เมื่อเร็วๆ นี้ ระหว่างที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ ลงพื้นที่ จ.นราธิวาส เพื่อร่วมงานพิธีฉลองอายุวัฒนมงคล ครบ 87 ปี 66 พรรษา พระธรรมวัชรจริยาจารย์ หรือ “พ่อท่านอ่อน” ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 และเป็นเจ้าอาวาสวัดประชุมชลธารา ต.สุไหงปาดี อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส นั้น
ในวันดังกล่าวมีเหตุการณ์น่าประทับใจเกิดขึ้น เมื่อ นางประทุม นักทอง อายุ 57 ปี เหยื่อความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาขาดทั้งสองข้าง เพราะเหยียบกับระเบิดที่คนร้ายวางดักเอาไว้ ขณะเข้าไปกรีดยางในสวนยางพาราของตนเอง แต่นางประทุมไม่ยอมแพ้ รักษาตัวเองจนดีขึ้น และดำรงชีวิตเหมือนคนปกติ แม้ต้องสูญเสียขาทั้งสองข้าง
โดย นางประทุม ได้นั่งรถเข็นมาพร้อมกับครอบครัว เพื่อเข้าสวัสดีปีใหม่และขอพรจาก พ.ต.อ.ทวี ซึ่งก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ทวี ก็เคยไปเยี่ยม นางประทุม ถึงที่บ้าน และสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ไม่ทอดทิ้ง
ทันทีที่ นางประทุม ได้พบ พ.ต.อ.ทวี ก็ยิ้มอย่างดีใจ พร้อมกล่าวว่า “ดีใจมากที่ได้มีโอกาสมาสวัสดีปีใหม่ท่านรัฐมนตรี ( พ.ต.อ.ทวี) ดีใจที่ ท่านไม่เคยลืม ไม่ทอดทิ้ง ให้กำลังใจมาอย่างต่อเนื่อง ชีวิตตอนนี้ไม่มีอะไรมากใช้ชีวิตปกติ ทำทุกอย่างเองได้หมด สิ่งที่ประสบไม่ใช่ปัญหา ถ้าเรามองว่ามันไม่ใช่ปัญหา”
“การใช้ชีวิตทุกอย่างปกติ ไม่รู้สึกกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเราไม่มีอะไร ชาวบ้านในพื้นที่ก็ไม่มีอะไร เราอยู่กันอย่างปกติ และถ้าเป็นไปได้อยากให้สงบตลอดไป”
สำหรับ นางประทุม นักทอง อายุ 57 ปี เป็นชาวบ้านโคกโก ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี ต้องเสียขาจากเหตุการณ์เหยียบกับระเบิดแสวงเครื่อง ขณะเดินเข้าไปกรีดยางในสวนยางพาราของตนเอง ช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ 15 ส.ค.2565
ต่อมา เจ้าหน้าที่และชุดอีโอดี (ชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด) ได้เข้าไปตรวจที่เกิดเหตุ และพลาดเหยียบกับระเบิดซ้ำอีกลูก ทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บอีกถึง 11 นาย เป็นตำรวจและทหารพราน ถือเป็นโศกนาฏกรรมอีกครั้งหนึ่งที่ผู้ก่อเหตุรุนแรง กระทำต่อผู้บริสุทธิ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในลักษณะของการลอบโจมตี ลอบทำร้าย ทำให้ฝ่ายที่ถูกกระทำไม่มีโอกาสแม้แต่จะต่อสู้ หรือระมัดระวังตนเอง
อ่านประกอบ : บึ้มในสวนยาง หญิงวัย 55 ปีสาหัส
อ่านประกอบ : บึ้มสุไหงปาดีวางระเบิดซ้อน 3 ลูก! ตาย-เจ็บเพียบ
การก่อเหตุด้วยการลอบวางระเบิดแบบ “กับระเบิด” เกิดขึ้นมาตั้งแต่ในช่วงต้นๆ ของเหตุการณ์ไฟใต้ โดยกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจะเน้นใช้การลอบวางระเบิดรูปแบบนี้ เพื่อมุ่งเน้นสังหารเจ้าหน้าที่ในลักษณะระเบิดซ้ำ (second bomb) คือก่อเหตุระเบิดโจมตีเป้าหมายแล้ว เช่น เสาไฟฟ้า ก็นำ “กับระเบิด” มาวางไว้บริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ เพื่อลวงเจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพลาดไปเหยียบ
แต่ก็มีหลายครั้งเช่นกันที่วางกับระเบิดไว้ในสวนยางพารา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของพี่น้องไทยพุทธ เพื่อทำร้ายและกดดันให้ออกจากพื้นที่ หรือไม่ก็เข้าครอบครองสวนยาง สวนผลไม้ เพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตแทนเจ้าของสวนตัวจริงที่อาจต้องอพยพออกจากพื้นที่ไป
การลอบวางระเบิด โดยใช้ “กับระเบิด” ในสวนยางพารา หรือสวนผลไม้ เริ่มเกิดขึ้นบ่อยครั้งตั้งแต่ปี 2552 โดย “ทีมข่าวอิศรา” เคยรวมรวมข้อมูลเหตุการณ์เอาไว้ นับเฉพาะผู้เสียหายที่เป็นประชาชน ชาวบ้านทั่วไป ไม่รวมเจ้าหน้าที่ มีระเบิดเกิดขึ้นทั้งหมดถึง 42 เหตุการณ์ มีผู้เสียชีวิตรวม 3 ราย บาดเจ็บรวม 34 ราย เหยื่อถ้าไม่เสียชีวิตก็ขาขาด หรือบาดเจ็บสาหัส
จากสถิติที่ตรวจสอบย้อนหลังพบว่า วันที่ 25 ต.ค.2553 ถือว่าเป็นวันที่มีเหตุลอบวาง “กับระเบิด” ในสวนยางพารามากที่สุด วันเดียวถึง 9 เหตุการณ์ ในพื้นที่ 7 อำเภอของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีผู้บาดเจ็บรวมทั้งหมด 13 ราย
อ่านประกอบ : บึ้มสวนยางซ้ำๆ กับชะตากรรมชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ชายแดนใต้
สำหรับ นางประทุม นักทอง หรือ “ป้านิ่ม” เป็นหนึ่งในเหยื่อระเบิดที่ไม่ยอมพ่ายแพ้กับความรุนแรง หลังออกจากโรงพยาบาล กลับไปพักฟื้นที่บ้าน “ป้านิ่ม” พยายามกลับมาใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ ไม่ยอมเป็นคนพิการ เพื่อไม่ให้ลำบากคนในครอบครัว และ พ.ต.อ.ทวี เคยไปเยี่ยมถึงที่บ้าน
ครั้งนั้น “ป้านิ่ม” บอกกับ พ.ต.อ.ทวี เอาไว้แบบนี้
“ป้าไปซื้อกับข้าวเอง เวลาไปก็จะนั่งรถเข็นสามล้อไฟฟ้า อยู่ในบ้านก็จะนั่งรถเข็น ใช้ชีวิตประจำวันบนรถเข็นตลอด ครอบครัวได้ปรับพื้นบ้านและอุปกรณ์ทุกอย่างในบ้านให้เหมาะกับการนั่งรถเข็น ป้าก็จะพยายามหาอุปกรณ์หรือตัวช่วยพิเศษเพื่อให้สามารถช่วยตัวเองได้ ทำอะไรเองได้หมด เช่น เวลาจะเปิดน้ำ ก็จะมีท่อพีวีซียาวๆ ไว้ใช้ดันหัวก๊อกน้ำ เพื่อเปิดก๊อก น้ำก็จะไหล ก็สามารถล้างจานเองได้ ในห้องครัวจะปรับเตาแก๊สให้ทำกับข้าวสะดวกขึ้น ทำอะไรเองได้หมดทุกอย่าง”
ถือเป็นกรณีตัวอย่างของเหยื่อความรุนแรงที่ไม่ยอมพ่ายแพ้กับความรุนแรง...
อ่านประกอบ : เสียขา..แต่เข้มแข็ง “ป้านิ่ม” เหยื่อกับระเบิด ”ปาดี”