ชายแดนใต้ยอดป่วย-ตายโควิดยังพุ่ง เตียงขาดแคลนหนัก!

ปัตตานี เบตง นราธิวาส เร่งขยายโรงพยาบาลสนามรับผู้ป่วยทะลัก เจ้าหน้าที่นราฯเผยใช้ชุด PPE วันละ 10 ชุด เหลือจำนวนจำกัด ยะลาวิกฤติ เตียงโรงพยาบาลหลัก - โรงพยาบาลสนามว่างไม่ถึง 30 เตียง ด้านตัวเลขติดเชื้อรายใหม่ปัตตานีพุ่ง 269 นราฯ เสียชีวิต 4

วันพุธที่ 14 ก.ค.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้และจังหวัดสงขลา ซึ่งในแต่ละจังหวัดยังมีตัวเลขของผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกวันและในบางจังหวัดยังมีการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อด้วย ทำให้หลายจังหวัดต้องเร่งขยาย รพ.สนามและจัดเตรียมความพร้อมในการรองรับผู้ป่วย

ที่ จ.ปัตตานี ทางหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ได้จัดเจ้าหน้าที่ร่วมกับกำลังพลจิตอาสาพระราชทาน มณฑลทหารบกที่ 46 ดำเนินการขนย้ายเตียงกระดาษ จำนวน 80 เตียง ที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี ไปยังโรงพยาบาลสนาม อ.โคกโพธิ์ ซึ่งตังอยู่ในโรงเรียนโพธิ์คีรีราชศึกษา พร้อมประกอบจัดทำเตียงรองรับผู้ป่วย จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ปัตตานี เพื่อให้ผู้ป่วยได้เข้าถึงการรักษาได้อย่างรวดเร็ว

เนื่องจากโรงพยาบาลโคกโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เป็นหน่วยบริการรักษาผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ทำให้มีผู้ป่วยที่มารับการรักษาจากโรคดังกล่าวเป็นจำนวนมาก จึงได้เปิดโรงพยาบาลสนาม 124 เตียงที่ผ่านมา ปรากฏว่า มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงได้ขยายเตียงเพิ่มเติมในครั้งนี้

เช่นเดียวกับที่ อ.เบตง จ.ยะลา ทาง พ.ต.ท.อรรถพล จินตาคม ผบ.ร้อย ตชด. 44 มอบหมายให้ ร.ต.อ.อาทิตย์ อินทรสกุล นำ ข้าราชการตำรวจจิตอาสาร้อย ตชด.445 ร่วมกับข้าราชการตำรวจจิตอาสา สภ.เบตง และ อส. เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา โดยการจัดเตียงสนามเพิ่มเติม ที่โรงพยาบาลสนามเบตง ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อรองรับผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงและ รองรับผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อยจนถึงปานกลางเพิ่มขึ้น จำนวน 70 เตียง ให้บริการดูแลเฉพาะผู้ป่วยโควิด-19 ครบวงจร

ส่วนสถานการณ์ของ รพ.สนาม ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ที่ได้เปิดไปแล้ว 6 แห่ง แต่ยังไม่เพียงพอ เนื่องจากสถาณการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 ทำให้ไม่มีเตียงรองรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโรงพยาบาลสนามทั้ง 6 แห่ง ปิดไปแล้ว 2 แห่ง ยังเหลือที่เปิดอยู่ 4 แห่งคือ รพ.สนาม แห่งที่ 2 จำนวน 160 เตียง , รพ.สนาม แห่งที่ 3 อุ่นไอรัก บือราเป๊ะ รับได้ 189 เตียง , รพ.สนาม แห่งที่ 5 โรงยิมเนเซี่ยม ม.นราธิวาสราชนครินทร์ รับได้ 400 เตียง ใช้ไปแล้ว เหลือ 115 เตียง และ รพ.สนาม แห่งที่ 6 หอประชุมกองร้อย อส.เมืองนราธิวาส รับได้ 100 เตียง

จึงทำให้ จ.นราธิวาส เตรียมเปิด โรงพยาบาลสนาม จ.นราธิวาส แห่งที่ 7 ที่รองรับผู้ป่วยได้จำนวน 200 ราย ซึ่งได้เปิดรับบริจาคสิ่งของเครื่องใช้หลายรายการ เพื่อรองรับการเปิดโรงพยาบาลสนามแห่งใหม่ รวมไปถึงชุด PPE ของโรงพยาบาลสนามแต่ละแห่งเพื่อให้บุคลากร ซึ่งยังมีใช้อย่างจำกัด

@@รพ.สนาม นราฯ ใช้ชุด PPE วันละ 10 ชุดเหลือใช้จำกัด

ด้านเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลสนามนราธิวาสรายหนึ่ง กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ของ จ.นราธิวาส ที่มีตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมีโรงพยาบาลสนามมาแล้ว 6 แห่ง ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเปิดโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 7 และแห่งที่ 8 แต่ว่าทางต้นสังกัดหรือว่าทางจังหวัดนราธิวาส ยังขาดแคลนอุปกรณ์ที่สำคัญทรัพยากรที่สำคัญ ในการใช้เปิดโรงพยาบาลสนาม โดยเฉพาะชุด PPE เพราะว่าในแต่ละวันของแต่ละโรงพยาบาลสนาม จะใช้ชุดประมาณอย่างต่ำก็ 10 ชุด อันนี้ไม่รวมในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินหรือสถานการณ์เฉพาะหน้าในแต่ละวันเราก็จะใช้มากกว่านั้น ซึ่งวันนี้ก็ยังมีจำกัด

นอกจากนี้ก็เป็นอุปกรณ์เกี่ยวกับพวกออกซิเจนที่เสียบวัดปลายนิ้วหาที่จะต้องดูค่าออกซิเจนปลายนิ้ว เครื่องวัดความดันแบบพกพา แบบดิจิตอลพกพา ปรอทวัดไข้ เสื้อกันฝน ที่ยังคงจะต้องใช้อยู่ หมวกตัวหนอน พวกนี้ก็ยังจำเป็นต้องใช้อยู่ ซึ่งมีไม่เพียงพอ ส่วนการทำงานเจ้าหน้าที่ทุกคนยังไหวและยืนยันที่จะอยู่ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ไปจนกว่ายอดยอดผู้ติดเชื้อของจังหวัดนราธิวาส จะเท่ากับ 0

@@เบตงคลายล็อก 5 ชุมชน 1 หมู่บ้าน จากพื้นที่เสี่ยงโควิด

ที่ด่านคัดกรองชุมชนบ้านกาแป๊ะฮูลู อ.เบตง จ.ยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาลเมืองเบตง ได้ลงพื้นที่พบปะและร่วมแสดงความยินดี กับผู้นำชุมชน ผู้นำศานา และ อสม.ชุมชนบ้านกาแป๊ะฮูลู ในการเปิดพื้นที่ชุมชน หลัง ศบค.ยะลา ได้ออกคำสั่ง ยกเลิกพื้นที่เสี่ยง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 13 ก.ค.64 หลังจากไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มหลังจากปิดพื้นที่มาแล้วมากกว่า 14 วัน พร้อมทั้งได้ร่วมดุอาร์ขอพรจากเอกองค์อัลเลาะห์ เพื่อขอให้พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เกิดความสงบสุขและผ่านพ้นภัยจากโรคร้ายโดยเร็ว

นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง กล่าวว่า คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดยะลา ได้มีคำสั่งยกเลิกพื้นที่เสี่ยง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่ชุมชนจาเราะกางา , ชุมชนกาแป๊ะ กม.3 , ชุมชนกาแป๊ะ กม.5 , ชุมชนกาแป๊ะฮูลู , ชุมชนคงคาสามัคคี ในเขต ต.เบตง และบ้านกาแป๊ะซาลัง ม.3 ต.ธารน้ำทิพย์ อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมสามารถขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับการดำเนินมาตรการด้านสาธารณสุข โดยมุ่งถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ

ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ของ อ.เบตง วันที่ 14 ก.ค.64 พบผู้ป่วยรายใหม่ 8 ราย เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน 8 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 300 ราย กำลังรักษา 71 ราย รักษาหายแล้ว 223 ราย ส่งต่อ 1 ราย เสียชีวิตสะสม 5 ราย

@@ศบค.ยะลา สั่งปิดตลาดนัดบ้านแอและ อ.กาบัง

ทางศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จ.ยะลา โดยนายชัยสิทธิ์ พานิชพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดยะลา ได้ออกคำสั่งที่ 168/2564 เรื่องมาตการเกี่ยวกับสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในเขตท้องที่อำเภอภาบัง

เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ อ.กาบัง จ.ยะลา ยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่อย่างต่อเนื่อง จากการสอบสวนโรคพบว่า เกิดจากกิจกรรมร่วมกันหรือรวมคนในพื้นที่เสี่ยง เช่น ตลาด ตลาดนัด จึงทำให้คณะกรรมโรคติดต่อจังหวัดยะลา ได้ออกคำสั่งปิดตลาดนัดบ้านแอและ ม.6 ต.กาบัง อ.กาบัง จ.ยะลา ตั้งแต่วันที่ 14 ก.คง 64 เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

@@ยะลา เตียงว่างไม่ถึง 30 เตียง นราฯ ติดลบ 55 เตียง

ด้านรายงานข้อมูลเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 จากสำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 กรมประชาสัมพันธ์ เป็นข้อมูล ณ เวลา 15.30 น. ของวันที่ 14 ก.ค.64 มีข้อมูลดังนี้

จ.สงขลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 773 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 773 เตียง ไม่เหลือเตียงว่างเลย ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 2,194 เตียง ใช้ไป 2,133 เตียง คงเหลือ 61 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:152

จ.ปัตตานี โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 426 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 401 เตียง คงเหลือ 25 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 1,835 เตียง ใช้ไป 1,298 เตียง คงเหลือ 537 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:14

จ.ยะลา โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 591 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 570 เตียง คงเหลือ 21 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 960 เตียง ใช้ไป 952 เตียง คงเหลือ 8 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:136

จ.นราธิวาส โรงพยาบาลหลักมีเตียงทั้งหมด 410 เตียง ใช้ไปทั้งสิ้น 465 เตียง คงเหลือ -55 เตียง ส่วนในโรงพยาบาลสนามมีเตียงทั้งหมด 900 เตียง ใช้ไป 384 เตียง คงเหลือ 516 เตียง ขณะที่อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อจำนวนผู้ป่วยใน รพ.สนาม 1:170

@@ปัตตานี ติดเชื้อรายใหม่ 269 นราฯ เสียชีวิต 4

ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้และสงขลา ประจำวันพุธที่ 14 ก.ค.64 มีดังนี้

จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 158 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 4,025 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 1,790 ราย รักษาหายแล้ว 2,198 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 37 ราย อยู่ระหว่างรอผล 2,436 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 1,714 ราย, อ.กรงปินัง 434 ราย, อ.เบตง 300 ราย, อ.รามัน 240 ราย, อ.บันนังสตา 670 ราย, อ.กาบัง 167 ราย อ.ธารโต 265 ราย และ อ.ยะหา 235 ราย

ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 1,790 ราย แยกเป็น โรงพยาบาลยะลา 164 ราย โรงพยาบาลเบตง 63 ราย รพช. 6 แห่ง 343 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 43 ราย โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 673 ราย โรงพยาบาลสนามเบตง 11 ราย โรงพยาบาลสนามรามัน 2 แห่ง 268 ราย Bubble & Seal 164 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 61 ราย

จ.นราธิวาส มีผู้ป่วยรายใหม่ 191 ราย แยกเป็น พื้นที่ อ.ระแงะ 33 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 3 ราย,อ.เจาะไอร้อง 8 ราย, อ.เมือง 14 ราย, อ.สุไหงปาดี 14 ราย, อ.ศรีสาคร 1 ราย, อ.ตากใบ 49 ราย, อ.ยี่งอ 8 ราย, อ.จะแนะ 18 ราย, อ.แว้ง 7 ราย, อ.รือเสาะ 13 ราย, อ.บาเจาะ 2 รายและ อ.สุคิริน 21 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 3,437 ราย รักษาหายสะสม 2,373 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 4 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมเป็น 28 ราย

ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 888 ราย, อ.ระแงะ 344 ราย, อ.รือเสาะ 156 ราย, อ.บาเจาะ 300 ราย, อ.จะแนะ 246 ราย, อ.ยี่งอ 146 ราย, อ.ตากใบ 586 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 103 ราย, อ.สุไหงปาดี 158 ราย, อ.ศรีสาคร 173 ราย, อ.แว้ง 98 ราย, อ.สุคิริน 103 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 136 ราย

จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 269 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 5,052 ราย รักษาหายแล้ว 2,778 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 48 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 142 ราย โรงพยาบาลสนามจังหวัด 682 ราย โรงพยาบาลประจำอำเภอ 556 ราย โรงพยาบาลชุมชน 377 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 39 ราย สิโรรส-ปาร์ควิว Hospitel 158 ราย อยู่ระหว่างพิจารณาแอดมิท 263 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) 9 ราย

จำนวนผู้ป่วยแยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 1,617 ราย, อ.หนองจิก 708 ราย, อ.โคกโพธิ์ 344 ราย, อ.ยะหริ่ง 561 ราย, อ.สายบุรี 235 ราย, อ.ไม้แก่น 95 ราย, อ.แม่ลาน 106 ราย, อ.ยะรัง 404 ราย, อ.ปะนาเระ 199 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 145 ราย, อ.มายอ 491 ราย และ อ.กะพ้อ 97 ราย

จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 107 ราย แยกเป็นกลุ่มสัมผัสผู้ป่วยยืนยันในพื้นที่ 65 ราย กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน 21 ราย กลุ่มรอสอบสวนโรค 1 ราย กลุ่มสัมผัสเสี่ยงอื่นๆ 20 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 8,315 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 8,292 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 2,827 ราย รักษาหายแล้ว 5,454 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมรวม 34 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 830 ราย

จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 2,019 ราย, อ.เมืองสงขลา 1,428 ราย, อ.จะนะ 992 ราย, อ.เทพา 603 ราย, อ.สิงหนคร 520 ราย, อ.สะเดา 416 ราย, สทิงพระ 270 ราย, อ.สะบ้าย้อย 247 ราย, อ.บางกล่ำ 202 ราย, อ.นาทวี 113 ราย, อ.รัตภูมิ 88 ราย, อ.ระโนด 81 ราย, อ.นาหม่อม 83 ราย, ควนเนียง 51 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 35 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 11 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,089 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 44 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย