ผวา "มัรกัสตาเซะ" คลัสเตอร์ใหม่ - นราฯปิดชุมชนชายทะเล

ตัวแทนมัรกัสตาเซะรุดขอความช่วยเหลือ หลังพบติดเชื้อ 5 ราย หวั่นเป็นคลัสเตอร์แพร่ระบาดโควิด ด้านเทศบาลนครยะลาลุยตั้ง "รพ.สนามชุมชน" ช่วยดูอาการก่อนส่งรักษา ส่วนเทศบาลเมืองนราฯ สั่งปิดชุมชนชายทะเล คุมเข้มเข้า-ออก ขณะที่รือเสาะ ชายวัย 69 ปี ดับหลังฉีดวัคซีน

วันจันทร์ที่ 5 ก.ค.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และจังหวัดสงขลา ยังคงมีการระบาดของเชื้อโควิด จนทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ที่ จ.ยะลา ทางมัรกัสตาเซะได้ส่งตัวแทนมาพบกับนายแพทย์สงกรานต์ ไหมชุม แพทย์สาธารธสุขจังหวัดยะลา และนายธราวุธ ช่วยเกิด นายอำเภอเมืองยะลา เพื่อหารือและวางมารตการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ควิด-19) ที่กำลังระบาดในมัรกัสตาเซะ ทราบว่า ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อแล้ว 5 ราย โดยในมัรกัสตาเซะ มีผู้อาศัยอยู่กว่า 80 คน หากมีการป้องกันล่าช้า จะเกิด "คลัสเตอร์มัรกัสตาเซะ” อย่างแน่นอน

สำหรับมัรกัรตาเซะ ตั้งอยู่ หมู่ 3 ต.ตาเซะ อ.เมือง จ.ยะลา เป็นสถานที่สำหรับเผยแพร่ศาสนาอิสลามของกลุ่มดะวะห์ตับลีฆ ด้วยการทำงานเชิญชวนให้ประชาชนทำดีละเว้นความชั่ว ด้วยการพยายามด้วยตนเอง ซึ่งใช้เวลาในการออกเชิญประชาชน เริ่มต้น 3 วัน - 40 วัน- 1 เดือน และ 1 ปี (สำหรับเมาลานา นักปราชญ์) โดยมัรกัสตาเซะ เป็นเครือข่ายของศูนย์ดะวะห์มัรกัสยะลา เชื่อมโยงการทำงานด้วยกัน และอนาคตมัรกัสตาเซะ จะเป็นศูนย์ดะวะห์มัรกัสยะลาแห่งประเทศ

นายแพทย์สงกรานต์ กล่าวว่า โดยก่อนหน้านี้ ทางสาธารณสุขอำเภอเมืองยะลา พร้อมเจ้าหน้าที่ รพ.สต. และ อสม.ในพื้นที่ ได้เข้าทำการคัดกรองหาเชื้อประชาชนพื้นที่ใกล้เคียงและเจอผู้ติดเชื้อในมัสกัสตาเซะ 5 ราย ต้นเหตุติดเชื้อจากตออัม ( ผู้ประกอบอาหาร ) ในมัรกัสตาเซะ ที่ออกไปจ่ายตลาดข้างนอก แล้วพาเชื้อเข้ามาติดคนในมัรกัส ซึ่งได้สั่งให้แยกผู้ติดเชื้อ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ พรุ่งนี้ทางเจ้าหน้าที่จะเข้ามาคัดกรองหาเชื้อทุกคน

นายอำเภอเมืองยะลา กล่าวว่า ทางอำเภอเมืองยะลา จะส่งเจ้าหน้าทุกฝ่ายลงไปช่วยเหลือ โดยเฉพาะมาตรการคนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า และการทำศาสนกิจให้ปฏิบัติเฉพาะคนที่อยู่ข้างใน โดยที่ไม่ร่วมกับผู้ติดเชื้อ พร้อมทั้งนี้ได้ให้ เจ้าหน้าที่ อส.ล้อมเขตมัรกัสตาเซะ ไม่ให้มีการลักลอบเข้า-ออก เพื่อมิให้เกิดคลัสเตอร์มัรกัสยะลา

@@เทศบาลนครยะลา ตั้ง รพ.สนามชุมชน ช่วยดูอาการผู้ป่วย

ขณะที่คลัสเตอร์มัรกัสยะลา การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังลามไม่หยุดในพื้นที่ตลาดเก่า ทางเทศบาลนครยะลา ภายใต้การนำของนายพงษ์ศักดิ์ ยื่งชมม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา จึงได้ทำการตั้งโรงพยาบาลสนามชุมชน จำนวน 100 เตียง ซึ่งใช้โรงเรียนเทศบาล 5 ตลาดเก่า เพื่อเป็นศูนย์ที่พักคอยสำหรับผู้ติดเชื้อก่อนส่งโรงพยาบาลยะลาและโรงพยาบาลสนามจังหวัดยะลา

นายปิยะพงศ์ อนุรักษ์ รักษาการ ผอ.สาธารณสุขเทศบาลนครยะลา กล่าวว่า ทางเทศบาลร่วมกับโรงเรียนเทศบาล 5 ตลาดเก่า ตั้งศูนย์พักคอย เพื่อดูอาการของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ก่อนที่จะส่งไปยังโรงพยาบาลยะลา ช่วยปัญหาลดเตียงไม่พอกับผู้ป่วยในโรงพยาบาล และลดการเสี่ยงพบปะกับผู้ที่ติดเชื้อที่กักตัวในบ้าน โดยใช้อาคาร 3 หลัง ประกอบด้วย อาคารอมรพัฒน์ เป็นเรือนนอนชาย จำนวน 5 เตียง หอประชุมอมรพัฒน์ เป็นเรือนนอนหญิง จำนวน 50 เตียง และสำรองเบาะที่นอนอีกจำนวนหนึ่ง ที่หอประชุมใหญ่ รวมแล้วรับผู้มากักตัวได้ประมาณ 300 คน โดยมีเจ้าหน้าเทศบาลนครยะลา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเทศบาลนครยะลา คอยดูแลรักษาผู้ที่มาเข้ารับการกักตัว

@@สั่งปิดชุมชนชายทะเลเมืองนราฯ คุมเข้มเข้า-ออก

ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ล่าสุดได้มีการพบผู้ป่วยยืนยันโควิด-19 จำนวน 15 ราย ในพื้นที่ชุมชนชายทะเล หาดนราทัศน์ ทำให้ทางเทศบาลเมืองนราธิวาส ได้ทำการจำกัดและควบคุมการเข้า-ออกพื้นที่ พร้อมทั้งนำผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจำนวน 57 รายส่งตัวเข้า Local Quarantine เพื่อป้องกันยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค

นายไพซอล อาแว นายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาส กล่าวว่า หลังจากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ชุมชนชายทะเล หาดนราทัศน์ ได้ออกคำสั่งฉบับที่ 19 ลงวันที่ 4 ก.ค.64 ให้ปิดสถานที่ ซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นการชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19

"โดยทางเทศบาลเมืองนราธิวาสได้ควบคุมมาตรการเข้า-ออกหมู่บ้าน ตั้งแต่เวลา 05.00-22.00 น. โดยกำหนดให้ครอบครัวละ 1 คน สามารถเข้า-ออกได้ตามความจำเป็น ขณะที่ในพื้นที่ชุมชนชายทะเลประชาชนกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ประกอบอาชีพชาวประมง จึงต้องประกอบอาชีพหาเลี้ยงครอบครัวตามปกติ เช่น การซื้อ-ขายปลา แต่ต้องเคร่งครัดตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข"

นายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาส กล่าวอีกว่า ด้านการช่วยเหลือทางเทศบาลเมืองนราธิวาส ได้ดำเนินการจัดสรรถุงยังชีพบรรจุของอุปโภค-บริโภคที่จำเป็นในการดำรงชีวิต เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนในพื้นที่ชุมชนชายทะเลที่มีการปิดหมู่บ้านชั่วคราว

@@ชายวัย 69 ปี ชาวรือเสาะ ดับหลังฉีดวัคซีน

ส่วนที่โรงพยาบาลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ในวันนี้ได้เปิดให้ประชาชนที่ลงทะเบียนฉีดวัดซีนโควิด-19 เข้ามาทำการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า โดยในเวลา 10.25 น.นายอาซิ อาลี อายุ 69 ปี เป็นกรรมการมัสยิดบ้านลาโละ หมู่ 5 ต.ลาโละ ได้รับการฉีดวัดซีนและมีอาการล้มฟุบขณะที่นั่งรอสังเกตอาการ ทางทีมแพทย์จึงได้ทำการกระตุ้นหัวใจ จนรู้สึกตัวดีและจึงได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ จนเวลา 16.25 น. ได้รับแจ้งว่า นายอาซิ อาลี ได้เสียชีวิตลง

จากการตรวจสอบพบว่า นายอาซิ มีอาการแพ้วัดซีนอย่างเฉียบพลัน ประกอบกับมีโรคหัวใจ ซึ่งมีประวัติรักษาที่โรงพยาบาลรือเสาะ แต่ขาดการรับยามาประมาณ 3 เดือนแล้ว

ทั้งนี้ทางนายอำเภอรือเสาะพร้อมด้วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลรือเสาะ สาธารณสุขอำเภอรือเสาะ ปลัดอำเภอ และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อิหม่ามได้เข้าไปแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต ในเบื้องต้นนายอำเภอรือเสาะ ได้มอบเงินส่วนตัว 10,000 บาท ข้าวสาร 2 กระสอบ ให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตและจะเร่งประสานให้ทางราชการช่วยเหลือเยียวยา อีก 400,000 บาทต่อไป

@@ปัตตานี นัด 2,000 กว่าคน เข้าฉีดวัคซีนเข็มที่ 2

ส่วนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนอาคารเรียนรวม 58 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้นัดหมายผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จากศูนย์ฉีดวัคซีนฯ ม.อ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.64 จำนวน 2,253 คน ให้มารับวัคซีนเข็มที่ 2 ในวันนี้ (5 ก.ค.)

นายแพทย์อดิศักดิ์ งามขจรวิวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานี กรมการแพทย์ ผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนอาคารเรียนรวม 58 ม.อ.ปัตตานี กล่าวว่า การให้บริการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ให้ผู้ที่ได้รับนัดหมายจำนวน 2,253 คน ในวันนี้ พบปัญหาเพียงเล็กน้อย แต่ทุกปัญหาทางศูนย์ฉีดวัคซีนก็สามารถแก้ไขให้คลี่คลายลงได้ ซึ่งการดำเนินการฉีดวัคซีนของศูนย์ฉีดวัคซีนอาคารเรียนรวม 58 ม.อ.ปัตตานี เน้นให้บริการอย่างสะดวก รวดเร็ว ไม่แออัด โดยเจ้าหน้าที่คอยดูแลทุกขั้นตอน

@@มุสลิมเบตงละหมาดขอพรให้พ้นภัยโควิด

ส่วนที่ อ.เบตง นายอัครเดช แตปูซู ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.อัยเยอร์เวง ได้เชิญ ผู้นำศาสนาในพื้นที่ ทำพิธีละหมาดฮาญัติพร้อมดุอาร์ขอพร เพื่อขอให้พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเกิดความสงบสุขและผ่านพ้นภัยจากโรคไวรัสโควิด-19 ณ ด่านชุมชนบ้านกำปงบารู กม.32 บริเวณสามแยกทางขึ้นทะเลหมอกอัยเยอร์เวง หลังครบ 14 วัน ที่ ศบค.ยะลา ประกาศเป็นพื้นที่เสี่ยงในการควบคุมโรค ห้ามบุคคล เข้า-ออก จากการแพร่ระบาดจากโควิด -19

ด้านสถานการณ์โควิด-19 ของ อ.เบตง วันนี้ (5 ก.ค.) ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ มีผู้ป่วยสะสม 244 ราย แยกเป็นผู้ป่วยใน อ.เบตง 242 ราย พบใน state Quarantine 2 ราย กำลังรักษา 108 ราย รักษาหายแล้ว 131 ราย ส่งต่อ 1 ราย และเสียชีวิตสะสม 4 ราย

@@สงขลาติดเชื้อพุ่ง 318 ราย - ปัตตานีเสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย

ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้และสงขลา ประจำวันจันทร์ที่ 5 ก.ค.64 มีดังนี้

จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 92 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 2,643 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 1,522 ราย รักษาหายแล้ว 1,104 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 17 ราย อยู่ระหว่างรอผล 1,571 ราย

ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 1,522 ราย แยกเป็น โรงพยาบาลยะลา 124 ราย โรงพยาบาลเบตง 75 ราย โรงพยาบาลบันนังสตา 100 ราย โรงพยาบาลธารโต 5 ราย โรงพยาบาลรามัน 75 ราย โรงพยาบาลยะหา 73 ราย โรงพยาบาลกาบัง 2 ราย โรงพยาบาลกรงปินัง 51 ราย โรงพยาบาลสนามยะลา 505 ราย โรงพยาบาลสนามเบตง 14 ราย โรงพยาบาลสนามชั่วคราว 252 ราย และรอเข้าโรงพยาบาล 245 ราย

ส่วนจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 1,141 ราย, อ.กรงปินัง 333 ราย, อ.เบตง 244 ราย, อ.รามัน 144 ราย, อ.บันนังสตา 331 ราย, อ.กาบัง 85 ราย อ.ธารโต 195 ราย และ อ.ยะหา 170 ราย

จ.นราธิวาส มีผู้ป่วยรายใหม่ 52 ราย แยกเป็น พื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก 3 ราย, อ.เจาะไอร้อง 1 ราย, อ.เมือง 22 ราย, อ.ระแงะ 3 ราย, อ.ศรีสาคร 8 ราย, อ.รือเสาะ 9 ราย, อ.แว้ง 1 ราย, อ.สุไหงปาดี 4 ราย และ อ.ตากใบ 1 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 2,502 ราย รักษาหายสะสม 1,695 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมเป็น 12 ราย

ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 756 ราย, อ.ระแงะ 178 ราย, อ.รือเสาะ 121 ราย, อ.บาเจาะ 244 ราย, อ.จะแนะ 167 ราย, อ.ยี่งอ 87 ราย, อ.ตากใบ 468 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 51 ราย, อ.สุไหงปาดี 100 ราย, อ.ศรีสาคร 74 ราย, อ.แว้ง 63 ราย, อ.สุคิริน 74 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 77 ราย

จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 229 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 3,327 ราย รักษาหายแล้ว 1,525 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 5 ราย ทำให้ผู้เสียชีวิตสะสม 20 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 182 ราย โรงพยาบาลสนาม 1,036 ราย โรงพยาบาลประจำอำเภอ 303 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 40 ราย สิโรรส-ปาร์ควิว Hospitel 125 ราย อยู่ระหว่างพิจารณาแอดมิท 88 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) 8 ราย

จำนวนผู้ป่วยแยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 1,113 ราย, อ.หนองจิก 452 ราย, อ.โคกโพธิ์ 158 ราย, อ.ยะหริ่ง 430 ราย, อ.สายบุรี 142 ราย, อ.ไม้แก่น 89 ราย, อ.แม่ลาน 77 ราย, อ.ยะรัง 256 ราย, อ.ปะนาเระ 113 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 83 ราย, อ.มายอ 306 ราย และ อ.กะพ้อ 78 ราย

จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 318 ราย แยกเป็นกลุ่มสัมผัสผู้ป่วยยืนยันในพื้นที่ 198 ราย กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน 82 ราย กลุ่มรอสอบสวนโรค 9 ราย กลุ่มในเรือนจำ 13 ราย และกลุ่มสัมผัสเสี่ยงอื่นๆ 16 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 6,624 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 6,601 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 2,810 ราย รักษาหายแล้ว 3,790 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย รายแรกเป็นชายอายุ 56 ปี ชาว อ.เทพา ส่วนอีกรายเป็นชายอายุ 88 ปี ชาว อ.หาดใหญ่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมรวม 24 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 1,022 ราย

จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 1,643 ราย, อ.เมืองสงขลา 1,070 ราย, อ.จะนะ 727 ราย, อ.เทพา 465 ราย, อ.สิงหนคร 410 ราย, อ.สะเดา 359 ราย, สทิงพระ 235 ราย, อ.บางกล่ำ 163 ราย, อ.สะบ้าย้อย 132 ราย, อ.นาทวี 84 ราย, อ.รัตภูมิ 71 ราย, อ.นาหม่อม 67 ราย, อ.ระโนด 61 ราย, ควนเนียง 30 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 26 ราย, อ. อ.กระแสสินธุ์ 11 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,011 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 36 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย