อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงของ “นักการเมืองชายแดนใต้” ที่สร้างกระแสฮือฮาไม่น้อย ก็คือ “หมอเพชรดาว โต๊ะมีนา” ซึ่งข่าวล่าสุดโบกมือลาพรรคภูมิใจไทย ไปเข้าชายคาพรรคกล้าธรรม
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ข่าว แต่ หมอเพชรดาว ไปเปิดตัวกับพรรคกล้าธรรมเรียบร้อย โดยมี “ผู้กองธรรมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ซึ่งทราบกันดีว่าคือ “หัวหน้าพรรคตัวจริง” เป็นสักขีพยานด้วยตัวเอง
หมอเพชรดาว เคยเป็นอดีต สส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคภูมิใจไทย จากการเลือกตั้งปี 66 และเป็นผู้สมัคร สส.ปัตตานีเขต 1 ของพรรคภูมิใจไทยเช่นกัน ในการเลือกตั้งปี 66 แต่พ่ายแพ้ให้กับพรรคประชาชาติ ทว่าเจ้าตัวก็ยังได้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ศุภมาส อิศรภักดี เป็นรัฐมนตรี)
ก่อนยุบสภา หมอเพชรดาว แสดงเจตนาสู้ศึกเลือกตั้งในระบบเขตต่อไป โดยต้องการลงสมัคร สส.เขต 1 ปัตตานี เพื่อแก้มือที่พ่ายแพ้ครั้งที่แล้ว (แพ้ให้กับ ผศ.วรวิทย์ บารู จากพรรคประชาชาติ) เนื่องจากคะแนนห่างกันไม่ถึง 2,000 คะแนน
แต่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ แม่ทัพภาคใต้ของภูมิใจไทย เปิดตัว “กำนันบาฮา” นายบาฮารุดดีน ยูโซะ เป็นว่าที่ผู้สมัคร สส.ปัตตานี เขต 1 ของพรรคภูมิใจไทย ตั้งแต่กลางเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ หมอเพชรดาว ออกมาร้องขอความเป็นธรรมผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนอง
อ่านประกอบ : ค่ายน้ำเงินวุ่น! เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.ปัตตานี ข้ามหน้า “หมอเพชรดาว”
ล่าสุด 18 ธ.ค.เธอจึงไปปรากฏตัวที่พรรคกล้าธรรม...
กิจกรรมในวันที่ หมอเพชรดาว ไปปรากฏตัว คือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมด้วย นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคกล้าธรรม ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเปิดครบหมดทั้ง 3 จังหวัด กล่าวคือ
จ.นราธิวาส ประกอบด้วย นายลุตฟี หะยีอีแต เขต 1, นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ (รมช.เกษตรและสหกรณ์ อดีต สส.) เขต 2, นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ (อดีต สส.) เขต 3 และ นายกอเซ็ง แซมะซู เขต 5
จ.ปัตตานี ได้แก่ แพทย์หญิงเพชรดาว โต๊ะมีนา เขต 1, นายอับดุลบาซิม อาบู เขต 2, นายมะรูดิง ยาโงะ เขต 3, นายยูนัยดี วาบา เขต 4 และ นายสนิท นาแว เขต 5
จ.ยะลา ได้แก่ นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ เขต 1, นายอับดุลฮาฟิซ หิเล เขต 2 และ นายมูฮำหมัดสุกรี บุงา เขต 3
@@ อดีตแกนนำวาดะห์ตบเท้าเข้าบ้าน “ผู้กอง”
นอกจากนั้น ยังมีแกนนำกลุ่มวาดะห์ ซึ่งเป็นกลุ่มการเมืองที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในอดีต ทั้ง นายมุข สุไลมาน อดีตเลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร (นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา) นายมานิต อุตรสินธุ์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลปะรุลู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นน้องชายของ นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ รวมถึง นายนัจมุจดีน อูมา อดีตสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ร่วมปรากฏตัวที่พรรคกล้าธรรมด้วย โดยบางคนได้รับการวางตัวให้ลงสมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ
ขณะที่ นายสัมพันธ์ นายอามินทร์ สองพี่น้องอดีต สส.นราธิวาส และนายนัจมุจดีน ได้รับมอบหมายให้ร่วมกันดูแลพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง และพื้นที่บางจังหวัดที่มีโหวตเตอร์ชาวมุสลิมเป็นหลัก
โอกาสนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยังได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.สงขลา อาทิ นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว หรือ สส.กฤต ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีพนันออนไลน์, นายวงศ์วชร ขาวทอง นายบารมี ขาวทอง ลูกชาย 2 คนของ นายเดชอิศม์ ขาวทอง หรือ “นายกชาย” อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ด้วย
โดยในกิจกรรมที่พรรคกล้าธรรม นางสาวกฤตพร คงเคว็จ ภรรยาของนายชนนพัฒฐ์ ก็มาปรากฏตัว แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะลงสมัคร สส.ด้วยหรือไม่
@@ หมอเพชรดาว หวัง “กล้าธรรม” กล้าสร้างสันติภาพดับไฟใต้
แพทย์หญิงเพชรดาว กล่าวถึงการตัดสินใจร่วมงานกับพรรคกล้าธรรม ว่า ปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเรื่องสำคัญ และหวังว่าพรรคกล้าธรรมจะมีนโยบายแก้ไขปัญหาในพื้นที่ให้เกิด “สันติภาพที่กินได้”
ส่วนเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จะลดลงหรือไม่นั้น แพทย์หญิงเพชรดาว กล่าวว่า ไม่สามารถบอกได้ทันที แต่นโยบายที่เสนอให้กับคน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะต้องมาจากคนในพื้นที่ และการลดความรุนแรงเป็นสิ่งที่คนในพื้นที่อยากได้ และอยากได้สันติภาพเชิงบวก โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง
@@ ลูกสาว “เด่น โต๊ะมีนา” สร้างชื่อจาก ผอ.ศูนย์สุขภาพจิต
อนึ่ง สำหรับ หมอเพชรดาว เป็นที่รู้จักในพื้นที่ชายแดนใต้ เนื่องจากเป็นลูกสาวของ นายเด่น โต๊ะมีนา อดีต สส.กลุ่มวาดะห์หลายสมัย อดีต รมช.มหาดไทย และอดีต สว.ปัตตานี ซึ่งถือเป็นนักการเมืองที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงในพื้นที่ ใกล้เคียงกับ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาคนล่าสุด
โดย หมอเพชรดาว เคยรับราชการในกระทรวงสาธารณสุข เคยเป็นผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพจิตที่ 12 รับผิดชอบพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง และเคยเป็นอดีตผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพจิตที่ 15 รับผิดชอบพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
ส่วนในเส้นทางการเมือง หมอเพชรดาว เคยลงสมัคร สส.กับพรรคความหวังใหม่ พรรคเดียวกับบิดา แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง และยังเคยลงสมัครรับเลือกตั้ง สว.อีก 2 ครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ โดยเธอได้เป็น สส.ครั้งแรก และครั้งเดียวนับจนถึงขณะนี้ คือ เป็น สส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคภูมิใจไทย
