สั่งปิด 6 หมู่บ้านเสี่ยง "ยะหา-เบตง" ขณะที่ผลตรวจแก๊งโจ๋ปาร์ตี้ริมหาด อ.จะนะ พบติดโควิด 5 ราย ชาย 3 หญิง 2 ทำเพื่อนอีก 56 คนพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเดือดร้อน ต้องกลายเป็นกลุ่มเสี่ยง ปัตตานีเพิ่มคุมเข้มตลาดสด- ร้านค้า หลังพบผู้ติดเชื้อรายวันเกิน 300 ราย
วันเสาร์ที่ 7 ส.ค.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และจังหวัดสงขลา ยังคงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างต่อเนื่อง และมีผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นจากการแพร่ระบาดในหลายพื้นที่
ทำให้ทางศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดยะลา ได้มีประกาศคำสั่งที่ 209/2564 เรื่องการกำหนดพื้นที่เสี่ยงเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) ในพื้นที่จังหวัดยะลา (ฉบับที่ 37) และคำสั่งที่ 210/2564 เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ว่าด้วย การงดปฏิบัติศาสนกิจที่มัสยิดและบาลาเซาะห์ในพื้นที่เสี่ยง (ฉบับที่ 36) โดยทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดยะลา ได้กำหนดให้พื้นที่ดังต่อไปนี้ เป็นพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวัง ห้ามผู้ใดเข้า - ออก และงดการปฏิบัติศาสนกิจที่มัสยิดและบาลาเซาะห์ ประกอบด้วย
1.บ้านยะรม (คุ้มบ้านลูโบ๊ะบือเด) ม.3 ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา
2.บ้าลากอ ม.4 ต.ยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา
3.บ้านอาเส็น ( กลุ่มบ้านซอยเมาะซู) ม.6 ต.ยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา
4.บ้านบายอ (กลุ่มบ้านเจาะกือแดะ) ม.1 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา
5.บ้านบาจุ (กลุ่มบ้านมูนุง) ม.5 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา
6.บ้านตะโล๊ะเว (กลุ่มบ้านตะโล๊ะบาเวะ) ม.9 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา
นอกจากนี้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดยะลา ได้มีประกาสคำสั่ง ที่ 211/2564 เรื่องยกเลิกพื้นที่เสี่ยงเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( โควิด-19 ) ในพื้นที่จังหวัดยะลา (ฉบับที่ 13 ) และคำสั่งที่ 212/2564 เรื่อง การผ่อนปรนให้ปฎิบัติศาสนกิจที่มัสยิดและบาลาเซาะห์ (ฉบับที่7) โดยทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดยะลา มีมติเห็นชอบให้ยกเลิกพื้นที่เสี่ยงและผ่อนปรนให้ปฏิบัติศาสนกิจที่มัสยิดและบาลาเซาะห์ ในพื้นที่ดังต่อไปนี้
1.บ้านทุ่งเหรียง ม.2 ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา
2.บ้านบุดีฮิเลย์ (ซอยกูแบรายอ) ม.8 ต.บุดี อ.เมือง จ.ยะลา
3.บ้านยะต๊ะ ม.1 ต.ยะต๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา
@@ผู้ว่ายะลาตรวจเยี่ยมอ.เบตง ย้ำยังใช้มาตรการคุมเข้มโควิด
นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วย นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตงและคณะได้มอบมังคุดในสายหมอก จำนวน 1,000 กิโลกรัม ให้กับเจ้าหน้าที่เรือนจำและผู้ต้องขังในเรือนจำอำเภอเบตง จ.ยะลา และเดินทางไปมอบถุงยังชีพและเวชภัณฑ์ให้ตัวแทนชาวบ้านลูโบ๊ะบือเด ต.ยะรม ซึ่งต้องปิดหมู่บ้านเป็นเวลา 14 วัน หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 2 ราย และกลุ่มมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ซึ่งยังรอผลตรวจอีกหลายราย
นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาและคณะยังได้เดินทางไปยังหลักเขต 5 2A รอยต่อระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย ตรวจติดตามการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหารตามมาตรการควบคุมและป้องกันสถานการณ์โควิด-19 ตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย และเยี่ยมด่านพรมแดนเบตง พร้อมมอบเวชภัณฑ์ เจลแอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย สนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า จังหวัดยะลายังคงใช้มาตรการควบคุมเข้มข้นป้องกันและยับยั้งให้สถานการณ์โควิด-19 ของจังหวัดยะลาลดลงอย่างรวดเร็วที่สุด ขณะเดียวกันการคุมเข้มแนวชายแดนก็ยังคงต้องตรึงกำลังเข้ม เพื่อป้องกันการลักลอบเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ
@@ผลตรวจแก๊งโจ๋ปาร์ตี้ริมหาด อ.จะนะ ติดโควิด 5 ราย
ด้านความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอจะนะร่วมกับตำรวจ สภ.ควนมีด อ.จะนะ จ.สงขลา บุกจับกุมกลุ่มวัยรุ่นลักลอบจัดปาร์ตี้วันเกิด ที่ริมชายทะเล ในพื้นที่อ.จะนะ จ.สงขลา จำนวน 61 คน เมื่อวันที่ 4 ส.ค.64 ที่ผ่านมา
ล่าสุดผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 61 คน ชุดแรกมีผลตรวจยืนยันออกมาแล้วว่า พบผู้ติดเชื้อโควิดจำนวน 5 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 2 คน มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ ม.3 ต.ตลิ่งชัน อ.จะนะ 1 คน , ม.3 ต.นาทับ อ.จะนะ 1 คน, ม.4 ต.นาทับ อ.จะนะ 1 คน, ม.13 ต.นาทับ อ.จะนะ 1 คน และ ม.1 ต.สทิงหม้อ อ.สิงหนคร 1 คน
ขณะนี้ สาธารณสุขอำเภอจะนะ เตรียมนำตัวทั้ง 5 คน เข้ารักษาที่โรงพยาบาลสนามเป็นการด่วน พร้อมเร่งตรวจสอบไทม์ไลน์ของทั้ง 5 คน นำผู้ใกล้ชิดมาตรวจหาเชื้อ และนำเข้าสู่กระบวนการกักตัวเพื่อสังเกตอาการต่อไป ส่วนที่เหลืออีก 56 คนเจ้าหน้าที่จะตรวจหาเชื้อโควิด ซ้ำอีกครั้งรอบสอง เพื่อให้แน่ชัดว่ามีติดเชื้อเพิ่มเติมอีกหรือไม่
อย่างไรก็ตามในกลุ่มผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้ง 5 คนนั้น น่าจะติดเชื้อมาก่อนที่จะเข้าร่วมปาร์ตี้วันเกิดในคืนเกิดเหตุแล้วและสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ อาจจะนำเชื้อไปแพร่ให้กับกลุ่มคนที่ร่วมปาร์ตี้ด้วย ในส่วนของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ขณะนี้ได้มีการกักตัวปลัดอำเภอ และ อส.อำเภอจะนะ ชุดที่เข้าไปจับกุมประมาณ 20 คน เตรียมตรวจหาเชื้อในวันจันทร์นี้ รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ควนมีด ที่มีกลุ่มเสี่ยงที่เป็นพนักงานสอบสวนประมาณ 8 นาย ซึ่งทำหน้าที่สอบปากคำ ซึ่งตรวจสอบอีกว่า ใครเป็นผู้สอบสวนคนที่ติดเชื้อทั้ง 5 คน
@@ปัตตานี เพิ่มคุมเข้มตลาดสด- ร้านค้า หลังพบผู้ติดเชื้อเกิน 300 ราย
ที่ห้องพญาตานี ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดปัตตานี นายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จังหวัดปัตตานี ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปัตตานี ครั้งที่ 22/2564 ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระลอกใหม่ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี เพื่อรับทราบผลการดำเนินงานสถานที่แยกกักในชุมชน Community Isolation ของจังหวัดปัตตานี ซึ่งมีอยู่จำนวน 78 แห่ง ของจังหวัดปัตตานี และมีผู้ติดเชื้อกักตัวอยู่ รวมกว่า 300 ราย และ Home Isolation ผู้ติดเชื้อที่เข้าเกณฑ์การแยกกักตัวที่บ้านอีกจำนวนหนึ่งด้วย
โดยที่ประชุมได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มความเข้มในพื้นที่ตลาดสด และตามร้านค้าต่าง ๆ ให้ปฏิบัติเป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคของสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพราะมีการกระจายเชื้อในพื้นที่ชุมชนมากขึ้น มีตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงล่าสุดมากถึง 302 ราย พร้อมเร่งประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเป้าหมายเสี่ยง ผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไป ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค และหญิงมีครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป เข้ารับการฉีดวัคซีน ให้เป็นไปตามเป้าหมายมากที่สุด
@@โรงพยาบาลนราฯ เตียงยังติดลบอีก 31 เตียง
ด้านรายงานข้อมูลเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 จากสำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 กรมประชาสัมพันธ์ เป็นข้อมูล ณ เวลา 16.00 น. ของวันที่ 7 ส.ค.64 มีข้อมูลดังนี้
จ.สงขลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 1,034 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 794 เตียง คงเหลือ 240 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 3,670 เตียง ใช้ไป 2,841 เตียง คงเหลือ 829 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:203
จ.ปัตตานี โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 933 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 713 เตียง คงเหลือ 220 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,715 เตียง ใช้ไป 1,439 เตียง คงเหลือ 276 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:15
จ.ยะลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 791 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 610 เตียง คงเหลือ 181 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,088 เตียง ใช้ไป 782 เตียง คงเหลือ 306 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:111
จ.นราธิวาส โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 625 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 656 เตียง คงเหลือ -31 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,730 เตียง ใช้ไป 1,025 เตียง คงเหลือ 705 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:205
@@ป่วยโควิด 4 จังหวัดชายแดนใต้เสียชีวิตวันเดียวรวม 15 ราย
ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้และสงขลา ประจำวันเสาร์ที่ 7 ส.ค.64 มีดังนี้
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 219 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 11,292 ราย รักษาหายแล้ว 7,375 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 4 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 157 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 175 ราย โรงพยาบาลสนามจังหวัด 630 ราย โรงพยาบาลสนามเรือนจำ 127 ราย โรงพยาบาลประจำอำเภอ 1,076 ราย โรงพยาบาลชุมชน 477 ราย โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร 10 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 58 ราย สิโรรส-ปาร์ควิว Hospitel 175 ราย Home Isolation 156 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) 7 ราย
จำนวนผู้ป่วยแยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 4,073 ราย, อ.หนองจิก 1,417 ราย, อ.โคกโพธิ์ 579 ราย, อ.ยะหริ่ง 1,132 ราย, อ.สายบุรี 572 ราย, อ.ไม้แก่น 144 ราย, อ.แม่ลาน 213 ราย, อ.ยะรัง 1,168 ราย, อ.ปะนาเระ 531 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 242 ราย, อ.มายอ 961 ราย และ อ.กะพ้อ 137 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 80 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 8,275 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 2,034 ราย รักษาหายแล้ว 6,168 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 3 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 73 ราย อยู่ระหว่างรอผล 1,125 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 3,160 ราย, อ.กรงปินัง 651 ราย, อ.เบตง 431 ราย, อ.รามัน 755 ราย, อ.บันนังสตา 1,514 ราย, อ.กาบัง 275 ราย อ.ธารโต 725 ราย และ อ.ยะหา 764 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 2,034 ราย แยกเป็น โรงพยาบาลยะลา 185 ราย โรงพยาบาลเบตง 72 ราย รพช.6 แห่ง 353 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 76 ราย โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 763 ราย โรงพยาบาลสนามเบตง 19 ราย โรงพยาบาลสนามรามัน 2 แห่ง 240 ราย โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 96 ราย โรงพยาบาลสนามยะหา 80 ราย โรงพยาบาลสนามธารโต 3 ราย โรพยาบาลสนามกรงปินัง 58 ราย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศอ.12 ยะลา 12 ราย รักษาตัวที่บ้าน 5 ราย ปฏิเสธการรักษา 5 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 67 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ป่วยรายใหม่ 185 ราย แยกเป็น พื้นที่ อ.เมือง 56 ราย, อ.ตากใบ 46 ราย, อ.ยี่งอ 2 ราย, อ.จะแนะ 4 ราย, อ.แว้ง 10 ราย, อ.รือเสาะ 13 ราย, อ.บาเจาะ 2 ราย , อ.ระแงะ 2 ราย, อ.เจาะไอร้อง 6 ราย และ อ.สุไหงปาดี 14 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 7,789 ราย รักษาหายสะสม 5,841 ราย ผู้เสียชีวิตใหม่ 3 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 85 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 1,750 ราย, อ.ระแงะ 871 ราย, อ.รือเสาะ 402 ราย, อ.บาเจาะ 517 ราย, อ.จะแนะ 441 ราย, อ.ยี่งอ 456 ราย, อ.ตากใบ 1,041 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 458 ราย, อ.สุไหงปาดี 435 ราย, อ.ศรีสาคร 325 ราย, อ.แว้ง 467 ราย, อ.สุคิริน 239 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 387 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 251 ราย แยกเป็นกลุ่มสัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ 211 ราย กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน 40 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 13,890 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 13,867 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 3,250 ราย รักษาหายแล้ว 10,562 ราย ผู้เสียชีวิตใหม่ 5 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมรวม 78 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 1,421 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 3,805 ราย, อ.เมืองสงขลา 2,206 ราย, อ.จะนะ 1,522 ราย, อ.สิงหนคร 1,202 ราย, อ.สะเดา 872 ราย, อ.เทพา 821 ราย, อ.สะบ้าย้อย 594 ราย, สทิงพระ 316 ราย, อ.รัตภูมิ 319 ราย, อ.บางกล่ำ 283 ราย, อ.นาทวี 249 ราย, อ.นาหม่อม 214 ราย, อ.ระโนด 97 ราย, ควนเนียง 84 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 66 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 12 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,103 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 102 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย