ศบค.ยะลา สั่งปิดอีกหมู่บ้านเสี่ยงในบันนังสตา ขณะเดียวกันก็ยกเลิก 1 หมู่บ้านเสี่ยงใน อ.รามัน ขณะที่อำเภอเมืองนราธิวาสตั้งเป้าฉีดวัคซีนโควิดประชาชนด้วยตัวเลขเท่ๆ 99,959 ราย นายกเล็กเบตงนำทีมเคาะประตูบ้านชวนประชาชนปักเข็มซิโนฟาร์ม เศร้าตัวเลขผู้ป่วยโควิดชายแดนใต้เสียชีวิตวันเดียว 20 ศพ
วันเสาร์ที่ 21 ส.ค.64 นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้มีคำสั่งศูนย์บริหารราชการสถานการณ์โควิด-19 จ.ยะลา ที่ 221/2564 เรื่อง การกำหนดพื้นที่เสี่ยงเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ฉบับที่ 39) เนื้อความระบุว่าเนื่องจากยังพบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมและผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ บ้านแอร้อง หมู่ 10 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจึงเห็นชอบกำหนดให้บ้านแอร้อง เป็นพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวัง และห้ามมิให้ผู้ใดเข้า-ออก เพื่อควบคุมและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค.64 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
นอกจากนี้ยังได้มีคำสั่งที่ 223/2564 เรื่อง ยกเลิกพื้นที่เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ฉบับที่ 16) โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ มีมติให้ยกเลิกพื้นที่เสี่ยง บ้านจะรังตาดง หมู่ 2 ต.ท่าธง อ.รามัน เนื่องจากไม่พบผู้ป่วยยืนยันและกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคเป็นระยะเวลาติดต่อกันมากกว่า 14 วัน
@@ อำเภอเมืองนราฯตั้งเป้าฉีดวัคซีน 99,959 ราย
ที่โรงเรียนเทศบาล 2 (บาเละฮีเล) ต.บางนาค ในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส มีประชาชนทยอยเดินทางมาฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง มีทั้งประชาชนทั่วไป ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป (กลุ่ม 608) ส่วนใหญ่เป็นวัคซีนเข็มแรก มีทั้งวัคซีนชิโนแวคและแอสตร้าเซนเนก้า โดยวันนี้เป็นวันที่ 4 ของการบริการฉีดวัคซีนเชิงรุกให้กับประชาชนในพื้นที่ อ.เมืองนราธิวาส
บรรยากาศโดยรวมมีประชาชนข้ารับบริการฉีดวัคซีนตลอดช่วงเช้า ประมาณกว่า 500 คน ถือว่าประชาชนตื่นตัวกันมากขึ้น ล่าสุดมีการรายงานการฉีดวัคซีนโควิด-19 เชิงรุกในพื้นที่ อ.เมืองนราธิวาส ตั้งแต่วันที่ 14-19 ส.ค. ในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กะลุวอ, อบต.บางปอ และโรงเรียนบ้านทำเนียบ ในกลุ่มอายุ 18-59 ปี มีจำนวน 732 คน และกลุ่ม 608 จำนวน 191 คน รวมทั้งสิ้น 923 คน
สำหรับแผนการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 เชิงรุกในพื้นที่ อ.เมืองนราธิวาส จะมีต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 31 ส.ค.นี้ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายจำนวน 99,959 ราย จากยอดเต็มประชากรเป้าหมายของ จ.นราธิวาส จำนวน 642,991 ราย
@@ นายกเล็กเบตงนำทีมเคาะประตูบ้านชวนฉีดซิโนฟาร์ม
ส่วนในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง นำคณะผู้บริหาร และสมาชิกสภาเทศบาล ลงพื้นที่เคาะประตูบ้านเชิญชวนพี่น้องชาวเบตงที่ยังไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนในพื้นที่ชุมชนตลาดสดเบตง ให้เข้ารับการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับเมืองเบตง เพื่อลดการเกิดโรค ลดความรุนแรงของโรค และป้องกันการเสียชีวิต โดยการลงพื้นที่ในครั้งนี้จะนำรายชื่อผู้ที่มีความประสงค์เข้ารับการฉีดวัคซีน แจ้งลงทะเบียนฉีดวัคซีนทางเลือก "ซิโนฟาร์ม" ของทางเทศบาล
อีกด้านหนึ่ง นายหะสัน พิทักบัญชาการ ปลัดอําเภอเบตง ฝ่ายความมั่นคง พร้อมเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) ชุดประสานงานชายแดน ได้ลงพื้นที่ ต.อัยเยอร์เวง เพื่อพบปะพูดคุยเยี่ยมเยียนชาวบ้าน ตามนโยบายของนายอำเภอเบตงที่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ของรัฐลงพื้นที่เดินเข้าไปหาพี่น้องประชาชน สร้างการรับรู้ที่ถูกต้อง และความเข้าใจแก่ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา อิหม่าม และประชาชนถึงแนวทางปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด พร้อมมอบสิ่งของเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ
@@ รพ.หลัก - รพ.สนาม 4 จังหวัดใต้เตียงยังว่าง
ด้านรายงานข้อมูลเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 จากสำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 กรมประชาสัมพันธ์ เป็นข้อมูล ณ เวลา 15.30 น. ของวันเสาร์ที่ 21 ส.ค.64 มีข้อมูลดังนี้
จ.สงขลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 1,048 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 817 เตียง คงเหลือ 231 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 3,677 เตียง ใช้ไป 2,263 เตียง คงเหลือ 1,414 เตียง ขณะที่อัตราส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต่อจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม 1:161
จ.ปัตตานี โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 1,358 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 850 เตียง คงเหลือ 508 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 2,870 เตียง ใช้ไป 1,251 เตียง คงเหลือ 1,619 เตียง ขณะที่อัตราส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต่อจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม อยู่ที่ 1:11
จ.ยะลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 791 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 559 เตียง คงเหลือ 232 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,088 เตียง ใช้ไป 639 เตียง คงเหลือ 449 เตียง ขณะที่อัตราส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต่อจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม 1:91
จ.นราธิวาส โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 811 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 771 เตียง คงเหลือ 40 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 2,640 เตียง ใช้ไป 1,088 เตียง คงเหลือ 1,552 เตียง ขณะที่อัตราส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต่อจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม 1:218
@@ ชายแดนใต้ยอดตายโควิดวันเดียว 20 ศพ
ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้และสงขลา ประจำวันเสาร์ที่ 21 ส.ค.64 มีดังนี้
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 110 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 13,981 ราย รักษาหายแล้ว 10,232 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 4 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 196 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 164 ราย, โรงพยาบาลสนามจังหวัด 324 ราย, โรงพยาบาลสนามเรือนจำ 77 ราย, โรงพยาบาลประจำอำเภอ 741 ราย, โรงพยาบาลชุมชน 475 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 43 ราย, สิโรรส-ปาร์ควิว ฮอสพิเทล 168 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์สะพานปูน 32 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์โรงยิมบานา 23 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์ เซาท์เทิร์น วิว 51 ราย และ Home Isolation จำนวน 60 ราย
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ระหว่างรักษารวม 3,138 ราย แยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 1,337 ราย, อ.หนองจิก 352 ราย, อ.โคกโพธิ์ 135 ราย, อ.ยะหริ่ง 201 ราย, อ.สายบุรี 163 ราย, อ.ไม้แก่น 10 ราย, อ.แม่ลาน 11 ราย, อ.ยะรัง 351 ราย, อ.ปะนาเระ 167 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 78 ราย, อ.มายอ 249 ราย และ อ.กะพ้อ 49 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 145 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 10,256 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 1,826 ราย รักษาหายแล้ว 8,329 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 4 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 101 ราย อยู่ระหว่างรอผล 350 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 3,980 ราย, อ.กรงปินัง 762 ราย, อ.เบตง 536 ราย, อ.รามัน 987 ราย, อ.บันนังสตา 1,847 ราย, อ.กาบัง 310 ราย, อ.ธารโต 834 ราย และ อ.ยะหา 1,000 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 1,826 ราย แยกเป็น โรงพยาบาลยะลา 170 ราย, โรงพยาบาลเบตง 67 ราย, โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) 6 แห่ง 322 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 82 ราย, โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 572 ราย, โรงพยาบาลสนามเบตง 67 ราย, โรงพยาบาลสนามรามัน 77 ราย, โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 130 ราย, โรงพยาบาลสนามยะหา 63 ราย, โรงพยาบาลสนามธารโต 12 ราย, โรงพยาบาลสนามกรงปินัง 100 ราย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศอ.12 ยะลา 24 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) จำนวน 25 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) 44 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 71 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 365 ราย แยกเป็น พื้นที่ อ.เมือง 40 ราย, อ.ตากใบ 10 ราย, อ.ยี่งอ 8 ราย, อ.จะแนะ 18 ราย, อ.แว้ง 44 ราย, อ.รือเสาะ 52 ราย, อ.บาเจาะ 38 ราย, อ.ระแงะ 60 ราย, อ.ศรีสาคร 5 ราย, อ.เจาะไอร้อง 13 ราย อ.สุไหงปาดี 38ราย และ อ.สุไหงโก-ลก 39 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 10,944 ราย รักษาหายสะสม 8,599 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 8 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 129 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 2,260 ราย, อ.ระแงะ 1,269 ราย, อ.รือเสาะ 573 ราย, อ.บาเจาะ 788 ราย, อ.จะแนะ 607 ราย, อ.ยี่งอ 707 ราย, อ.ตากใบ 1,315 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 763 ราย, อ.สุไหงปาดี 666 ราย, อ.ศรีสาคร 404 ราย, อ.แว้ง 783 ราย, อ.สุคิริน 296 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 513 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 242 ราย แยกเป็นกลุ่มสัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ 214 ราย, กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน 26 ราย และรับผู้ป่วยจากโครงการคนสงขลาหลบเริน กลับมาในพื้นที่ 2 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 17,618 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 17,595 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 2,910 ราย รักษาหายแล้ว 14,610 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 4 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมรวม 98 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 623 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 4,840 ราย, อ.เมืองสงขลา 2,655 ราย, อ.สิงหนคร 2,021 ราย, อ.จะนะ 1,772 ราย, อ.สะเดา 1,247 ราย, อ.เทพา 951 ราย, อ.สะบ้าย้อย 749 ราย, อ.รัตภูมิ 510 ราย, สทิงพระ 365 ราย, อ.บางกล่ำ 328 ราย, อ.นาหม่อม 306 ราย, อ.นาทวี 248 ราย, อ.ระโนด 148 ราย, ควนเนียง 102 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 99 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 12 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,103 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 139 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย