
ตำรวจนราธิวาสขออนุมัติศาลออกหมายจับแก๊งปล้นทองห้างบิ๊กซี สุไหงโก-ลก เพิ่มอีก 5 ราย หลัง 2 รายแรกที่ถูกจับกุมสารภาพสิ้น แถมซัดทอดผู้ร่วมขบวนการ ตรวจประวัติทั้งหมดพบหมายจับคดีความมั่นคงติดตัวเพียบ คาดอยู่ระหว่างหลบหนี
ความคืบหน้ากรณีกลุ่มคนร้ายแต่งกายชุดดำพร้อมอาวุธสงครามครบมือ ใช้รถยนต์กระบะ 2 คันที่ปล้นจากชาวบ้านในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เป็นพาหนะบุกปล้นร้านทอง “เยาวราชกรุงเทพ” ซึ่งตั้งอยู่ภายในห้างบิ๊กซี สาขาสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส กวาดทองรุปพรรณไปได้รวม 540 บาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ต.ค.68 หลังก่อเหตุ คนร้ายบางส่วนได้หลบหนีข้ามแดน ขณะที่บางส่วนซึ่งรู้เห็นปฏิบัติการปล้นสะท้านเมือง ยังคงกบดานอยู่ในไทย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ นำไปตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมเชิญพยานบุคคลมาให้ปากคำ และได้ขออนุมัติศาลจังหวัดนราธิวาส ออกหมายจับและจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย เมื่อวันที่ 9 ต.ค.68 ที่ผ่านมา คือ นายบักรีย์ สมะแอ และ นายมูฮำหมัดนาซาอี เจ๊ะยอ
โดยบุคคลทั้งสองยอมรับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก เมื่อวันที่ 8 มี.ค.68 และบุกโจมตีฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลเกียร์ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.68 ซึ่งส่วนใหญ่จะทำหน้าที่ดูต้นทางและขับยานพาหนะพากลุ่มคนร้ายหลบหนีนั้น

ล่าสุด วันอังคารที่ 4 พ.ย.68 หลังผ่านคดีปล้นร้านทองมาครบ 1 เดือนเต็ม ปรากฏว่าผู้ต้องหาทั้งสองคนที่ถูกจับกุมล็อตแรก ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ทั้งยังได้ให้การซัดทอดถึงกลุ่มขบวนการที่ร่วมกันบุกปล้นร้านทองเยาวราชกรุงเทพ จนทำให้เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดี สามารถตรวจยึดรถยนต์ได้อีก 2 คัน คือ รถตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว และรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า สีครีม พร้อมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดนราธิวาส ออกหมายจับบุคคลที่ร่วมก่อเหตุเพิ่มเติมอีก 5 คน คือ
1. นายอาซมิน สะแลแม อายุ 34 ปี ภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี มีหมายจับคดีความมั่นคง 2 หมาย
2. นายตอเย็บ แมทาลง อายุ 32 ปี ภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี มีหมายจับคดีความมั่นคง 3 หมาย
3. นายมูสอผา เจ๊ะเด็ง อายุ 36 ปี ภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส มีหมายจับคดีความมั่นคง 4 หมาย
4. นายซิ มะแซ อายุ 44 ปี ภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ อ. อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส มีหมายจับคดีความมั่นคง 8 หมาย
5. นายมันโซ ปูเต๊ะ อายุ 31 ปี ภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี มีหมายจับคดีความมั่นคง 4 หมาย
ทั้ง 5 คน มีประวัติโชกโชน ก่อคดีความมั่นคงมาคตนละหลายคดี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า ทั้งหมดอยู่ระหว่างการหลบหนี และบางส่วยน่าจะเคลื่อนไหวอยู่บนเทือกเขาเขตรอยต่อ 3 อำเภอ คือ อ.สุไหงปาดี, อ.แว้ง และ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส
ส่วนกลุ่มคนร้ายที่เหลือ เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งสืบสวนสอบสวน และเก็บรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาล ออกหมายจับเพิ่มเติมต่อไป
