แม่ทัพภาค 4 สร้างปรากฏการณ์ใหม่ ลงพื้นที่กิน–นอนร่วมกับกำลังพลในฐานทหารพรานเจาะไอร้อง รำลึก 21 ปี “ปล้นปืนค่ายปิเหล็ง” ปลุกขวัญกำลังใจให้ก้าวผ่านคืนวันอันขมขื่น มุ่งมั่นนำสันติสุขกลับคืนพื้นที่ ส่วนที่ปัตตานี 2 คนร้ายควบมอเตอร์ไซค์กราดยิงป้อมจุดตรวจตำรวจโคกโพธิ์ โชคดีไร้เจ็บ
ช่วงค่ำของวันศุกร์ที่ 3 ม.ค.67 พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 เดินทางไปยังค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เพื่อตรวจเยี่ยมและนำขวัญกำลังใจสู่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน รวมไปถึงประชาชนในพื้นที่ เพื่อรำลึก 21 ปี เหตุการณ์ “ปล้นปืนค่ายปิเหล็ง” จับมือก้าวผ่านคืนวันอันขื่นขม ท่ามกลางความมุ่งมั่นที่จะนำสันติสุขกลับคืนมาในพื้นที่ โดยมีคณะผู้บังคับบัญชา ตลอดจนผู้แทนส่วนงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่พร้อมกัน
จุดแรก แม่ทัพภาคที่ 4 ไปตรวจเยี่ยมชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) บ้านตาโง๊ะ หมู่ 2 พบปะกับผู้นำชุมชนตลอดจนเจ้าหน้าที่ ชรบ. ซึ่งผู้นำชุมชนและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ถือเป็นปราการแรกที่จะสร้างการรับรู้และความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ในกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐที่มุ่งหวังปฏิบัติงานเพื่อประชาชน
จากนั้นเดินทางต่อไปยังชุดปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 4812 (ชป.ร้อย ทพ.4812) ได้เข้าตรวจเยี่ยม พบปะพูดคุย สร้างขวัญให้กำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประจำหน่วย ได้สอบถามความเป็นอยู่ รวมไปถึงปัญหาข้อขัดข้องต่างๆ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป โอกาสนี้แม่ทัพภาคที่ 4 ยังได้ร่วมวงทำอาหาร และทานข้าวร่วมกับเจ้าหน้าที่ประจำฐานปฏิบัติการอีกด้วย
ต่อมาแม่ทัพภาคที่ 4 ไปติดตามภารกิจการปฏิบัติงานของชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ กองร้อยทหารพรานที่ 4812 ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรักษาความปลอดภัยให้กับพื้นที่และประชาชน โดยได้ให้คำแนะนำเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติภารกิจ ต้องมีความพร้อมในทุกสถานการณ์ ไม่ประมาท หมั่นซักซ้อมแผนเผชิญเหตุอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน รวมทั้งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและความเข้าใจถึงการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่
หลังจากจบภารกิจตรวจเยี่ยมแล้ว แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ร่วมพักแรมร่วมกับเจ้าหน้าที่ ที่ ชป.ร้อย ทพ.4812 พร้อมกล่าวสั้นๆ ว่า “ตั้งใจว่าจะมาร่วมอยู่ ร่วมกิน ร่วมนอนกันในที่แห่งนี้ เพื่อที่จะเป็นขวัญและกำลังใจให้พวกเราทุกคนได้เห็นว่า ในวงรอบ ในช่วงเวลาที่มันถูกจารึกไว้ จะต้องไม่ให้มันเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้นมาอีก”
สำหรับเหตุการณ์ 4 มกราคม 2547 เมื่อ 21 ปีก่อน มีผู้ก่อเหตุราว 150 คน บุกปล้นปืนไปจากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือ "ค่ายปิเหล็ง" ไปกว่า 413 กระบอก และทำให้ทหารเวรเสียชีวิต 4 นาย นับเป็นปฐมบทของไฟใต้รอบปัจจุบันที่คุโชนขึ้น มีการก่อเหตุร้ายเกือบจะรายวัน ยืดเยื้อมานานถึง 21 ปี
@@ 2 คนร้ายกราดยิงป้อมจุดตรวจโคกโพธิ์
ด้านสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในค่ำคืนวันเดียวกัน (3 ม.ค.68) มี 1 เหตุการณ์ในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เวลา 19.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกโพธิ์ รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงใส่ป้อมจุดตรวจ ริมถนนเพชรเกษม (นาเกตุ - โคกโพธิ์) ในพื้นที่หมู่ 7 ต.โคกโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ แต่โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. ประมาณ 25-30 ปลอก และปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 7 ปลอก จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน เพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ขยายผลถึงคนร้ายต่อไป
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดตรวจ จำนวน 5 นาย อยู่ระหว่างเตรียมพร้อมซ้อมแผนเผชิญเหตุภายป้อม ซึ่งเป็นตู้ยามเกราะกันกระสุน ปรากฏว่ามีคนร้าย 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและป้ายทะเบียนเป็นพาหนะ ขับมาจากแยกนาเกตุ เมื่อรถแล่นก่อนถึงป้อมจุดตรวจประมาณ 100 เมตร คนร้ายทั้ง 2 ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ด้านหลังป้อมจ กระสุนถูกหลังคาและเสาวิทยุ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 5 นายปลอดภัย
หลังก่อเหตุคนร้ายได้วกรถจักรยานยนต์กลับไปในเส้นทางเดิม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ในป้อมจุดตรวจไม่สามารถที่จะยิงตอบโต้คนร้ายได้ เนื่องจากเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีมีประชาชนสัญจรไปมา เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ