พยาบาลจบใหม่รุ่น 5 ม.อ.ปัตตานี อาสาช่วยงานโรงพยาบาลสนาม 3 เดือน หลังขาดบุคลากรทางการแพทย์ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ยึดปณิธานมหาวิทยาลัย "ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง"
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่องของ จ.ปัตตานี ทำให้ยอดผู้ป่วยในแต่ละวันทะยานขึ้นสู่หลักร้อย จนต้องเปิดโรงพยาบาลสนามขึ้นมาเป็นแห่งที่ 7 นับเป็นวิกฤติของจังหวัดที่ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ต้องทำงานหนักมาก เตียงในโรงพยาบาลก็ไม่เพียงพอรองรับผู้ป่วย
นาทีนี้จึงต้องการความร่วมไม้ร่วมมือ และการเสียสละของทุกฝ่ายอย่างยิ่งยวด
ข่าวดีในข่าวร้าย ก็คือ นักศึกษาพยาบาลที่จบใหม่ในปีนี้ ซึ่งเป็นรุ่นที่ 5 จากคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (ม.อ.ปัตตานี) จำนวน 20 คน ได้อาสาทำงานช่วยเหลือโรงพยาบาลสนามเป็นเวลา 3 เดือน เพราะอยากช่วยพี่น้องชาวปัตตานีให้รอดพ้นจากวิกฤติโควิด
นางสาวอารีนา เจะมามะ และ นางสาวอุมา ลั่นซี พยาบาลป้ายแดงที่สมัครใจร่วมร่วมด้วยช่วยกันที่โรงพยาบาลสนามปัตตานี เล่าว่า เพิ่งเรียนจบพยาบาล ซึ่งทางจังหวัดปัตตานีมีความต้องการอาสาสมัครด้านนี้ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดในโรงพยาบาลสนาม พวกตนจึงสมัครเข้าช่วยเหลือรวม 20 ชีวิต
"เราสองคนประจำที่โรงพยาบาลสนาม 5 ที่หอพักนักศึกษา 6 ใน ม.อ.ปัตตานี ส่วนเพื่อนๆ ก็แบ่งกันไปช่วยตามโรงพยาบาลสนามต่างๆ พวกเราเต็มใจและตั้งใจไปช่วย เพราะบุคลากรไม่พอจริงๆ มีผู้ป่วยมาเพิ่มทุกวัน เห็นพี่ๆ เขาทำงานกันเต็มที่สุดๆ แล้ว ทุกคนก็เหนื่อยล้า เราจึงตัดสินใจช่วยเหลือ เพราะความรับผิดชอบต่อหน้าที่"
แต่การทำงานก็จะเน้นความปลอดภัยเป็นหลักยึด
"เราจะไม่ไปสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง เซฟตัวเองกันสุดๆ ทุกคน มีเวรเช้าและเวรบ่าย หมดตอนเที่ยงคืน เราช่วยส่งเอกสาร ส่งอาหาร ดูความต้องการและอาการผ่านกล้อง โดยมีคุณหมอมาดูทุกวัน ขอเอาใจช่วยให้ผู้ป่วยทุกคนหายเป็นปกติ และอย่าให้ระบาดเป็นวงกว้างกว่านี้เลย ดูแลเซฟตัวเองกันด้วยการใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ล้างมือบ่อยๆ พกเจลแอลกอฮอล์ไว้ อยู่ห่างๆ กันก่อน และฉีดวัคซีนกันเยอะๆ" สองพยาบาลป้ายแดง กล่าว
ด้าน อาจารย์สุนิดา อรรถนุชิต อาจารย์ประจำคณะพยาบาลศาสตร์ ม.อ.ปัตตานี กล่าวว่า อาจารย์ทุกคนรู้สึกดีใจที่เห็นนักศึกษาพยาบาลจบใหม่มีจิตอาสาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ โดยไม่คำนึงถึงค่าจ้าง และนำหลักความรู้ทางสาขาพยาบาลมาช่วยพี่น้องในยามวิกฤติ โดยเฉพาะจังหวัดปัตตานีที่ยังขาดบุคลากรทางการแพทย์อีกมาก ขอส่งกำลังใจให้ทั้งหมดปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จดังตั้งใจ