สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 9 เผยมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูล “เศรษฐ์ อัลยุฟรี” นายก อบจ.ปัตตานี กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ นำรถหลวงไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว จัดทัวร์ท่องเที่ยว
สำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 9 ได้เผยแพร่เอกสารข่าว เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลเรื่องกล่าวหาที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด โดยผู้ถูกกล่าวหา คือ นายเศรษฐ์ อัลยุฟรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี (อบจ.ปัตตานี)
โดยข้อกล่าวหา คือ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีนำรถส่วนกลางของทางราชการไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว ใช้ในการเดินทางท่องเที่ยว ช่วงปี พ.ศ.2560 และใช้รถส่วนกลางเป็นรถประจำตำแหน่ง ตามมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ข้อ 47 (3)
@@ นำรถหลวงจอดบ้าน อ้าง อบจ.ไม่ปลอดภัย
เอกสารระบุพฤติการณ์ในการกระทำความผิดว่า ในช่วงปีงบประมาณ 2560 นายเศรษฐ์ ได้มีการเขียนใบขออนุญาตใช้รถส่วนกลาง แบบ 3 ฉบับ ลงวันที่ 29 กันยายน 2560 และอนุมัติให้ใช้รถยนต์ส่วนกลาง หมายเลขทะเบียน กข 6969 ปัตตานี เพื่อใช้ในราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2561
มอบหมายให้ นายประดิษฐ์ มามะ พนักงานขับรถยนต์ เป็นผู้ขับรถยนต์ ระบุหมายเหตุ "ขอนำรถยนต์หมายเลขทะเบียน กข 6969 ปัตตานี เก็บรักษาไว้ที่บ้านเลขที่...หมู่ที่ 1 ตำบลยามู อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี เนื่องจากไม่มีสถานที่เก็บรักษารถยนต์ที่ปลอดภัย" ซึ่งบ้านดังกล่าวเป็นบ้านของนายเศรษฐ์ อัลยุฟรี ทั้งที่ในความเป็นจริง อบจ.ปัตตานี มีสถานที่ในการเก็บรักษารถที่มีความปลอดภัย
@@ อนุมัติใช้รถหลวงพา จนท.-ญาติ เที่ยวส่วนตัว
ต่อมาในระหว่างวันที่ 23-30 ธันวาคม 2560 นายเศรษฐ์ได้มีการจัดกิจกรรมท่องเที่ยว
pattani rally 2017 โดยเดินทางจากจังหวัดปัตตานี ไปยังจังหวัดราชบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดเพชรบุรี เป็นต้น ซึ่งคณะเดินทางประกอบไปด้วยนายเศรษฐ์, เจ้าหน้าที่ อบจ.ปัตตานี และเครือญาติของนายเศรษฐ์ ประมาณ 20 คน
ในการเดินทางดังกล่าว นายเศรษฐ์ เป็นผู้กำหนดแผนการเดินทางเองทั้งหมด มีการนำรถยนต์ส่วนกลางขอ อบจ.ปัตตานี ไปจำนวน 2 คัน คือ คันหมายเลขทะเบียน กข 5500 ปัตตานี และ กข 6969 ปัตตานี ในการเดินทางไปท่องเที่ยวดังกล่าว ไม่เกี่ยวข้องกับงานราชการแต่อย่างใด เป็นการเดินทางไปท่องเที่ยวในเรื่องส่วนตัว
โดยนายเศรษฐ์ เป็นผู้อนุญาตให้ขับและให้ใช้รถดังกล่าวในการเดินทางไปท่องเที่ยว ปกติไม่มีเจ้าหน้าที่ของ อบจ.ปัตตานีใช้รถทั้ง 2 คันดังกล่าว เนื่องจากรถทั้ง 2 คันป็นรถที่ใช้สำหรับนายกฯ และรองนายกฯ ในการปฏิบัติหน้าที่ เสมือนดังเช่นรถประจำตำแหน่ง เจ้าหน้าที่จึงไม่กล้าที่จะขอใช้
@@ ใช้รถหลวงเสมือนรถประจำตำแหน่ง
กล่าวคือ นายเศรษฐ์ ใช้รถคันหมายเลขทะเบียบ กข 6969 ปัตตานี มาตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2555 จนถึงปี พ.ศ. 2564 โดยนายเศรษฐ์ได้ใช้รถในการเดินทางมาทำงานทุกวัน รวมถึงในการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจต่างๆ โดยรถคันดังกล่าวได้มีการจอดในช่วงเวลากลางคืนที่บ้านพักส่วนตัวของนายเศรษฐ์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ไม่ได้จอดที่โรงจอดรถของ อบจ. โดย นายประดิษฐ์ มามะ จะมาเป็นคนขับรถรับส่งนายเศรษฐ์ ทุกวัน
ดังนั้น จากพฤติการณ์ดังกล่าวของนายเศรษฐ์ ในฐานะนายก อบจ.ปัตตานี ได้ทำบันทึกขอใช้รถและบันทึกขออนุญาตใช้รถส่วนกลางของ อบจ.ประจำปีงบประมาณ 2560 โดยเป็นการขอใช้ระยะเวลายาว 1 ปีงบประมาณ เป็นการใช้เสมือนรถประจำตำแหน่ง ไม่ได้ระบุรายละเอียดในการขอใช้สมบูรณ์ตามแบบที่กำหนด ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการใช้และรักษารถยนต์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 11
อีกทั้งนายเศรษฐ์ ยังมีพฤติการณ์การใช้รถส่วนกลาง อบจ.ปัตตานี ในการเดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงเดือนธันวาคม 2560 โดยมิได้เกี่ยวข้องกับงานราชการ และเป็นการเดินทางไปท่องเที่ยวในเรื่องส่วนตัว โดยมีการอนุมัติ อนุญาตให้ใช้รถส่วนกลาง ตลอดจนอนุมัติให้มีการเบิกจ่ายเงินค่าน้ำมัน อันเป็นการกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามที่มีการกล่าวหาร้องเรียน
@@ มติ ป.ป.ช.เอกฉันท์ส่งอัยการฟ้อง - แจ้งผู้บังคับบัญชาลงโทษ
มติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาในการประชุม ครั้งที่ 126/2566 เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 แล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 5 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ใต่สวนเบื้องต้นว่าการกระทำของนายเศรษฐ์ มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย
ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาล หรือเจ้าของทรัพย์นั้น
และฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 91 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่
หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 129/1
ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
มติ ป.ป.ช.ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และส่งสำนวนการไต่สวนและเอกสารหลักฐาน พร้อมความเห็นไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อพิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจกับนายเศรษฐ์ อัลยุฟรี ตามฐานความผิดดังกล่าว
ทั้งนี้ ให้แจ้งผู้บังคับบัญชาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหายต่อไป ตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ และให้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบด้วย
ท้ายเอกสารข่าวสำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 9 ระบุข้อความว่า การขี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด