6 วันสุดท้ายก่อนสิ้นเดือน พ.ค. ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่นราธิวาสเพิ่มขึ้นถึง 3 ราย โดยทั้งหมดเป็นนักศึกษาไทยที่เดินทางกลับจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ทำให้ยอดผู้ป่วยไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ของนราธิวาสพุ่งขึ้นเป็น 43 ราย
ก่อนจะเข้าสู่ 6 วันสุดท้ายของเดือน พ.ค. (ระหว่างวันที่ 25 ถึง 31 พ.ค.) จ.นราธิวาสมีผู้ป่วยโควิดอยู่ที่ 40 ราย ต่ำที่สุดในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยผู้ป่วยรายที่ 35 ถึง 40 รวม 6 รายล้วนมีภูมิลำเนาอยู่ใน อ.แว้ง และมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันจนต้องมีการสั่งปิดบางตำบล (อ่านประกอบ : "แว้ง"ลามไม่หยุด ติดโควิดเพิ่มอีก 2 - ปัตตานีส่งผู้ป่วยรายสุดท้ายกลับบ้าน)
ต่อมาเมื่อเข้าสู่ช่วง 6 วันสุดท้ายของเดือน พ.ค. ปรากฏว่านราธิวาสมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 3 ราย ทั้งหมดเป็นนักศึกษาที่เดินทางกลับจากประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยแวะลงเครื่องที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย จากนั้นเดินทางข้ามแดนผ่านทางด่านพรมแดนทางบก ด่านปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 25 พ.ค. จำนวนทั้งหมด 39 ราย และพบผู้ติดเชื้อเบื้องต้น 6 ราย หนึ่งในนั้นเป็นชาว จ.นราธิวาส และกลายเป็นผู้ป่วยลำดับที่ 41 (อ่านประกอบ :2 ใน 5 นศ.ไทยจากซาอุฯติดโควิด มีภูมิลำเนาปัตตานี-ยะลา)
นอกจากนั้นยังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมจากสถานที่กักกันตัว หรือ Local Quarantine เพิ่มขึ้นอีก 2 ราย ระหว่างวันที่ 30-31 พ.ค. โดยทั้งคู่เป็นนักศึกษาไทยที่กลับจากซาอุดิอาระเบียเช่นกัน และนับเป็นผู้ป่วยรายที่ 42 กับ 43 ของจังหวัด
ผู้ป่วยรายที่ 42 เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยอัล-ญูฟ ซาอุดีอาระเบีย อายุ 26 ปี เดินทางกลับจากประเทศซาอุดีอาระเบียเข้าประเทศไทยทางด่านปาดังเบซาร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยรถบัส ถึงประเทศไทยวันที่ 25 พ.ค. เวลา 08.00 น. (กลุ่มเดียวกับที่พบเชื้อเบื้องต้นขณะข้ามแดน) ก่อนจะเข้ากักตัวที่ศูนย์กักกัน ภายในอาคารการกีฬาและการท่องเที่ยวจังหวัดนราธิวาส เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ผลไม่พบเชื้อ ต่อมาเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ชายคนนี้เริ่มมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ หายใจลำบาก เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ผลปรากฏว่าพบเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส
มีรายงานว่าผู้ป่วยรายนี้กักตัวอยู่ภายในห้องเดี่ยวเพียงลำพัง จึงไม่สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ทำการดูแลผู้ป่วย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส ได้มีการป้องกันตัวเองด้วยการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (Personal Protection Equipment) หรือ PPE และปฏิบัติตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ทำให้คาดการณ์ว่าบุคลากรทางการแพทย์จะไม่ติดเชื้อโควิด-19 จากการสัมผัสผู้ป่วยรายที่ 42
สำหรับผู้ป่วยรายที่ 43 เพิ่งได้รับการประกาศจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือ ศบค. ในวันอาทิตย์ที่ 31 พ.ค. เป็นนักศึกษาเพศชาย อายุ 22 ปี จากเมืองอับฮา เดินทางจากกรุงริยาด ลงเครื่องที่กัวลาลัมเปอร์ แล้วเดินทางเข้าไทยทางด่านปาดังเบซาร์เช่นกัน จากนั้นเข้าพักที่สถานที่กักกันในจ.นราธิวาส ตรวจครั้งแรกไม่พบเชื้อ ตรวจซ้ำวันที่ 29 พ.ค. พบเชื้อ จึงส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลกัลยาณิวัฒนาการุณย์
เป็นที่น่าสังเกตว่า ยอดผู้ป่วยโควิด-19 ของนราธิวาสทั้งหมด 43 รายนั้น เป็นผู้ป่วยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ และตรวจพบเชื้อระหว่างถูกกักกันตัวอยู่ในสถานที่กักกัน หรือ Local Quarantine มากถึง 15 ราย ประกอบด้วย นักศึกษาที่เดินทางกลับจากประเทศปากีสถาน 6 ราย กลุ่มที่เดินทางกลับจากอินโดนีเซีย 5 ราย มาเลเซีย 1 ราย และนักศึกษาที่กลับจากซาอุดิอาระเบียอีก 3 ราย