มีคนจับสังเกตว่า รัฐบาลเพื่อไทยภายใต้การนำของ นายกฯแพทองธาร ชินวัตร กำลังปรับตัว ปรับการทำงาน เพื่อขยับกระแสความนิยมให้ดีขึ้นกว่าเดิม
สัญญาณนายกฯ จากการประชุม ครม.รอบล่าสุด คือ การปรับยุทธวิธี เปลี่ยมเกมสู้
มีข้อสั่งการสำคัญ ปิดจุดอ่อนรัฐบาลทุกจุด
- สั่งกระทรวงยุติธรรมหาช่องทางกฎหมาย หรือมาตรการทางกฎหมาย แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ให้ได้ เรื่องนี้ถ้าทำสำเร็จ หรีอแค่ให้รู้สึกว่าตั้งใจทำจริง จะได้ใจคนหลายๆ ภาคส่วน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่และภาคการท่องเที่ยว
- สั่งทุกกระทรวง มีกฎหมายอะไรคั่งค้าง โดยเฉพาะกฎหมายดีๆ ที่ประชาชนสนใจ ให้รีบเสนอภายในเดือน ม.ค.
- สั่งทุกกระทรวงตั้งโฆษกฝ่ายการเมือง ทำงานควบคู่กับฝ่ายประจำ เพื่อปั๊มข้อมูลข่าวสารผลงานออกสู่สาธารณะประชาชนมากที่สุด
อีกด้านหนึ่ง นายกฯแพทองธารเองก็ปิดจุดอ่อนที่โดนวิจารณ์อย่างหนัก คือ ลงพื้นที่น้อย ไม่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับประชาชน จนเกิดคำถามว่า “ประเทศไทยมีนายกฯหรือเปล่า”
ล่าสุด 9 ม.ค.นายกฯไปภูเก็ต
สุดสัปดาห์นี้ ไปนครพนม และจังหวัดในอีสาน แม้จะไปในภารกิจช่วยหาเสียง อบจ. แต่ก็ทำให้นายกฯได้ลงพื้นที่สัมผัสประชาชนมากขึ้น
จันทร์ที่ 13 ม.ค. ไปนครสวรรค์
พฤหัสฯที่ 16 ม.ค. มีข่าวไปสามจังหวัดใต้ครั้งแรก และใช้เวลากับทุกจังหวัด ทั้งนราธิวาส ปัตตานี และยะลา
“ทีมข่าวอิศรา” ได้รับคำยืนยันจากหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ระบุว่า นายกฯแพทองธาร เตรียมเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อตรวจเยี่ยม ติดตามการแก้ปัญหาและการพัฒนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้จริง ซึ่งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่คาดว่า วัน ว.เวลา น.ที่จะล่องชายแดนใต้ น่าจะอยู่ระหว่างวันที่ 16 ม.ค.หรือใกล้เคียง
สาเหตุที่ให้น้ำหนักว่าลงพื้นที่ค่อนข้างแน่ เพราะมีเอกสารกำหนดการเป็น “ร่าง” หรือ “ดราฟต์” ออกมาแล้ว และค่อนข้างละเอียด
จุดแรก เดินทางไปยัง จ.นราธิวาส
เวลา 07.30 น. นายกรัฐมนตรีจะเดินทางโดยเครื่องบิน จาก บน.6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนราธิวาส และเดินทางต่อโดยเฮลิคอปเตอร์ จากท่าอากาศยานนราธิวาส ไปยังสนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส และไปยังมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
จุดนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะจะร่วมประชุมเร่งรัดติดตามความคืบหน้างานด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ ห้องประชุมสภามหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ชั้น 2 คาดว่าจะมีการหารือเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และโครงการรถไฟทางคู่หาดใหญ่ - สุไหงโก-ลก โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย
จากนั้นในเวลา 09.45 นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางโดยรถยนต์ไปยัง “ลานพิกุล” มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อพบปะนักศึกษาและผู้ปกครองที่เข้าร่วม “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความยุติธรรม” จัดโดยกระทรวง ยุติธรรม และกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)
เวลา 11.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์จากสนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส ไปยังสนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี และเดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดปัตตานี เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน
เวลา 13.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะร่วมประชุมติดตามความคืบหน้างานด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ ห้องประชุม ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดปัตตานี คาดว่าจะมีการหารือโครงการขุดลอกและบำรุงรักษาร่องน้ำชายฝั่งทะเลที่ร่องน้ำปัตตานี และจุดจอดพักเรือจังหวัดปัตตานี
รวมทั้งยังจะมีการหารือ โครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (Soft Loan) ก่อนจะเปิดรับฟังข้อคิดเห็นผู้ประกอบการอุตสาหกรรมประมงจังหวัดปัตตานี
เวลา 14.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางไปยังค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี และเดินทางต่อไปยังโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ อ.เมือง จ.ยะลา เพื่อพบปะผู้นำศาสนา นักเรียนโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ
เวลา 16.05 น. นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์จากค่ายสิรินธร ไปยังท่าอากาศยานนราธิวาส และเดินทางกลับกรุงเทพฯ
ข่าวจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ระบุว่า ทีมงานนายกฯแพทองธารยังไม่คอนเฟิร์ม หรือยืนยันการเดินทาง ทั้งวันที่ 16 ม.ค. และกำหนดการต่างๆ แต่เป็นข้อมูลที่ฝ่ายประจำในพื้นที่ทำเสนอไปยังส่วนกลางและทีมงานของนายกรัฐมนตรี
งานนี้จึงยังต้องรอลุ้นว่าจะได้เห็นนายกฯแพทองธาร ที่ชายแดนใต้ครั้งแรกหรือไม่
แต่เมื่อสอบถามฝ่ายการเมือง ได้รับคำยืนยัน “ได้เห็นตัวเป็นๆ แน่”