คนร้ายรัวยิง “รองสารวัตร” กลุ่มงานสอบสวน ตำรวจภูธรนราธิวาส เสียชีวิตในพื้นที่สุไหงปาดี หลังปลิดชีพยังวางเพลิงเผารถวอดทั้งคัน เจ้าหน้าที่รุดตรวจสอบ นำร่างผู้ตายออกจากจุดเกิดเหตุ ถูกวางระเบิดซ้ำระหว่างทาง บาดเจ็บอีก 2 ราย
เหตุการณ์อุกอาจ คนร้ายดักยิงตำรวจ แล้วเผารถซ้ำ เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันพุธที่ 9 เม.ย.68 โดยเมื่อเวลา 18.58 น. ตำรวจ สภ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายยิงและเผารถยนต์ บริเวณบ้านบาตูบือแน บ้านย่อยของบ้านโผลง ท้องที่หมู่ 5 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.มะตาฮา มูหนะ ผู้กำกับการ สภ.สุไหงปาดี พร้อมหน่วยทหารในพื้นที่
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบเพลิงกำลังลุกไหม้รถยนต์เก๋ง ป้ายทะเบียน กธ 3852 เลย จึงประสานเจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัยให้ส่งรถดับเพลิงเข้าไปฉีดน้ำสกัดเพลิง ใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงดับไฟที่ลุกไหม้ได้ สภาพรถวอดเกือบทั้งคัน
ห่างจากรถที่ถูกเพลิงไหม้ 20 เมตร พบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ ร.ต.อ.อำมฤต อัปมระกา รองสารวัตรสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส มีบาดแผนถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบชนิดและขนาดตามร่างกายหลายแห่ง เจ้าหน้าที่จึงนำศพส่งโรงพยาบาลสุไหงปาดี เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรตามกฎหมาย
จากการสอบถาม นายสุกรี ยาการียา ผู้ใหญ่บ้านบ้านโผลง พื้นที่เกิดเหตุ เล่าว่า ตนได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีเหตุวางเพลิงรถยนต์ บริเวณ บ้านบาตูบือแน จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ทหาร และร่วมกันเข้าจุดเกิดเหตุเบื้องต้น พบว่าตรงจุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่ป่า มีรถยนต์ถูกเผาได้รับความเสียหาย ห่างจากรถไปไม่ไกลนักก็พบศพ ร.ต.อ.อำมฤต คาดว่าเป็นเจ้าของรถ ถูกยิงเสียชีวิตอยู่แล้ว หลังจากนั้นตำรวจ สภ.สุไหงปาดี ก็ได้เข้ามาถึงจุดเกิดเหตุ และเคลียร์พื้นที่ทั้งหมด
ต่อมาในช่วงกลางคืน ขณะเคลื่อนย้ายศพ ร.ต.อ.อำมฤต ไปโรงพยาบาล โดยใช้รูปขบวนรถตามยุทธวิธี มีเสียงระเบิดดังขึ้นระหว่างทาง ในพื้นที่บ้านลาแลลูวัส หมู่ 7 ต.ริโก๋ อ.สุไหงปาดี แรงระเบิดทำให้รถกระบะของผู้ที่สัญจรผ่านไปมาได้รับความเสียหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ถูกนำส่งโรงพยาบาล ทราบชื่อ คือ
1.พ.จ.อ.ทนงศักดิ์ สว่างวารี อายุ 41 ปี สังกัดหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 41 สังกัดหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย
2.นายวารี สมัตถนาค อายุ 36 ปี ชาว อ.ตากใบ จ.นราธิวาส
ส่วนประเด็นและสาเหตุของทั้งสองเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบแบบต่อเนื่องของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง
