การลงพื้นที่ชายแดนใต้ น่าจะในรอบ 20 ปีของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ได้รับความสนใจจากหลายฝ่ายอย่างมาก
สาเหตุเป็นเพราะ...
1.อดีตนายกฯ ถูกมองเป็นจำเลยในปัญหาไฟใต้ เนื่องจากไฟใต้ปะทุและคุโชนขึ้นในรัฐบาลไทยรักไทย ซึ่งมีตัวเขาเป็นผู้นำ จากเหตุการณ์ปล้นปืน เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547
2.มีการมองกันว่า สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของอดีตนายกฯทักษิณ ทั้งการยุบหน่วยงานพิเศษที่รับผิดชอบพื้นที่อยู่ในขณะนั้น ทั้ง ศอ.บต. หรือ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ พตท.43 หรือ กองบัญชาการผสม พลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่ 43
3.มีการไปเรียกกลุ่มที่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐด้วยการก่อเหตุรุนแรง ว่า “โจรกระจอก” ทำให้สถานการณ์ยิ่งบานปลาย
4.มีเหตุการณ์ที่่ก่อความสูญเสียขนาดใหญ่เกิดขึ้น จากการกระทำของฝ่ายรัฐ คือ เหตุการณ์กรือเซะ มีผู้เสียชีวิต 108 รายในคราวเดียว มากที่สุดตลอด 21 ปีไฟใต้
และ เหตุการณ์ตากใบ เสียชีวิต 78 ศพ ซึ่งผลสุดท้ายคดีตากใบก็ขาดอายุความด้วย ไม่สามารถนำตัวเจ้าหน้าที่รัฐที่ผู้รับผิดชอบเหตุการณ์ตากใบเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในชั้นศาลได้ แม้อัยการจะสั่งฟ้องในคดีอาญาก็ตาม
5.ที่ผ่านมาอดีตนายกฯทักษิณ พยายามแก้ปัญหาภาคใต้ พยายามเปิดโต๊ะพูดคุยเจรจา เพื่อหวังให้เกิดความสงบ แม้จะอยู่นอกประเทศก็ตาม แต่ความพยายามหลายๆ ครั้ง ไม่เป็นผล แถมถูกวิจารณ์ว่าทำให้ปัญหายิ่งร้ายแรหนักขึ้น
@@ ไขปมล่องใต้ เคลื่อนไหวกรอบอาเซีย
มีรายงานว่า การลงพื้นที่ชายแดนใต้วันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ. อดีตนายกฯทักษิณจะไปในวาระเกี่ยวกับอาเซียน ซึ่งเจ้าตัวได้รับแต่งตั้งจาก นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ให้เป็น “ที่ปรึกษาอย่างไม่เป็นทางการ” โดยมีแนวทางการร่วมพัฒนาพื้นที่ชายแดนใต้ของไทย และรัฐตอนเหนือของมาเลเซีย ให้เป็นพื้นที่นำร่องการพัฒนร่วมกันใน “อาเซียนโมเดล”
โดยกำหนดการของอดีตนายกฯทักษิณ มีการพบปะบุคคลสำคัญ และปราชญ์ในพื้นที่ ทั้งศาสนาพุทธ และอิสลาม หลายคน
อ่านประกอบ : ร่างกำหนดการฉบับเต็ม
@@ แนะหาโอกาสในวิกฤติ - เหยื่อตากใบจี้รับผิด ขอโทษ
ไม่ว่าอดีตนายกฯทักษิณ จะลงใต้เพื่อทำภารกิจใด แต่สำหรับคนในพื้นที่ชายแดนใต้ซึ่งยัง “คาใจกับผลงานในอดีต” และเคยเรียกร้องให้อดีตนายกฯ “ขอโทษ” จากเหตุการณ์กรือเซะ ตากใบ น่าสนใจว่าวันนี้พี่น้องเหล่านั้นคิดอย่างไร
“ทีมข่าวอิศรา” ลงพื้นที่สำรวจเสียงจากคนชายแดนใต้ที่ส่งถึง “อดีตนายกฯทักษิณ” ก่อนวันเยือนปลายด้ามขวาน
บุษยมาส อิศดุลย์ ประธานบ้านบุญเต็ม มองว่า เป็นโอกาสที่ดีของคนพื้นที่ เพราะอดีตนายกฯทักษิณ เป็นที่ปรึกษาของประธานอาเซียน การลงใต้จึงน่าจะเป็นมุมบวกในประเด็นเศรษฐกิจให้กับดินแดนแห่งนี้
แต่ถ้ามองในเรื่องของความสันติสุข ก็ต้องมองว่าเหตุการณ์ไฟใต้เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยอดีตนายกฯทักษิณเป็นผู้นำพอดี จึงน่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่ท่านจะได้มาปรับความรู้สึกกับคนในพื้นที่บ้าง
“ปีนี้ทุกคนหวังจะมีรอมฎอนสันติ ทั้งคนพุทธและมุสลิมสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข ขอความสงบกลับคืนมา ไม่หวาดระแวงซึ่งกันและกัน แต่ก็ไม่ได้หวังถึงขนาดว่าต้องให้สำเร็จ แต่ให้มีทิศทางที่ดีขึ้นบ้าง…ก็พอใจแล้ว” ประธานบ้านบุญเต็ม ซึ่งทำงานดูแลเยาวชนที่มีคดีความ ระบุ
อาจารย์ประสิทธิ์ เมฆสุวรรณ นักวิชาการอิสระในจังหวัดชายแดนภาคใต้ อดีตประธานสภาประชาสังคมฯ คนแรก มองว่า การลงพื้นที่ของอดีตนายกฯ เพื่อต่อยอดการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างแน่นอน เป็นการหนุนเสริมการทำงานให้นายกฯแพทองธาร ชินวัตร ผู้เป็นบุตรสาว
“คิดว่านี่คือเหตุผลหลักของการลงพื้นที่” อาจารย์ประสิทธิ์ กล่าว และว่า หากมองในมุมชาวบ้าน ก็มีความคาดหวังว่าอดีตนายกฯจะแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ และมุ่งเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจ เพราะอดีตนายกฯเก่งเรื่องเศรษฐกิจ และการแก้ปัญหายาเสพติด เชื่อว่าชาวบ้านอยากเสนอปัญหาเหล่านี้ให้อดีตนายกทักษิณฯได้แก้ไข
อีกรายเป็น “เหยื่อเหตุการณ์ตากใบ” หายีดิง มัยเซง ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการสลายการชุมนุม และเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมที่หน้า สภ.ตากใบ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 กล่าวว่า อยากให้อดีตนายกฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวของยอมรับความผิดพลาด อยากได้ยินคำพูดที่ยอมรับว่า ลูกน้องกระทำผิดจริง
“สิ่งที่อยากฝากและหวังมาตลอดที่ทุกคนพยายามไปฟ้องศาลคือ อยากให้เขายอมรับผิด อยากได้ยินเขาพูดว่าลูกน้องเขาทำผิดจริง ที่เหลือก็มาเจรจากันได้ แค่ยอมรับผิด ไม่จำเป็นต้องมาพูดที่ตากใบ พูดที่ไหนก็ได้ หรือจะถือโอกาสที่ลงมาครั้งนี้ พูดออกมาก็ดี ขอโทษทุกคน ลูกน้องเขาทำผิดหรือไม่ผิด ก็อยากได้ยิน คือถ้าเขาไม่ผิด เขาหนีทำไม แค่มาบอกว่าเขาทำผิดหรือไม่ผิด ชาวบ้านอยากได้แค่นี้ที่พยายามเรียกร้องมา” หายีดิง กล่าว
ส่วนความคาดหวังในอนาคต อดีตเหยื่อตากใบ บอกว่า อยากให้รัฐบาลแก้เรื่องความเป็นธรรมในพื้นที่ให้มีความมั่นคง และมีความเป็นธรรมจริงๆ อย่าให้มีแค่ความเป็นธรรมแบบเล่นๆ
ปดท้ายที่ นายมะแอ สะอะ หรือ “หะยีสะมะแอ ท่าน้ำ” อดีตแกนนำพูโล ที่กล่าวว่า จริงๆ อดีตนายกฯทักษิณเคยยอมรับผิด เคยขอโทษ และจ่ายเยียวยาแล้ว ฉะนัันการลงมาครั้งนี้ หากมาพูดคุยเจรจากับหลายๆ กลุ่มก็จะเป็นเรื่องดี เพราะปัญหาในพื้นที่ไม่ใช่มีแค่ BRN กลุ่มเดียว
“ผมคิดว่าเป็นโอกาส เพราะคนใกล้ชิดของอดีตนายกฯทักษิณ สามารถคุยกับกลุ่มขบวนการทั้งที่อยู่ในพื้นที่และในมาเลเซียได้” เจ้าของฉายา หะยีสะมะแอ ท่าน้ำ กล่าว
