหาย คนขับรถไฟจึงนำรถเข้าจอดที่สถานีรถไฟบาลอ อ.รามัน จ.ยะลา
ต่อมาเจัาหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบว่ารถไฟขบวนนี้มีด้วยกัน 5 โบกี้ ที่หัวรถจักรดีเชลหมายเลข 4145 มีร่องรอยถูกกระสุนปืนไม่ทราบชนิดและขนาด รวม 6 จุด โดยเฉพาะที่บริเวณท่อลม บี.พี. กระสุนเจาะจนรั่ว ทำให้หัวรถจักรไม่สามารถแล่นลากขบวนได้ นอกจากนี้กระสุนปืนของคนร้ายยังถูกตู้โดยสารซึ่งติดกับหัวรถจักรอีก 1 จุดด้วย
จากการสอบสวน นายพนาเวช จันทร์หิน พนักงานขับรถไฟ ทราบว่า ในขณะที่นำขบวนรถออกจากสถานีรถไฟรือเสาะ ประมาณ 2 กิโลเมตร เมื่อถึงหลักกิโลเมตรที่ 1065 ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนยิงใส่หัวรถจักร ตนจึงได้ก้มหมอบ พร้อมทั้งรีบทำเวลานำขบวนรถไปจอดที่สถานีรถไฟบาลอ อ.รามัน ซึ่งระหว่างการนำขบวนรถไฟไปจอดที่สถานีรถไฟบาลอนั้น เจ้าหน้าที่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ประจำขบวนรถไฟ ได้ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงเข้าไปยังป่าข้างทางที่รกทึบ ซึ่งคาดว่ากลุ่มคนร้ายแฝงตัวอยู่ ก่อนที่ตนจะควบคุมขบวนรถไฟที่มีอาการขัดข้องต่อระบบห้ามล้อไปจอดยังจุดหมาย โดยที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ พร้อมได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามระดับชั้น และแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อย จึงได้มีการประสานไปยังสถานีรถไฟยะลา เพื่อขอหัวรถจักรสำรอง มาลากขบวนรถไฟถึงจุดหมายปลายทาง
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเพื่อสร้างสถานการณ์ร้ายรายวัน รวมไปถึงเป็นการเบี่ยงเบนเจ้าหน้าที่เพื่อให้ถอยร่นหรือตัดกำลังออกจากยุทธการฮูแตยือลอ โดยในวันเดียวกันนี้ ช่วงเช้า คนร้ายได้วางระเบิดโจมตีทหารพรานในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้รับบาดเจ็บ 2 นายมาแล้ว