เปิดแผนประทุษกรรมกลุ่มคนร้ายดักสังหาร “จ่าทหารพรานมูอัลลัฟ” คาคอกวัวใกล้บ้านภรรยาที่สุไหงปาดี คาดมากันไม่ต่ำกว่า 4 คน รัวเอ็ม 16 - อาก้าจนล้มทั้งยืน ก่อนตามจ่อยิงซ้ำ ชิงปืนพก พร้อมอาวุธสงครามในรถก่อนหนี
ความคืบหน้าเหตุคนร้ายซุ่มยิง จ.ส.อ.อนัน มณีโชติ อายุ 45 ปี เจ้าหน้าที่การข่าว หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 เสียชีวิตบริเวณหน้าคอกวัวใกล้บ้านภรรยา ในพื้นที่บ้านโคกตา หมู่ 1 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เมื่อช่วงเย็นของวันอ้งคารที่ 31 ธ.ค.67 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเหตุร้ายส่งท้ายปีจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
โดย จ.ส.อ.อนัน จัดเป็น “ทหารมูอัลลัฟ” คือนับถือศาสนาอื่นก่อนเข้ารับอิสลาม เพราะต้องการแต่งงานอยู่กินฉันสามีภรรยากับหญิงมุสลิม ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐกลุ่มนี้มีจำนวนไม่น้อย และตกเป็นเป้าสังหารของกลุ่มก่อความไม่สงบมาโดยตลอด อีกทั้งหลังก่อเหตุสังหาร จ.ส.อ.อนัน คนร้ายยังเผารถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีขาว ป้ายทะเบียนพัทลุง ของผู้ตาย วอดทั้งคันด้วย ทำให้เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า อาจเป็นการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง
ต่อมาเวลา 10.45 น. วันพุธที่ 1 ม.ค.68 พ.ต.อ.นิยม สุวรรณคง ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วย พ.ต.อ.อัสรี ต่วนเพ็ง ผู้กำกับการ สภ.สุไหงปาดี พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และชุดสุนัขดมกลิ่น ได้เดินทางเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียด โดยใช้สุนัขดมกลิ่นเคลียร์ก่อน คล้ายเป็นหน่วยล่วงหน้า เพื่อความปลอดภัย
บริเวณที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนสงครามเอ็ม 16 และอาก้า ตกอยู่จำนวนเกือบ 10 ปลอก และบริเวณฝั่งตรงข้าม ค่อนไปทางขวา ห่างจากรถกระบะที่ถูกเผา เจ้าหน้าที่ยังพบปลอกกระสุนปืนทั้ง 2 ชนิดตกอยู่จำนวนใกล้เคียงกัน
นอกจากนั้นบริเวณพุ่มไม้และพงหญ้ารกทึบที่อยู่ตรงกันข้ามกับประตูทางเข้าคอกวัว เจ้าหน้าที่พบรอยเหยียบย่ำกิ่งไม้และต้นไม้ซึ่งเป็นพืชล้มลุกจนเตียนราบ คาดว่าเป็นจุดที่คนร้ายใช้ซุ่มยิง เจ้าหน้าที่จึงเก็บหลักฐานและวัตถุพยานทั้งหมดไปตรวจสอบ
@@ จ่อยิงซ้ำจนเสียชีวิต พร้อมฉกปืนพก – อาก้าไปด้วย
จากการสอบสวนพยานแวดล้อม และประเมินสถานที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานแผนประทุษกรรมของคนร้ายว่า ก่อนเกิดเหตุ จ.ส.อ.อนัน เดินทางไปตัดหญ้าให้วัว และขนขึ้นรถกระบะจนเต็มท้ายกระบะ จากนั้นจึงได้ขับรถไปจอดเพื่อเปิดประตูคอกวัว จะได้ลำเลียงหญ้าให้วัว ทันใดนั้นคนร้ายที่ดักซุ่มอยู่ในพุ่มไม้และพงหญ้ารกทึบอีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับประตูคอกวัว ได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม16 และอาก้ายิงใส่จำนวนหลายนัด
เมื่อเสียงปืนดัง จ.ส.อ.อนัน ได้เปิดประตูรถ และวิ่งหาที่กำบัง แล้วใช้อาวุธปืนพก ขนาด 9 มม.ที่ติดตัวอยู่ ยิงต่อสู้กับกลุ่มคนร้ายซึ่งคาดว่า มีอย่างต่ำ 4 คน แต่ด้วยคนร้ายมีจำนวนมากกว่า จ.ส.อ.อนัน จึงถูกคนร้ายยิงจนล้มลง เมื่อคนร้ายเห็นแบบนั้น จึงวิ่งเข้าไปประชด และใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงซ้ำที่ศีรษะและใบหน้า เพื่อให้มั่นใจว่า จ.ส.อ.อนัน เสียชีวิต
จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้หยิบอาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ของ จ.ส.อ.อนัน ที่ทำตกไว้ พร้อมทั้งได้แยกย้ายกันค้นภายในรถกระบะ พบอาวุธปืน อาก้าของ จ.ส.อ.อนัน อีก 1 กระบอกที่เก็บไว้ภายในแค็บหลังเบาะคนขับ คนร้ายจึงชิงไปด้วย แล้วได้วางเพลิงเผารถ ก่อนจะอาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไป
@@ หัวหน้า - เพื่อนทหารพราน ร่วมพิธีฝังศพท่ามกลางความโศกเศร้า
วันเดียวกัน พ.อ.ปัญจพล ทรัพย์บวร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 (ผบ.ฉก.ทพ.48) และผู้บังคับกองร้อย จากฐานปฏิบัติการต่างๆ ในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส ได้เดินทางไปยังบ้านภรรยาของ จ.ส.อ.อนัน ในพื้นที่ หมู่ 1 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 700 เมตร เพื่อไปร่วมพิธีอาบน้ำศพ ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายไปฝังที่กุโบร์บ้านต้นไม้สูง หมู่ 2 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี
โดย พ.อ.ปัญจพล ได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่งแก่ภรรยาของ จ.ส.อ.อนัน โดยภรรยาถึงกับร่ำไห้ออกมา ท่ามกลางความเศร้าเสียใจของผู้ที่ไปร่วมพิธี