ฝนเริ่มทิ้งช่วง ส่งผลน้ำท่วมยะลาใกล้กลับสู่ภาวะปกติ เช่นเดียวกับนราธิวาสแม่น้ำ 3 สายหลักระดับน้ำลดต่อเนื่องเหลือแค่ท่วมขังบางพื้นที่ ส่วนที่เบตงเจอดินสไลด์หนัก ลานจอดรถเทศบาลพังยับ ขณะที่ปัตตานียังอ่วม น้ำเขื่อนบางลางทะลักซ้ำ บางพื้นที่สูงกว่า 2 เมตร ด้านพูโลแถลงหยุดก่อเหตุ อ้างมนุษยธรรมช่วงอุทกภัย
วันอาทิตย์ที่ 1 ธ.ค.67 สถานการณ์น้ำท่วมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้หลายๆ พื้นที่เริ่มคลี่คลายไปบ้างแล้ว หลังจากที่ฝนได้หยุดตกและระดับน้ำในแม่น้ำสายต่างๆ เริ่มลดระดับลงเรื่อยๆ แต่ก็ยังมีบางพื้นที่ยังประสบปัญหาน้ำท่วมขังอยู่ โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ
หลังจากฝนหยุดตกสถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลายแล้วใน 5 อำเภอ คือ อ.บันนังสตา อ.กาบัง อ.กรงปินัง อ.ธารโต และ อ.เบตง ส่วน อ.ยะหา อ.เมืองยะลา และ อ.รามัน ยังคงมีน้ำท่วมขังในบ้างพื้นที่
ในเขตเทศบาลนครยะลา หลายๆ ชุมชนน้ำลดลงจนเกือบเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว อย่างพื้นที่ ย่านตลาดเก่ายะลาและตลาดเมืองใหม่ แต่ยังมีบางจุด อย่างในซอยที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำก็ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่
ส่วนพื้นที่ชุมชนบ้านร่ม ชุมชนสะเตง ชุมชนสาย 15 และชุมชนอื่นๆ บางพื้นที่น้ำลดจนเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ชาวบ้านต่างเร่งฟื้นฟูทำความสะอาดบ้านของตัวเอง หลังจากโดนน้ำท่วมขังนานถึง 4 วัน แต่ส่วนใหญ่ยังไม่ยกสิ่งของลงจากที่สูง เพราะต้องเฝ้าระวังฝนตกระลอกใหม่
ขณะที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จ.ยะลา ได้รายงาน สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย.67 – 1 ธ.ค.67 ทำให้บ้านเรือน ทรัพย์สินของประชาชน สถานศึกษา พื้นที่การเกษตร และสิ่งสาธารณประโยชน์ได้รับความเสียหาย ในพื้นที่ 8 อำเภอ 58 ตำบล 358 หมู่บ้าน 45 ชุมชน
มีประชาชนได้รับผลกระทบ 43,168 ครัวเรือน 181,797 คน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย มีผู้อพยพ 1,644 ครัวเรือน 5,375 คน ( ยะหา รามัน และเมืองยะลา) น้ำท่วมถนน 196 สาย สะพานเสียหาย 10 แห่ง เสาไฟฟ้าเสียหาย 41 ต้น และน้ำท่วมโรงเรียน 169 แห่ง
@@ ดินสไลด์หนัก ลานจอดรถเทศบาลเบตงพังยับ
ในช่วงเช้าของวันเดียวกัน ได้เกิดเหตุดินสไลด์ดันพื้นที่จอดรถด้านหลังอาคารสำนักงานเทศบาลเมืองเบตง (หลังใหม่) อ.เบตง จ.ยะลา ส่งผลให้ลานจอดรถด้านหลังอาคาร ที่มีความยาว 70 เมตร ได้รับความเสียหาย พื้นปูนลานจอดรถแตกและดินใต้พื้นดันขึ้นมาความสูงเท่าชั้น 2 ของอาคาร ทำให้รถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณดังกล่าวจำนวน 10 คัน ติดอยู่ในพื้นที่ดินสไลด์
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองเบตงทั้งชายหญิง ต่างก็รีบเดินทางมาดูและช่วยกันขนข้าวของ เอกสารสำคัญต่างๆ ออกมาจากตัวอาคารสำนักงาน ไปยังสำนักงานหลังเก่า หรือ ศูนย์บริการสาธารณสุข เทศบาลเมืองเบตงปัจจุบัน
นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดจากที่ก่อนหน้านี้ ได้มีฝนตกติดต่อกันหลายวันจนดินอุ้มน้ำไม่ไหวเกิดดินสไลด์ลงมา เมื่อดินที่สไลด์ลงมาโดนเข้ากับตัวตึกที่ขวางอยู่และมีน้ำหนักมาก จึงทำให้ดินดันพื้นปูนลานจอดรถขึ้นมาด้านบน จนทำให้พื้นที่ลาดจอดรถได้รับความเสียหาย ขณะนี้ได้ประสานไปทางสภาวิศวกรโยธาจังหวัดยะลา ให้ส่งเจ้าหน้าที่ลงมาช่วยตรวจสอบอาคาร และโครงสร้างต่างๆ ก่อนที่จะมาวางแผนวิเคราะห์ว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป
“แต่เบื้องต้นได้ให้เจ้าหน้าที่ย้ายออกจากอาคารนี้ทั้งหมดแล้ว ให้ไปทำงานที่ สำนักงานอาคารเทศบาลเมืองเบตงหลังเก่า ยกเว้น กองช่างเทศบาลเมืองเบตง ที่ให้ไปตั้งสำนักงานชั่วคราวที่ ศูนย์ประสานงานที่ด่านพรมแดนเบตง และของดให้บริการประชาชนชั่วคราวระหว่างวันที่ 2 - 3 ธ.ค.67 ยกเว้นงานทะเบียนราษฎร และบริการสาธารณสุข ณ ที่ทำการเทศบาลเมืองเบตง (หลังเก่า) ยังเปิดให้บริการตามปกติ” นายกเทศมนตรีเมืองเบตง
@@ แม่น้ำนราธิวาส 3 สายหลักลดต่อเนื่องหลังฝนขาดเม็ด
ด้านสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.นราธิวาส หลังฝนทิ้งช่วงตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลัก 3 สาย คือ แม่น้ำบางนรา แม่น้ำสายบุรีและแม่น้ำโก-ลก ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้พื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ปริมาณน้ำท่วมขังลดลง แต่ก็ต้องใช้เวลานานกว่า 1 สัปดาห์ กว่าสภาวะน้ำท่วมขัง จะกลับคืนมาสู่สภาวะปกติ
ล่าสุด จ.นราธิวาส ได้สรุปผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมที่ได้เกิดขึ้นในพื้นที่ 13 อำเภอ 77 ตำบล 591 หมู่บ้าน 74 ชุมชน 1 ซอย 98,051 ครัวเรือน 358,602 คน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และผู้บาดเจ็บ 1 ราย
นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนที่ถูกกระแสน้ำพัดเสียหายทั้งหลัง จำนวน 2 หลังและเสียหายบางส่วน 17 หลัง มัสยิดถูกน้ำท่วมขัง 60 แห่ง วัดถูกน้ำท่วมขัง 35 แห่ง โรงเรียนมีน้ำท่วมขัง 250 แห่ง สถานที่ราชการน้ำท่วมขัง 18 แห่ง ถนนถูกน้ำท่วมขัง 148 สาย คอสะพานถูกน้ำพัดเสียหาย 7 แห่ง ดินสไลด์ทับเส้นทาง 17 สาย เสาไฟฟ้าล้มทับเส้นทาง 12 แห่ง พื้นที่ทางการเกษตรน้ำท่วมขัง 4,843 ไร่
@@ ปัตตานียังอ่วม เจอน้ำเขื่อนท่วมซ้ำ บางพื้นที่สูงกว่า 2 เมตร
ส่วนพื้นที่ จ.ปัตตานี ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเข้าวันที่ 6 แล้ว ในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองปัตตานี ย่านเศรษฐกิจหลักของจังหวัดยังคงมีน้ำท่วมสูง ถนนหลายสายรถไม่สามารถผ่านได้และถนนบางสายผ่านได้เฉพาะรถใหญ่ เช่นเดียวกับพื้นที่รอบนอก อีกหลายอำเภอของปัตตานียังคงเกิดน้ำท่วมและมีระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บางพื้นที่ระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร
ขณะที่การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ หน่วยงานต่างๆ ได้มีระดมกันเข้าไปช่วยเหลือขนย้ายและนำอาหาร รวมถึงสิ่งของจำเป็นในการยังชีพเข้าไปมอบให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ อีกทั้งยังมีพี่น้องจากหลายพื้นที่ต่างเดินทางเข้ามาช่วยเหลือจำนวนมาก เนื่องจากเส้นทางบางสายรถใหญ่สามารถสัญจรได้ ทำให้การช่วยเหลือเข้าถึงชาวบ้านผู้ประสบภัยได้มากขึ้น
ทั้งนี้ยังได้การตั้งศูนย์พักพิงระดับจังหวัดขึ้น 5 แห่ง และศูนย์พักพิงระดับอำเภอทั้ง 12 อำเภอ รวม 362 แห่ง เพื่อรองรับผู้ประสบภัยที่อพยพออกมาจากพื้นที่น้ำท่วมสูง
แม้ว่าฝนจะทิ้งช่วงหยุดตกไปแล้ว แต่พื้นที่ จ.ปัตตานี ก็ยังต้องรับมวลน้ำจาก จ.ยะลา รวมไปถึงมวลน้ำที่ถูกปล่อยมาจากเขื่อนบางลาง เมื่อเวลา 01.00 น. - 12.00 น.ของวันนี้ ( 1 ธ.ค.67) ซึ่งเขื่อนบางลางได้ทำการระบายน้ำรวม 6 ล้าน ลบ.ม. และอีกช่วงหลังจากเวลา 12.00 น. - 23.59 น. เขื่อนจะระบายน้ำรวมอีก 7 ล้าน ลบ.ม.
ส่วนในเวลา 00.00 น. – 23.59 น. วันที่ 2 ธ.ค.67 เขื่อนบางลางจะทำการระบายน้ำอีกระลอก รวม 16 ล้าน ลบ.ม. ทำให้ จ.ปัตตานี อาจจะต้องประสบภัยน้ำท่วมแบบทรงตัวเช่นนี้ไปอีกหลายวันกว่าจะกลับสู่สภาวะปกติ แต่หากในพื้นที่ไม่เกิดฝนตกเลยก็คาดว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติได้โดยเร็ว
ด้านรายงานสรุปสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.ปัตตานี ล่าสุดปรากฎว่า มีพื้นที่ประสบอุทกภัยจำนวน 12 อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 115 แห่ง 647 หมู่บ้าน 46 ชุมชน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 147,002 ครัวเรือน 428,223 ราย มีผู้เสียชีวิต 7 ราย
ส่วนพื้นที่ด้านการเกษตรได้รับความเสียหาย 71,721 ไร่ ด้านการประมง (บ่อเลี้ยงปลา) มูลค่าความเสียหาย 26,897,254.98 บาท ด้านปศุสัตว์ มีสัตว์ได้รับผลกระทบ 362,203 ตัว และสิ่งสาธารณประโยชน์เสียหาย 74 แห่ง สถานศึกษาได้รับผลกระทบ 580 แห่ง
@@ ม.อ.ปัตตานีเปิด 3 โรงครัวปรุงอาหารกล่องแจกผู้ประสบภัย
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ร่วมกับ หน่วยงาน บพท. และโอตานิ จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเปิดโรงครัว 3 แห่ง ได้แก่ โรงครัวกองพัฒนานักศึกษาวิทยาเขตปัตตานี, โรงครัวคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, และโรงครัวร่วมกับเทศบาลต.รูสะมิแล เพื่อสนับสนุนการแจกจ่ายอาหารและสิ่งของจำเป็นแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยทุกวัน
โดยที่ครัวกลาง ณ อาคารอเนกประสงค์ลาแมสะมิแล เป็นจุดศูนย์กลางในการปรุงอาหารจำนวนกว่า 1,000 กล่องต่อวัน เพื่อแจกจ่ายแก่นักศึกษา บุคลากร และประชาชนในพื้นที่โดยรอบ ม.อ.ปัตตานี ส่วนโรงครัวคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะส่งมอบอาหารกล่องและน้ำดื่ม ให้กับศูนย์พักพิงชั่วคราวโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ต.ปะกาฮะรัง อ.เมืองปัตตานี จ.ปัตตานี
@@ พูโลแถลงหยุดป่วนช่วงเกิดอุทกภัย
ด้านนายกัสตูรี มะห์โกตา ประธานองค์การปลดปล่อยสหปาตานี หรือ PULO ได้ออกแถลงการณ์ในช่วงที่เกิดอุทกภัยในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีเนื้อการะบุว่า ขอให้ทุกคนให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภายใต้ไม่ว่าศาสนาหรือเชื้อชาติใด โดยทางพูโลขอยุติการก่อเหตุทุกรูปแบบในช่วงนี้ เพื่อมนุษยธรรมและให้มีการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม