“3 เยาวชนปลดแอกยะลา” เข้ารับทราบข้อกล่าวหาคดีคาร์ม็อบชุมนุมไล่นายกฯ ตำรวจรอเรียกอีก 5 ราย 24 ส.ค.นี้ ด้านผู้การจังหวัดเตือนไม่ควรจัดกิจกรรมช่วงวิกฤตโรคระบาด เหตุเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 13 ส.ค.64 ที่ สภ.เมืองยะลา จ.ยะลา นายณรงค์ อาแว ทนายความเครือข่ายศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้นำผู้เข้าร่วมคาร์ม็อบยะลา เมื่อวันที่ 1 ส.ค.64 ที่ผ่านมา จำนวน 3 ราย เข้าพบ พ.ต.อ.ตรัยฤกษ์ ปัญญาไตรรัตน์ ผกก.สภ.เมืองยะลา หลังจากได้รับหมายเรียกจาก สภ.เมืองยะลา จำนวน 2 ครั้ง เพื่อรับทราบข้อหาคดี "คาร์ม็อบยะลา" โดยถูกกล่าวหาในคดีร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคระบาดในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ซึ่งมีการรวมกลุ่มกันของบุคคลที่มีจำนวนมากกว่า 5 คนขึ้นไป
ในจำนวนนี้ผู้ถูกกล่าวหาคดีดังกล่าวทั้งหมด 8 คน ซึ่งในรอบแรกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลา ได้เรียกเพียงแค่ 3 รายไปก่อน ประกอบด้วย นายประเสริฐ ราชนิยม น.ส.อามานียะ ดอเล๊าะ และนายอารีฟีน โสะ ส่วนที่เหลืออีก 5 ราย ในเบื้องต้นจะนัดอีกครั้งในวันที่ 24 ส.ค.ที่จะถึงนี้
ทั้งนี้มี ดร.บัณฑิต ไกรวิจิตร อาจารย์คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี มาประกันตัวให้กับผู้ชุมชน
นายประเสริฐ ราชนิยม กล่าวว่า ผมมารับทราบคดีและปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา ที่เจ้าหน้าที่ยัดเยียดใส่ให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม เราแค่มาแสดงความไม่พอใจของการปฎิบัติงานงานของรัฐาลในทุกๆ เรื่องที่ผ่านมา เพราะมันมีความเปลี่ยนแปลงมาแล้ว ซึ่งประชาชนทั่วประเทศมีคำตอบอยู่ในตัวกันทุกคน แต่จะแสดงออกไม่ได้ เพราะถูกกดดันด้วย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่มาตัดกำลังของพี่น้องประชาชนและใช้กฏหมาย 2 มาตรฐานที่พี่น้องประชาชนรับไม่ได้ ถ้าเราไม่ออกมาประชาชนทุกคนก็ถูกกดขี่ข่มเหงแบบนี้ตลอดไป ภายใต้รัฐทรราชบริหารประเทศล้มเหลว
พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จว.ยะลา กล่าวว่า ในช่วงนี้มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ยังถือว่ารุนแรงในพื้นที่ ก็ถูกประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด มีการประกาศอีกหลายเรื่องรวมถึงการห้ามจัดกิจกรรม การห้ามชุมนุมเกินกว่า 5 คน การเข้าไปร่วมกิจกรรมต่างๆเหล่านี้ ถือว่าเป็นความผิดทางกฎหมายมีโทษทางอาญาจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งในตรงนี้ตนเองไม่อยากบังคับใช้กฏหมายอย่างนี้กับเด็กเยาวชนและผู้ที่แสดงออก
"อยากจะเตือนไปยังทางกลุ่มที่ออกมาแสดงพลังในรูปแบบต่างๆ ถือว่า กำลังซ้ำเติมสังคมบ้านเมืองอยู่ กิจการต่างๆ ยังคงปิด บ้านเมืองยังล็อกดาวน์ บางหมู่บ้าน บางพื้นที่ถูกปิดหมู่บ้าน การออกมาแสดงออกเรื่องนี้ยังไม่ควรกระทำห้วงเวลาแบบนี้ ในพื้นที่ของ จ.ยะลา หรือ จังหวัดอื่นๆ ที่เป็นพื้นที่แพร่กระจายของโรคร้าย"
ผบก.ภ.จว.ยะลา กล่าวว่า สุดท้ายนี้ขอฝากไปยัง แกนนำผู้ที่จัดกิจกรรมต่างๆ ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองไม่อยากใช้กฎหมายกับพี่น้องประชาชนและพยายามจะทำทุกวิธีทาง เพื่อจะอะลุ่มอล่วยกัน แต่บางครั้งบางกรณีไม่สามารถที่จะทำอย่างนั้นได้ ส่วนน้องๆ ที่เพียงแค่มาร่วมทำกิจกรรมในการแสดงออก ให้รอเวลาอันเหมาะสม ค่อยออกไปแสดงต่างๆ ในเรื่องเหล่านั้นได้ แต่ไม่ควรในห้วงเวลาวิกฤตโรคภัยแบบนี้