น่าจะเป็นคำถาม “วงแตก” คำถามแรกของ “นายกฯหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ตั้งแต่รับตำแหน่งผู้นำประเทศ
เหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดป้อมตำรวจทางหลวงบ้านกะลาพอ ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 (ปัตตานี – นราธิวาส) ในท้องที่ หมู่ 1 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อคืนวันที่ 19 ก.ย.68 ที่ผ่านมา
ภาพเหตุการณ์ประท้วงครั้งรุนแรงที่เนปาล กลายเป็นข่าวช็อกโลก และช็อกความรู้สึกของผู้คน
วางบึ้มโรงงานไม้ยางพารา อ.รือเสาะ นราธิวาส ทำเพลิงไหม้รถฟอร์คลิฟท์ - ปิคอัพ เสียหายรวด 5 คัน พบคนร้ายใช้ระเบิดแสวงเครื่องผูกขวดน้ำมัน 2 ขวด ลอบวางบนรถก่อนจุดรีโมทสั่งระเบิดทำงาน ส่วนที่สายบุรี ปัตตานี ขับโชเล่ย์บอมบ์โจมตีป้อมตำรวจทางหลวงพังยับ แฉน้ำหนักระเบิดร่วมร้อยกิโลฯ
การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กำลังถูกจับตาถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องเผชิญในหลายมิติ
เรื่องราวของ “ขุนพลจากอีสาน” ที่มีโอกาสได้ลงพื้นที่ทำงานในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถูกพูดถึง 2 เรื่อง 2 กรณี ในห้วงเวลาใกล้เคียงกัน
ภาคต่อของสงครามชายแดนใต้ที่ อาจารย์สุรชาติ บำรุงสุข นิยามใหม่ว่าเป็น “สงครามหลายโดเมน”
ชายแดนใต้ระอุรับรัฐบาลใหม่ คนร้ายลอบวางระเบิด - ยิงซ้ำรถหุ้มเกราะทหารพรานสุไหงปาดี ขณะออกลาดตระเวนเส้นทาง บาดเจ็บ 4 นาย บึ้มสนั่นสาย 410 บันนังสตา โชคดีไม่มีใครได้รับอันตราย
สุดอุกอาจ! คนร้ายควบมอเตอร์ไซค์ปาไปป์บอมบ์ใส่ร้านมินิมาร์ท 2 แห่งในพื้นที่ธารโต ยะลา ตูมสนั่นทำกระจกและอุปกรณ์ในร้านเสียหาย โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 3,976 ตัวอย่าง จากในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จ.นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และ 4 อำเภอใน จ.สงขลา คือ อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ต่อนโยบาย “ปฏิบัติการ 120 วัน วาระพืชกระท่อม”