เอกสารว่อน! ผบช.ภ.9 เซ็นคำสั่งเด้ง “ผู้การนราธิวาส” ช่วยราชการ ศปก.ตร.ส่วนหน้า อ้างเหตุคุมพื้นที่รับผิดชอบไม่ได้ ปล่อยชาวบ้านและกำลังพลถูกกระทำสูญเสียต่อเนื่อง-ซ้ำซ้อน หวั่นประชาชนขาดความเชื่อมั่นตำรวจ พร้อมลงนามตั้งรอง ผบช.ภ.9 - รองผู้การปัตตานี โยกมารักษาการแทน
วันพฤหัสบดีที่ 24 ก.ค.68 พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 / รองผู้บัญชาการฯ ปฏิบัติราชการแทนผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน.) ลงนามในคำสั่งศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า ที่ 109/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจช่วยราชการและรักษาการแทน
รายละเอียดในคำสั่งระบุว่า เนื่องด้วยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา มีการก่อเหตุความไม่สงบเกิดขึ้น ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ /ตำรวจภูธรภาค 9 ได้วางนโยบายและแนวทางปฏิบัติ ประชุมกำชับและแจ้งเตือนให้หัวหน้าหน่วยระดับบังคับการจนถึงหัวหน้าสถานีตำรวจลงไปควบคุมกำกับดูแลการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด เพื่อมิให้หน่วยถูกกระทำต่อฝ่ายตรงข้ามและเกิดความสูญเสียกำลังพลขึ้น
แต่ปรากฎว่าในห้วงระยะเวลาที่ผ่านมามีการก่อเหตุให้เกิดการสูญเสียขึ้นในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสอย่างต่อเนื่อง และซ้ำซ้อนกันหลายพื้นที่ เป็นเหตุให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนข้าราชการตำรวจได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต รวมถึงทรัพย์สินของทางราชการได้รับความเสียหาย ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความหวาดกลัว ขาดความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ข้าราชการตำรวจ และครอบครัวขาดขวัญกำลังใจ
เพื่อให้การบริหารราชการ การป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และการควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบของตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพเป็นรูปธรรมมากขึ้น จึงให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการและรักษาการแทน จำนวน 3 ราย ดังนี้
1.พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ให้ไปช่วยราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า โดยให้ขาดจากต้นสังกัด และให้ดำเนินการส่งมอบหน้าที่และสิ่งของหลวงต่างๆ ให้เป็นไปตามระเบียบ
2.พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 /รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า ให้มารักษาราชการแทน ในตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส อีกหนึ่งหน้าที่
3.พ.ต.อ.ประยงค์ โคตรสาขา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ให้มาช่วยราชการที่ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส อีกหน้าที่หนึ่ง
โดยคำสั่งมีผลตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.68 ถึงวันที่ 30 ก.ย.68 หรือจนกว่าผู้ดำรงตำแหน่งกลับไปปฏิบัติหน้าที่หรือมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง และคำสั่งใดที่ขัดหรือแย้งกับคำสั่งนี้ให้ใช้คำสั่งนี้แทน
@@ ผบช.ภ.9 ลั่น โดนหนักจึงต้องย้าย มิฉะนั้นใครจะเชื่อถือ
พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ให้สัมภาษณ์ “ทีมข่าวอิศรา” ถึงเอกสารเด้งผู้การนราธิาสที่แชร์กันว่อนในสื่อสังคมออนไลน์ว่า คำสั่งที่ออกมาเป็นของจริง และจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่มีความรุนแรงและเกิดขึ้นบ่อยครั้ง หากไม่มีการปรับเปลี่ยนมาตรการ ประชาชนจะขาดความเชื่อถือในเจ้าหน้าที่รัฐ
"มันค่อนข้างหนักนิดหนึ่ง ถ้าเราไม่ปรับ โดนบ่อยๆ ประชาชนจะขาดความเชื่อถือ" พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ ระบุ
พร้อมยกตัวอย่างเหตุการณ์โจมตีหน่วยในพื้นที่ต่างๆ เช่น อ.จะแนะ และ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งแม้จะถูกโจมตีได้ แต่ต้องมีมาตรการป้องกันและตอบโต้ที่ชัดเจน
"ถ้าเอาไม่อยู่ ตำรวจก็เสีย ชาวบ้านก็ไม่เชื่อใจเรา มันต้องมีมาตรการ 1, 2, 3 ถ้าไม่ทำอะไรเลย อย่างนี้มันไม่ได้ ประชาชนมองเราอยู่ เจ้าหน้าที่รัฐโดนกันบ่อยแล้วประชาชนไหนจะเชื่อถือเรา"
พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ ย้ำว่า นี่คือมาตรการของตำรวจภูธรภาค 9 ที่ถูกนำมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาที่เรื้อรังมานานหลายยุคหลายสมัย เพื่อเรียกคืนความเชื่อมั่นจากประชาชน และแสดงให้เห็นถึงความจริงจังของเจ้าหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่
